หมายรับสั่ง เรื่อง แห่พระมงคลหัสดินทร์ที่ล้มไปฝังที่ปากลัด

​ด้วย พระยารักษมณเฑียรรับพระราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า พระยามงคลหัสดินทร์ป่วยล้มลง ณ วันเดือน ๙ ขึ้น ๑๓ ค่ำ ปีวอก อัฐศก เพลาบ่ายโมง จะได้ลากศพพระยาช้างมงคลหัสดินทร์ออกประตูวิเศษไชยศรีเลี้ยวไปทางหน้าจักรวรรดิ์ไปลงท่าเรือจ้างหน้าวัดพระเชตุพนนั้น ให้พันพุฒ พันเทพราช จ่ายเลกให้ ๔ ตำรวจ ๓๐๐ คน พันพรหมราชบรรจุเรือดั้ง ๒ ลำ ราชมานูตีกลอง ๑๑ คน อภิรมย์ถือเครื่องสูง ๑๐ คน จ่ายแต่ ณ วันเดือน ๙ ขึ้น ๑๓ ค่ำ

อนึ่งให้ ๔ ตำรวจรับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราช ๓๐๐ คน ไปลากศพพระยาช้างให้ทันกำหนด แล้วให้เอาเสาไม้ไผ่ ๔ เสาไปปักในเรือขนาน แล้วให้ทำโครงเพดานดาดผ้าขาวสูงต่ำ กว้างยาวพอสมควรศพพระยาช้าง แล้วให้ทำรั้วไก่ไปปักที่เรือขนานให้รอบทั้ง ๔ ด้าน ให้เร่งเบิกยืมผ้าขาวต่อชาวพระคลังวิเสทไปทำให้แล้ว แต่ ณ วันเดือน ๙ ขึ้น ๑๓ ค่ำ

อนึ่ง ให้ชาวพระคลังวิเสทรับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราช ๓๐ คน ผูกเรือขนาน ๒๐ ลำ ถอยมาจอดประทับรับศพที่หน้าท่าเรือจ้างหน้าวัดพระเชตุพน แล้วให้จ่ายยืมผ้าขาวให้ ๔ ตำรวจ ดาดเพดานให้พอ

อนึ่งให้หลวงราชมานูจัดกลองชนะ ๕ คู่ จ่าปี่ ๑ จ่ากลอง ๑ ให้ใส่เสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดงทุกคน ให้รับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราช มาตีกลอง ๑๐ คน ให้มาตีประโคมจนถึงที่ฝัง

อนึ่งให้ชาวพระอภิรมย์จัดเครื่องเบญจา ๑๐ คัน ให้รับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราช มาเชิญเครื่อง ๑๐ คน ให้เอาเครื่องเบญจา^๑ไปลงเรือขนาน ณ วันเดือน ๙ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เพลา ย่ำฆ้องรุ่ง

อนึ่งให้พันพรหมราชเกณฑ์เรือดั้งเป็นคู่ชัก ๒ ลำ ให้รับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราช บรรจุพลพายให้ครบกระทง ให้ใส่เสื้อแดง ใส่หมวกแดงทุกคน ให้รับกลองชนะลงลำละ ๕ คน

​อนึ่งให้พันจันท์เกณฑ์เรือกราบข้าราชการเป็นคู่ชัก ๒๐ ลำ มีธงมังกรลำละคัน ให้ไปพร้อมกันที่ท่าเรือจ้างหน้าวัดพระเชตุพน แต่ ณ วันเดือน ๙ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เพลาย่ำฆ้องรุ่ง

อนึ่งให้กรมพระนครบาลไปคอยศพพระยาช้าง ณ ท่าปากลัดข้างเหนือ ถ้าศพพระยาช้างไปถึงแล้ว ให้ขุดหลุมฝังศพพระยาช้าง ให้กลบปิดให้มิดชิดดี

อนึ่งให้สังฆการีนิมนต์พระสงฆ์บังสุกุล ๕๐๐ รูป ให้นิมนต์ไปชักที่ท่าเรือจ้าง แต่ ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่งให้ชาวพระคลังในซ้าย ให้ชาวพระคลังในขวา จัดเครื่องไทยทาน ถวายพระสงฆ์ บังสุกุล ๕๐๐ รูป มหาบังสุกุล ๕ รูป ให้พอตามรับสั่ง

คัดจากหมายรับสั่ง ร.๓ จ.ศ. ๑๑๙๘ เลขที่ ๔ สมุดไทยดำ