หมายรับสั่ง เรื่อง พระราชทานเพลิงศพหม่อมทองคำ บุตรท้าวอินทรสุริยา ณ เมรุวัดสุวรรณาราม

ด้วย พระยาบำเรอภักดิ์ รับพระราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า หม่อมทองคำ บุตรท้าวอินทรสุริยา ถึงแก่กรรมแล้ว พระราชทานเป็นศพหลวง กำหนดจะได้ยกศพใส่วอรถประเทียบตั้งบนเรือขนาน ณ พระตำหนักแพ ชักไป ณ เมรุวัดสุวรรณาราม ณ วันพฤหัสบดี เดือน ๒ แรม ๑๐ ค่ำ เพลาเช้า จะได้มีโขน หุ่น หนัง ดอกไม้รุ่งพุ่มเพลิงระทา ทิ้งทานต้นกัลปพฤกษ์ ครั้นเพลาบ่ายจะได้พระราชทานเพลิงแลพระสงฆ์สวด ๔ ทร่าง ๓๒ รูป รับพระราชทานฉันในวันชัก (ศพ) เพลาเพลๆ แล้วสวดอยู่อีกคืนหนึ่ง รุ่งขึ้น ณ วันศุกร์ เดือน ๒ แรม ๑๑ ค่ำ เพลาเช้า พระสงฆ์ในเกณฑ์สวดจะได้รับพระราชทานฉันอีกเพลาหนึ่งนั้นให้ชาวพระคลังวิเสทรับเลกต่อ พระสัสดี พันพุฒ พันเทพราช ๔๐ คน ผูกเรือขนาน ๓ ลำ ให้มีหางเหราด้วย แล้วให้รับแท่นรองวอ วอรถประเทียบต่อขุนกระชาพล ลงเรือขนาน ถอยไปรับศพที่พระตำหนักแพให้ทันกำหนด แล้วให้จ่ายผ้าขาวให้สนมพลเรือนไปทำผ้าโยงศพพับหนึ่ง แล้วชาวพระคลังในซ้ายในขวา ชาวพระคลังวิเสทจัดเครื่องไทยทานถวายพระสงฆ์ ไตร ๑๐ รูป มหาบังสุกุล ๑๐ รูป บังสุกุล ๕๐๐ รูป แล้วให้เอาแม่ขันไปตั้งน้ำ (เลี้ยง) เพลิง เอามู่ลี่ไปกั้นพลับพลา เอาฟืนแสมไปเผาศพ ๑๐๐ ดุ้น เอาม่านไปกั้นเมรุข้างในสมาศพให้พร้อม

อนึ่งให้พระสัสดี ให้พันพุฒ พันเทพราช จ่ายเลกให้ชาวพระคลังวิเสท ๔๐ คน สำหรับจะได้ยกศพ พายเรือขนาน ให้เร่งจ่ายให้แต่ ณ วันพุธ เดือน ๒ แรม ๙ ค่ำ เพลาเช้า แล้วให้เกณฑ์ราชวัติฉัตรเบญจรงค์ ไปปักรายให้รอบเมรุ แล้วให้กั้นฝาโรงวิเสทของคาว ของหวานให้วิเสทหมากพลู ให้มั่นคงจงดีทั้ง ๓ โรง แล้วให้ชำระกวาดแผ้วอย่าให้รกอยู่ได้

อนึ่งให้ขุนกระชาพล สนมตำรวจนอก เอาวอรถประเทียบ เอาแท่นปิดลายกระดาษส่งให้ชาวพระคลังวิเสทตั้งบนเรือขนาน แล้วให้ยกขึ้นตั้งรับศพที่เมรุด้วย แล้วให้สนมตำรวจนอกทำฐานปูนรับรองแท่นรับวอศพในเมรุ แล้วจะได้เป็นที่เชิงตะกอนพระราชทานเพลิงด้วย

อนึ่งให้ช่างเขียนซ้ายขวา เบิกกระดาษสีต่าง ๆ ต่อชาวพระคลังในซ้ายไปปิดแท่นรองวอศพ ปิดฐานปัทม์เคลือบลายศิลาให้งามดี ให้เร่งทำให้แล้วทันกำหนด แล้วให้รับผ้าขาวต่อสนมพลเรือนมาปะกระดาษปิดเป็นปล้องอ้อยให้งามดี

อนึ่งให้ช่างทหารในซ้าย ช่างทหารในขวา จัดปีกลองมลายไปประโคมศพที่เรือขนาน ณ พระตำหนักแพ แต่ ณ วันพฤหัสบดี เดือน ๒ แรม ๑๐ ค่ำ เพลาย่ำรุ่ง แล้วให้ลงเรือประโคมไป ครั้นศพถึงเมรุแล้ว ให้ประจำอยู่กว่าจะพระราชทานเพลิงแล้ว

อนึ่งให้ชาวพระคลังศุภรัต ชาวพระคลังมหาสมบัติเอาอาสนะ ม่าน หมอน เอากระโถนขันน้ำไปตั้งไปแต่ง ถวายพระสงฆ์ให้พอสวดพอฉัน แล้วให้เกณฑ์ผลมะกรูดผลมะนาว ขุนหมื่นเข้าส้มทิ้งทาน ตำรวจรักษาต้นให้พร้อม จะเป็นกี่ต้น ๆ ละเท่าใด ให้กราบทูลพระกรุณาก่อน

อนึ่งให้กรมนาจ่ายข้าวสารซ้อม ให้แก่วิเสทหุงข้าวห่อ ๔๐๐ ห่อ ข้าว ๑๐ ถัง หุงถวายพระสงฆ์เช้าเพล ๒ เพลา ข้าว ๓ ถัง ๔ ทะนาน หุงเลี้ยงขุนนางเลี้ยงคนงาน เช้าเย็น ๓ เพลา ข้าวขาว ๕ ถัง ข้าวกลาง ๑๕ (รวมทั้งหมด) ๓๓ ถัง ๔ ทะนาน ให้เร่งจ่ายแต่ ณ วันอังคาร เดือน ๒ แรม ๘ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่งให้พันจันท์จัดเครื่องเล่นโขนหุ่นโรง ๑ หนัง ๒โรง กับดอกไม้ระทา ๘ ระทา พุ่ม ๘ พุ่ม พะเนียง ๒๐ บอก พลุตับ ๑ รุ้งเล็ก ๔ ขด ให้พร้อม แล้วให้ทำสายฝักแคไปเตรียมไว้สำหรับพระราชทานเพลิง ๒ สาย แล้วให้เกณฑ์เรือกัญญาคู่ชัก ๒๐ ลำ ให้มีเชือกชักจงทุกลำ

อนึ่งให้จัตุสดมภ์ทั้ง ๔ กรม ทำบันได ทำไม้เสียบต้นกัลปพฤกษ์ให้พร้อมแล้วให้เบิกไม้ไผ่หวายต่อชาวพระคลังราชการ ไปกั้นฝา ไปค้ำใบโรงโขนหุ่นให้พร้อม

อนึ่งให้ชาวพระคลังราชการเอาเสื่อลวดไปปูที่พลับพลาข้างหน้า ที่ในเมรุที่ขุนนางเฝ้าให้เต็ม แล้วให้จ่ายไม้ไผ่ หวาย ให้จัตุสดมภ์ ทั้ง ๔ กรม ไปกั้นฝา ค้ำใบโรงโขนหุ่นให้พอ

อนึ่ง ให้สังฆการีนิมนต์พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ๔ ทร่าง ๓๒ รูป รับพระราชทานฉันเช้าฉันเพล แล้วให้รับเภสัชอังคาสตั้งหัวท้ายหนังสือ ฉันเช้าเพล น้ำชา ยาเสียงต่อวิเสทหมากพลู ถวายพระสงฆ์ให้พอสวดพอฉัน แล้วให้นิมนต์พระสงฆ์มหาบังสุกุล ๑๐ รูป บังสุกุล ๕๐๐ รูป แล้วให้นิมนต์พระสงฆ์บังสุกุลในเจ้าภาพด้วย ๑๐๐๐ รูป

อนึ่งให้กรมพระนครบาลจัดนายอำเภอ เอาฆ้องไปตลาดตระเวนเพลากลางวัน กลางคืน อย่าให้เกิดเหตุการณ์ได้ แล้วให้ขุดดิน ตัดต้นกล้วย ใส่เชิงตะกอน ตักน้ำใส่แม่ขันให้พอเผาศพด้วย แล้วให้ถางหญ้าที่หน้าพลับพลา ในสามทร่าง รอบเมรุ ทางมหาบังสุกุลให้เตียนดี

อนึ่งให้สนมพลเรือนรับเครื่องตะบะมุกเชิงต่อท่านข้างใน เชิญไปตั้งบูชาพระสงฆ์สวด ๔ ทร่าง คืนหนึ่ง ๔ สำรับ กับเทียนดูหนังสือเล่มละ ๑ ตำลึง คืนหนึ่ง ๑๖ เล่ม เทียนเครื่องเล่มละ ๑ บาท คืนหนึ่ง ๘๐ เล่ม แล้วให้เบิกผ้าขาวต่อชาวพระคลังวิเสทมาทำผ้าโยงศพพับหนึ่ง แล้วไปส่งให้ช่างเขียนปะกระดาษปิดให้งามดี แล้วรับมาโยงศพตามธรรมเนียมแล้วให้จัดคนโยงคนโปรยด้วย แล้วให้รับมีดหมาก ซองแว่น ขมิ้น มะกรูด ต่อวิเสทนอก ไปส่งให้คนโยง แล้วให้เอาตารางเหล็ก พล้อ ขอคีม ไปเผาศพ แล้วให้จัดแจงเฝ้าศพด้วยแล้วให้รับน้ำชาต่อวิเศท หมากพลูถวายพระสงฆ์ด้วย แล้วให้เอาเสือหมอนม่าน ไปแต่งที่ข้างในด้วย

อนึ่ง ถ้าไม่เสด็จฯ ให้กรมแสงเอาหน้าเพลิงส่งให้มหาดเล็ก ๆ รับหน้าเพลิงต่อกรมแสงทูลเกล้าฯ ถวายทรงเพลิงติดแล้ว ใส่ในโคมแก้วส่งให้หมื่นเทวาทิตย์ไปพระราชทานศพแล้วให้รับเครื่องประทานเพลิง ต่อท่านข้างในไปกับเพลิงสำรับหนึ่ง

อนึ่งให้ตำรวจหลัง ตำรวจวังไปยกสำรับคาว สำรับหวาน ถวายพระสงฆ์ เพลาเช้า เพลาเพล ทั้ง ๒ เพลา

อนึ่งให้หมื่นเทวาฯ รับโคมแก้วใส่เพลิงต่อมหาดเล็ก ไปพระราชทานเพลิงตามธรรมเนียม

อนึ่งให้ ๔ ตำรวจ ให้สนมตำรวจ ยืมเสลี่ยงงาต่อชาวพระราชยาน หามพระสงฆ์ ๑ เสลี่ยง หามคนโยง ๑ เสลี่ยง หามคนโปรย ๑ เสลี่ยง (รวม) ๓ เสลี่ยง (ยืม) สัปทนต่อชาวพระอภิรมย์ไปกั้นพระสงฆ์คันหนึ่ง

อนึ่ง ให้วิเสทนอกจัด มีดหมาก ซองแว่น ขมิ้น มะกรูดตำส่งให้สนมพลเรือนไปโยงศพ

อนึ่งให้วิเสทหมากพลูแต่งเภสัชอังคาส ตั้งหัวตั้งท้ายหนังสือ ฉันเช้าฉันเพล น้ำชายาเสียง มหาบังสุกุล ๑๐ ซอง บังสุกุล ๕๐๐ ซอง ส่งให้สังฆการี ส่งให้สนมถวายพระสงฆ์ แล้วให้รับเภสัชมหาบังสุกุล ๑๐ ซอง บังสุกุล ๕๐๐ ซอง

อนึ่งให้วิเสทฉอทานแต่งสำรับเลี้ยง ณ วันเดือนยี่

แรม ๑๐ ค่ำ เช้าคฤหัสถ์ คาวเอก ๕ สำรับ โท ๓๐ สำรับ ตรี ๕๐ สำรับ หวานเอก ๕ สำรับ โท ๓๐ สำรับ เลว ๕๐ สำรับ เพลพระสงฆ์ คาว ๓๒ สำรับ หวาน ๓๒ สำรับ เย็นคฤหัสถ์ คาวโท ๒๐ คาวตรี ๓๐ หวานโท ๒๐ หวานเลว ๓๐ สำรับ

แรม ๑๑ ค่ำ เช้า พระสงฆ์ คาว ๓๒ สำรับ หวาน ๓๒ สำรับ คฤหัสถ์ คาวโท ๒๐ คาวตรี ๓๐ สำรับ หวานโท ๒๐ สำรับ หวานเลว ๓๐ สำรับ

แล้วให้เบิกข้าวสารต่อกรมนาหุงถวายพระสงฆ์ เช้าเพล ๒ เพลา (ข้าว) ๓ ถัง ๔ ทะนาน เลี้ยงขุนนาง เลี้ยงคนงาน ๓ เพลา ข้าวขาว ๕ ถัง ข้าวกลาง ๑๕ ถัง (รวม) ๒๐ ถัง ทำข้าวห่อเลี้ยงไพร่ชักศพ ๔๐๐ ห่อ ข้าว ๑๐ ถัง (รวมข้าว) ๓๓ ถัง ๔ ทะนาน ให้เร่งไปเข้าโรง แต่ ณ เดือน ๒ แรม ๙ ค่ำ อย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง

คัดจากหมายรับสั่ง ร.๓ จ.ศ. ๑๑๙๑ เลขที่ ๑ สมุดไทยดำ

  1. ๑. ท้าวอินทรสุริยา ว่าวิเสทกลาง วิเสทนอก

  2. ๒. สิ่งปลูกสร้างอ้อมสิ่งสำคัญอันเป็นประธาน มีสัณฐานหักคดเป็นมุมฉาก (ดูภาคผนวก ๔)

  3. ๓. ผ้าเปื้อนฝุ่น เรียกว่าผ้าบังสุกุล ผ้าที่ทอดที่ศพ เช่น วางพาดที่สายโยงหรือปากหีบศพนิมนต์พระไปชักเรียกมหาบังสุกุล นอกจากนั้นเรียกบังสุกุล

  4. ๔. ปัจจุบันสร้างอยู่พื้นดินไม่ใช่ในน้ำเหมือนแต่ก่อน แต่ยังคงเรียกตำหนักแพ เหมือนตำหนักแพซึ่งสร้างบนแพในน้ำ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ