หมายรับสั่ง เรื่อง พิธีจารึกพระนามพระราชาคณะที่ได้เลื่อนขึ้น

ด้วยพระยารักษมณเฑียรรับพระราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า พระโหราธิบดีโหรมีชื่อคำนวณพระฤกษ์ทูลเกล้าฯ ถวาย จะได้จารึกพระนามพระราชาคณะ ลงในแผ่นกระดาษฝรั่ง

พระเทพโมลีเลื่อนขึ้นเป็นพระพุทธโฆษา ๑ องค์ พระอริยวงศ์เลื่อนขึ้นเป็นพระเทพโมลี ๑ องค์ ในหอพระมณเฑียรธรรม ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ ปีมะโรง จัตวาศก เพลาเช้า ๓ โมง ๗ บาท เป็นศุภวารนักขัตฤกษ์ ครั้นจารึกพระนามแล้ว เชิญพระนามซึ่งจารึกไปฝากไว้ในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ครั้นถึงณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เพลาเช้า ฤกษ์จะได้เชิญพระนามพระพุทธโฆษา ขึ้นเสลี่ยงลงเรือม่านทองไปวัดโมลีโลก พระเทพโมลีขึ้นเสลี่ยงงาไปส่งที่กุฏิวัดมหาธาตุเหมือนอย่างแต่ก่อนนั้น ให้ชาวพระคลังมหาสมบัติจ่ายงาช้างให้ชาวพระคลังวิเสท กลึงกล่องใส่กระดาษฝรั่ง ๒ ใบให้พอ แล้วเอาพานเงินกลีบบัวส่งให้ชาวพระคลังวิเสทสำหรับใส่กล่องพระนามเมื่อจารึก ถวาย ๒ ใบ

อนึ่ง ให้ชาวพระคลังวิเสทเบิกงาช้างต่อคลังมหาสมบัติมากลึงกล่องใส่กระดาษจารึกพระนาม ๒ ใบ แล้วให้เย็บถุงแพรเหลืองใส่กล่องพระนาม ๒ ใบ เหมือนอย่างแต่ก่อน แล้วให้รับพานเงินกลีบบัวต่อชาวพระคลังมหาสมบัติรองกล่องพระนาม ๒ ใบ แล้วให้เอาพานเงินตั้งบนพาน ๒ ชั้นทาชาด มีถุงแพรเหลืองหูแพรแดงหุ้มพาน หุ้มตะลุ่ม ๒ ใบ แล้วให้จ่ายผ้าขาวให้อาลักษณ์ปูรองพระนามกว้าง ๓ ศอก ๒ ท่อน ให้อาลักษณ์นุ่งห่ม ๒ สำรับ ให้พอ

อนึ่ง ให้ฆ้องไชย มโหรี ปี่พาทย์ กลองแขก แตรสังข์ ไปประโคมเมื่อจารึกพระนาม ในหอพระมณเฑียรธรรม

อนึ่ง ให้ชาวคลังพิมานอากาศเอาพรมใหญ่ไปป ณ หอพระมณเฑียรธรรม ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ เช้า

อนึ่ง ให้อาลักษณ์ไปเอากระดาษฝรั่ง หมึก ไปจารึกพระนาม ๒ องค์ แลเมื่อจารึกพระนาม นั้นให้รับเอาต่อคลังวิเสท

ผ้าขาวปรองพระนามเมื่อจารึกกว้าง ๓ ศอก ๒ ท่อน ผ้าขาวนุ่งห่ม ๒ สำรับ กล่องงาช้างกลึง ถุงแพรเหลือง ระบายแพรแดงใส่กล่องงา พานเงินกลีบบัวตั้งบนพานแว่นฟ้า ๒ ใบ มีถุงแพรเหลืองหูแพรแดงหุ้มพาน หุ้มตะลุ่ม ๒ ใบ

ครั้นจารึกพระนามแล้วให้เอาพระนามใส่ในกล่องงาถุงแพรเหลืองหุ้มทั้ง ๒ พระนาม แล้วให้เอาถุงกล่องพระนามวางบนพานกลีบบัว ตั้งบนพานแว่นฟ้า แล้วเชิญไปฝากหลวงธรรมเสนาในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ครั้นถึง ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เพลาเช้า ให้เชิญกล่องพระนามขึ้นตั้งบนเสลี่ยงงาพระพุทธโฆษาไปลงเรือม่านทองถวายที่วัดโมลีโลก พระเทพโมลีไปทางบกถวายที่กุฏิวัดมหาธาตุ

อนึ่งให้ ๔ ตำรวจเอาเตียงไปตั้ง ณ หอพระมณเฑียรธรรม แต่ ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ เพลาเช้า เตียงรองจารึกพระนาม ๑ รองเครื่องบูชา ๑ (รวม) ๒ เตียง

อนึ่งให้สนมพลเรือนรับเครื่องมนัสการตะบะมุกเชิงต่อท่านข้างในเชิญไปตั้งในหอพระมณเฑียรธรรม เมื่อจารึกพระนาม ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ เพลาเช้า สำรับหนึ่ง ให้มีดอกไม้ ธูปเทียนสำหรับเครื่องให้พร้อม

อนึ่งให้โหรไปคอยบอกฤกษ์ เมื่อจารึกถวายพระนาม

อนึ่ง ให้ ๔ ตำรวจยืมเสลี่ยงงา ยืมสัปทนต่อชาวพระอภิรมย์ พระราชยานไปรับพระนาม ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เพลาเช้า พระนามพระพุทธโฆษาตั้งบนเสลี่ยงงา สัปทนคันหนึ่ง ไปลงเรือม่านทองถวายที่วัดโมลีโลก พระเทพโมลีตั้งบนเสลี่ยงงาสัปทนคันหนึ่ง ไปถวายที่กุฏิวัดมหาธาตุ

อนึ่งให้นายนิจ นายชิต ผูกเรือม่านทองลำหนึ่งรับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราชให้ครบกระทง ถอยมาคอยรับพระนามพระพุทธโฆษา ที่ประตูท่าพระ แต่ ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่ง ให้พันพุฒ พันเทพราช จ่ายเลกให้นายนิจ นายชิต บรรจุเรือม่านทองให้ครบกระทง เร่งจ่ายแต่ ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๖ ค่ำ

อนึ่ง ให้วิเสทนอกแต่งบายศรีตอง ๒ ชั้น สำรับหนึ่ง แป้งหอม น้ำมันหอม เครื่องบายศรี ให้พร้อมกับศีรษะสุกร ๒ ศีรษะ และเทียนยอดบายศรีนั้นรับต่อท่านข้างใน ๒ เล่ม ให้ยกไปตั้งในหอพระมณเฑียรธรรม แต่ ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่งให้ท่านพนักงานข้างในแต่งเครื่องนมัสการตะบะมุกเชิง ส่งให้สนมพลเรือนเชิญไปตั้งในหอพระมณเฑียรธรรม ณ วันเดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ เพลาเช้า สำรับหนึ่ง ให้มีดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับเครื่องให้พร้อม แล้วให้ส่งเทียนเล่มละ ๑ บาท สำหรับยอดบายศรีให้แก่วิเสท ๒ เล่ม

อนึ่งให้ชาวพระคลังในซ้ายจ่าย กระดาษฝรั่ง หมึก ให้อาลักษณ์ สำหรับจารึกพระนามพระราชาคณะ ๒ องค์ ให้พออย่าให้ขาดได้

อนึ่งให้ชาวพระราชยาน ชาวพระอภิรมย์ยืมเสลี่ยงงา ๒ สัปทน ๒ ให้ ๔ ตำรวจ หามพระนามพระราชาคณะ ๒ องค์

อนึ่ง ให้ชาวพระคลังในขวาเอาไหมเบ็ญจพรรณไปส่งให้อาลักษณ์สำหรับพันกระดาษฝรั่งที่จารึกพระนามให้พอ ตามรับสั่ง

คัดจากหมายรับสั่ง ร. ๓ จ.ศ. ๑๑๙๔ เลขที่ ๓ สมุดไทยดำ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ