หมายรับสั่ง เรื่อง ให้หมายบอกข้าราชการแต่งตัวเข้าเฝ้าตามลำดับยศ และให้เจ้าพนักงานจัดเตรียมการต้อนรับแขกเมืองมะริกันให้พร้อม

ด้วย พระยาพิพัฒนโกษารับพระราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า ฝรั่งเจ้าเมืองมะริกันแต่งให้ เอศแมนรอเบ็ด ๑ คน จันนาตี นายทหาร ๒ คน ล่าม ๑ คน เอาหนังสือสัญญาเข้ามาเปลี่ยน กับคุมเครื่องราชบรรณาการเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย แขกเมือง จะได้ขึ้นเฝ้ากราบถวายบังคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ณ วันเสาร์ เดือน ๖ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีวอก อัฐศก เพลาย่ำฆ้องรุ่ง และจะเสด็จออกแขกเมืองครั้งนี้ออกใหญ่ เหมือนเมื่อครั้งเอศแมนรอเบ็ดเฝ้า เมื่อครั้งปีมะโรง จัตวาศกนั้น ให้มหาดไทย กลาโหม พระสัสดีหมายบอกข้าราชการ ผู้ใหญ่ผู้น้อย ฝ่ายทหาร พลเรือน พระราชวังหลวง พระราชวังบวร ให้นุ่งผ้าสมปักลาย ให้ใส่เสื้อเข้มขาบชั้นใน ใส่เสื้อครุยขาวชั้นนอก แล้วให้เอาเจียด กระบี่ ถาดหมาก คนโท ทองเงิน มาตั้งกินในที่เฝ้าตามบรรดาศักดิ์ จงทุกหมู่ จงทุกกรม อย่าให้ขาดได้ และแขก จีน ลาว ฝรั่ง พม่า ทวาย มอญนั้น ให้แต่งตัวนุ่งผ้าตามภาษา ให้มาพร้อมกันตามกำหนด

อนึ่ง ให้หลวงราชมานูจัดกลองชนะ ๑๖๐ จัดจ่าปี่ ๒ จ่ากลอง ๒ จัดแตรงอน ๔๐ แตรฝรั่ง ๑๐ จัดสังข์ ๒ เข้าไปเตรียมประโคม แล้วให้รับดอกไม้ทองต่อชาวพระคลังมหาสมบัติ เข้าไปทูลเกล้าฯ หน้าพระที่นั่ง

อนึ่ง ให้มหาดเล็กรับพานพระขันหมาก พระครอบต่อท่านข้างใน เชิญไปตั้งริมพระที่นั่งเศวตฉัตร

เมื่อเสด็จออกแขกเมืองแล้ว ให้คอยตีกรับตามอย่างแต่ก่อน แล้วให้ไปรับพระแสงรายตีนตองต่อกรมพระแสงใน มาเชิญรับเสด็จ ๑๒ องค์

อนึ่ง ให้ขุนสารประเสริฐ ขุนมหาสิทธิ กรมอาลักษณ์แต่งคำพระราชปฏิสันถาร ทูลเกล้าฯ ถวาย

อนึ่ง ให้ชาววังแต่งที่รับเสด็จ แล้วให้แต่งตัวสีชาววังคอยชักม่านสองไข แล้วให้นายปลัดวังซ้าย ปลัดวังขวา ออกไปหาแขกเมือง ให้หลวงราชฤทธานนท์ หลวงนนทเสนนำแขกเมืองกับล่ามพนักงาน เดินเป็นคู่กันนำแขกเมืองๆ ถือพานดอกไม้ธูปเทียน เข้าประตูพิมานไชยศรี ครั้นถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยในที่เฝ้า แล้ววางพานธูปเทียน พานดอกไม้ ลงตรงหน้า กราบถวายบังคมสามครั้ง กรมอาลักษณ์ทูลเบิกแขกเมือง จึงทรงพระกรุณาดำรัสคำพระราชปฏิสันถารสามครั้ง แล้วอาลักษณ์กราบทูลสืบคำแขกเมือง

อนึ่ง ให้ขุนทินบรรณาการ ขุนธารกำนัลขานพระขันหมาก ตั้งหมากเวียนให้แขกเมืองรับพระราชทาน

อนึ่ง ให้พระยาศรีสหเทพ พระนรินทรเสนี เกณฑ์ขุนหมื่นนั่งทิมดาบคด ๖๐ คน นั่งทิมดาบกรมวัง ๑๕๐ คน นั่งทิมสงฆ์ ๕๐ คน นั่งศาลาลูกขุนซ้าย ๘๐ ขวา ๘๐ (รวม) ๑๖๐ คน นั่งทิมดาบชั้นใน ๓ ทิม ๓๐๐ คน (รวม) ๗๒๐ คน ให้พันพุฒ พันเทพราช เกณฑ์ไพร่หลวงนั่งกลาบาตถือปืน ดาบ โล่ เขน ทวน หอกคู่ ดาบดั้ง ดาบเชลย ถือปืนยืนรักษาประตู ถือตระบองยืนรักษาโรงพระยาช้าง ๒๐ ถือแซ่หางม้า ๘ โต๊ะกล้วยอ้อย ๘ ให้พร้อม เกณฑ์ขุนหมื่นกรมทวนทองซ้าย กรมทวนทองขวา ถือทวนนั่งกลางช้างดั้ง ๔ คน ใส่เสื้อ ใส่พอกเดชา นุ่งกางเกงคาดเจียรบาดปัก ส่งให้กรมช้าง

อนึ่ง ให้ชาวนาฬิกาเอากลองมโหรทึกคู่หนึ่งเข้าไปตั้งเตรียมประโคม เมื่อเสด็จออกแขกเมือง

อนึ่งให้ชาวพระคลังมหาสมบัติเอาเจียดทอง เจียดถมยาจุกทอง เข้าไปตั้งในที่เฝ้า แล้วให้เอากระโถนขันน้ำถมยาตะทอง เข้าไปให้แขกเมืองในที่เฝ้า ๒ สำรับ เอาเครื่องราชบรรณาการเข้าไปตั้งทูลเกล้าฯ ถวายตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ให้ ๔ ตำรวจเข้าไปปลูกโรงปะรำ ดาดผ้าขาวช้างต้น พลาย ๓ พัง ๒ (รวม) ๕ ปะรำ ม้าต้น ๔ ปะรำ

ให้เร่งปลูกให้แล้วแต่ ณ วันเดือน ๕ แรม ๑๔ ค่ำ จะปลูกที่ไหนไม่แจ้ง ให้ไปถามเจ้าพนักงานกรมช้าง แล้วให้เอาฐานเครื่องสูงสลักเข้าไปตั้งในพระที่นั่ง ๑๔ ฐาน

อนึ่ง ให้ชาวพระอภิรมย์จัดเครื่องสูง ๗ ชั้นปักบนพระที่นั่งบุษบกข้างละองค์ ๒ องค์ ๕ ชั้น ผ้ายก ๑๐ ชุมสายหักทองขวาง ๔ (รวม) ๑๔ (รวม) ๑๖ องค์ เข้าไปตั้งในพระที่นั่งเหมือนอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ให้ชาวพระคลังพิมานอากาศ เอาพรมใหญ่ไปปูให้เต็มในท้องพระโรง

อนึ่ง ให้หลวงมหามณเฑียรเจ้ากรมแสงสรรพยุทธจัดเครื่องช้าง ดาว กุดั่น ถมปัด ลูกพลู สำหรับช้างพระที่นั่ง ประดับช้างพระที่นั่งแลช้างพลายดั้ง ช้างพังนำ ให้พร้อม

อนึ่ง ให้กรมม้าจัดเครื่องม้าพระที่นั่ง ผูกประดับตัวม้าพระที่นั่งให้ครบทั้ง ๔ ม้า กับม้าสวนทาง ๔๐ ม้า

อนึ่งให้ตำรวจหน้า ตำรวจวัง คอยห้ามปากเสียง สูง ต่ำ ตัดหน้าฉานตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ถ้าเสด็จขึ้นข้าราชการแขกเมืองกราบถวายบังคม ชาววังชักม่านสองไขปิดแล้ว แขกเมืองยังไม่ลุกจากที่เฝ้า ให้ข้าราชการนั่งสงบอยู่ อย่าให้ลุกเดินไปเดินมาเป็นอันขาดทีเดียว ครั้นแขกเมืองกราบถวายบังคมลาลุกออกมาจากที่แล้ว จึงให้หลวงราชฤทธานนท์ หลวงนนทเสน นำแขกเมืองออกมาตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ให้กรมแสงปืนจัดพระแสงปืนต้น ๖๐ ให้กำนัลพระแสงต้นจัดพระแสงทวน ๖๐ ให้นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้ออย่างน้อยชั้นใน ใส่เสื้อครุยขาวชั้นนอก เข้าไปเชิญตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ให้ชาวพระมาลาภูษาจัดพานพระภูษาเชิญเข้าไปตั้ง ในพระที่นั่งริมพระเศวตฉัตร ตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ให้ท่านพนักงานข้างในแต่งพานขันหมาก พานทองสองชั้น พระครอบส่งให้มหาดเล็กเชิญออกมาตั้งในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยตามอย่างแต่ก่อน

อนึ่ง ให้จ่าศาลายืมพรมต่อชาวพระคลังพิมานอากาศ ไปปูศาลาลูกขุนฝ่ายซ้ายสำหรับแขกเมืองจะพักก่อน

อนึ่ง ให้กรมเกณฑ์หัด ให้แสงปืนจ่ายปืนคาบศิลา ปืนทองปรายให้แปดตำรวจ ให้ฝรั่งทหาร ให้กรมแสงในคลังสรรพยุทธจ่ายอาวุธ ให้คลังเสื้อ ให้คลังหมวกจ่ายเสื้อหมวก ให้อาสาเดโช ท้ายน้ำ ถือดั้งเขน ทวนทอง ให้รักษาพระองค์เกณฑ์หัดแสงปืน ให้อาสาจาม อาสาญี่ปุ่น ให้เร่งจ่ายแต่ ณ วันอาทิตย์ เดือน ๕ แรม ๑๔ ค่ำ

อนึ่ง ให้วิเสทหมากพลูแต่งหมากไปตั้งรับที่ศาลาลูกขุน พานถมตะทองเครื่องทอง ๑ พานถมเครื่องนาก ๑ พานเงินเครื่องถม ๕ (รวม) ๗ พาน ไปตั้งเวียนในพระที่นั่ง ๖ พาน สำรับ

อนึ่ง ให้กรมช้างจัดช้างพระที่นั่งต้น พระที่นั่งพลาย ๓ พัง ๒ (รวม) ๕ ช้าง ฟังนำ ๑ พังเชือก ๑ (รวม) ๒ (รวม) ๗ ช้าง แต่งเครื่องประดับให้พร้อม ยืนในปะรำเหมือนอย่างแต่ก่อน ยืนหน้าศาลาลูกขุน ช้างพลายดั้ง ๔ พัง ๕ (รวม) ๙ ช้าง แล้วให้เจ้าพนักงานผู้ต้องเกณฑ์ทั้งนี้ จัดแจงการให้พร้อมจงทุกพนักงาน

อนึ่ง ให้กรมพระสัสดีหมายบอกเจ้ากรม ปลัดกรม ให้ทูลกรมขุนรามอิศเรศร์ กรมหมื่นสวัสดิ์วิไชย กรมหมื่นณรงค์หริรักษ์ กรมหมื่นเสพสุนทร กรมหมื่นไกรสรวิชิต กรมหมื่นอินทรอมเรศร์ นั่งแถวตะวันออก กรมขุนพิพิธภูเบนทร์ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศร์รังสรรค์ กรมหมื่นศรีสุเทพ กรมหมื่นอมรมนตรี กรมหมื่นพิทักษ์เทเวศร์ พระองค์เจ้าสุริยวงศ์ นั่งแถวตะวันตก แต่งพระองค์ทรงพระภูษาเขียนทองพื้นสี ฉลองพระองค์อย่างน้อยข้างใน ครุยกรองศรีข้างนอก แล้วให้เอาพานพระศรี พระเต้า เข้าไปตั้งในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เหมือนครั้งเสด็จออกแขกเมืองบาระนี แขกเมืองมะริกันครั้งก่อน แล้วให้เชิญเสด็จเข้ามาให้พร้อมกันจงทุกพระองค์ แต่ ณ วันเสาร์ เดือน ๖ ขึ้น ๑ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่ง ให้กรมพระแสงในจ่ายพระแสงรายตีนตอง ให้มหาดเล็กเชิญ ๑๒ องค์ ถ้าพนักงานใดไม่แจ้งก็ให้กราบทูลถามกรมหมื่นไกรสรวิชิตก่อน อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง

เวร นายวิสูทธมณเฑียร กรมวัง

เวร นายแกว่นมหาดไทย

คัดจากหมายรับสั่ง ร. ๓ จ.ศ. ๑๑๙๘ เลขที่ ๒ สมุดไทยดำ

  1. ๑. เข้าใจว่าเป็นตำแหน่งของทหาร

  2. ๒. เข้าใจว่าเป็นลอมพอกของพวกกองช้างโดยเฉพาะ เพราะปรากฏข้อความในอยุธยาอากรณ์ของสมภพ จันทรประภา ว่า พวกกองช้างสวมลอมพอกใหญ่มีเกี้ยวโอ่โถงกว่าลอมพอกของพวกอื่น

  3. ๓. เครื่องประดับเครื่องแต่งตัวของช้างห้อยลงมาเป็นแนว

  4. ๔. ตามที่ปรากฏในหนังสือมหาดเล็ก พระแสงรายตีนตองปรากฏชื่อเพียง ๔ องค์เท่านั้นคือ พระแสงขวา – พระแสงดาบค่าย พระแสงใจเพชร พระแสงซ้าย – พระแสงพัสดาวานร พระแสงนาคสามเศียร

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ