หมายรับสั่ง เรื่อง การพระบรมศพสมเด็จพระอมรินทรามาตย์

ด้วย พระยารักษมณเฑียรรับพระราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่าสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ ทรงพระประชวร ครั้นถึง ณ วันศุกร์ เดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ ปีจออัฐศก เพลารุ่ง ๑๑ ทุ่ม เสด็จสิ้นพระชนม์ จะได้เชิญพระบรมศพขึ้นพระยานุมาศ แห่แต่พระตำหนักตึก ออกมาขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท นั้นให้สนมตำรวจนอกจัดแจงพระแท่นรับพระโกศแล้ว ให้เอาฐานเครื่องสูงขึ้นไปตั้งเครื่องสูง ๑๖ ฐาน แล้วให้จัดแจงสะพานที่จะเชิญพระโกศขึ้นพระมหาปราสาทด้วย

อนึ่ง ให้ขุนทินบรรณาการ ให้ขุนทานกำนัน จัดดอกไม้ทอง ดอกไม้เงิน ไปตั้ง ทอง ๓ ต้น เงิน ๓ ต้น

อนึ่ง ให้มหาดไทย ให้กลาโหม เกณฑ์กระบวนแห่คู่แห่เดินเท้า นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้อครุยขาว ใส่ลอมพอกมีเกี้ยว หน้าหลัง ๑๐๐ คน

เครื่องสูงหักทองขวาง ๗ ชั้น ๔ คน ๕ ชั้น ๑๒ คน บังแทรก ๘ คน ชุมสาย ๖ คน บังพระสูรย์ ๑ คน (รวม) ๓๗ คน

ชาวพระภูษา ชาวพระมาลา เชิญพระกลด ๑ คน

ขุนนางเคียงพระยานุมาศ ๑๒ คน

มหาดเล็กเป็นอินทร์ เป็นพรหม ๑๖ คน

กลองชนะ จ่าปี่ ๑ คน จ่ากลอง ๑ คน (รวม) ๒ คน กลอง ๔๐ คน (รวม) ๔๒ คน

แตรงอน ๑๒ คน แตรฝรั่ง ๘ คน (รวม) ๒๐ คน สังข์ ๑ คน (รวม) ๒๑ คน

คนหามพระยานุมาศ ๔๐ คน

(รวม) ๒๖๙ คน ให้นุ่งให้ห่ม ตามกระบวนแห่ให้พร้อมจงทุกพนักงาน

อนึ่ง ให้มหาดเล็กทั้ง ๔ เวร จัดมหาดเล็ก ส่งให้สนมพลเรือน มาแต่งตัวเป็นอินทร์เป็นพรหม ๑๖ คน

อนึ่ง ให้รับมหาดเล็กทั้ง ๔ เวร มาแต่งตัวเป็นอินทร์เป็นพรหม ๑๖ คน

อนึ่ง ให้พันพุฒ พันเทพราช จ่ายเลขให้ชาวพระอภิรมย์มาเชิญเครื่องสูง ๓๗ คน ให้ชาวพระราชยานหามพระยานุมาศ ๔๐ คน ให้พระราชมานตีกลองชนะ ๔๐ คน ให้เร่งจ่ายแต่ ณ วันอังคาร เดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ

อนึ่ง ให้เกณฑ์ข้าทูลละออง เคียงพระยานุมาศ

พระยารองเมือง ๑ พระยาประชาชีพ ๑ (เป็น) คู่ที่ ๑

พระยาเทพอรชุน ๑ พระยาราชนิกุล ๑ (เป็น) คู่ที่ ๒

พระยาพิพัฒนโกษา ๑ พระยาพิพิธโภไคย ๑ (เป็น) คู่ที่ ๓

พระยาโชดึกราชเศรษฐี ๑ พระยาพิไชยวารี ๑ (เป็น) คู่ที่ ๔

พระยาศรีสหเทพ ๑ พระยาศรีเสาวภาท ๑ (เป็น) คู่ที่ ๕

พระยาศรีสหราช ๑ พระยาไกรศรี ๑ (เป็น) คู่ที่ ๖

(รวม) ๖ คู่ ๑๒ คน ให้นุ่งสมปักลาย ใส่เสื้อครุยขาว ใส่ลอมพอกมีเกี้ยว ให้เร่งมาเคียงพระยานุมาศ แต่ ณ วันเดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ ให้ทันกำหนด

อนึ่งให้ชาวพระอภิรมย์รับเลกต่อพันพุฒ พันเทพราช มาเชิญเครื่องสูงหน้าหลัง ๑๗ คน ให้ชาวพระราชยานมาหามพระยานุมาศ ๔๐ คน ให้เร่งจ่ายแต่ ณ วันเดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ

อนึ่ง ให้ชาวพระมาลา ชาวพระภูษา เชิญพระกลดไปกั้นพระโกศองค์หนึ่ง แล้วให้พระภูษาโยงสดับปกรณ์ด้วย

อนึ่ง ให้ชาวพระคลังมหาสมบัติเชิญพานทอง ๒ ชั้น ขึ้นไปตั้งรับพระภูษาสดับปกรณ์ด้วย แล้วให้เอากระโถน ขันน้ำ ขึ้นไปตั้งถวายพระสงฆ์ ให้พอสวดพอฉัน แล้วให้จัดแจงพระโกศทองคำสำหรับใส่พระบรมศพให้พร้อม

อนึ่ง ให้ท่านพนักงานข้างในแต่งเครื่องทองใหญ่ ส่งให้สนมพลเรือนเชิญไปตั้งบูชาพระศพ ตั้งแต่ ณ วันเดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ เพลาเช้า ๑ เพลาบ่าย ๑ วันละ ๒ สำรับ ให้มีพุ่มข้าวตอก พุ่มดอกไม้ธูปเทียนสำหรับเครื่องให้พร้อม กับเทียนสำหรับเครื่องเล่มละ ๒ ตำลึง เพลาเช้า ๕ เล่ม เพลาบ่าย ๕ เล่ม วันละ ๑๐ เล่ม แล้วให้แต่งเครื่องตะบะมุกเชิง ส่งให้สนมพลเรือนเชิญไปตั้งบูชาพระอภิธรรม พระสงฆ์สวด ๒ เตียง เป็นเครื่องวันละ ๒ สำรับ (กับ) เทียนดูหนังสือเล่มละ ๑ ตำลึง กลางวัน ๔ กลางคืน ๔ วันละ ๘ เล่ม สำหรับเครื่องเล่มละ ๑ บาท กลางวัน ๒๐ เล่ม กลางคืน ๒๐ เล่ม (รวม) ๔๐ เล่ม ให้มีดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับเครื่องให้พร้อม ให้ส่งแต่ ณ วันเดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ เพลาเช้า

อนึ่ง ให้ท่านข้างในทำคาวหวาน แต่งสำรับถวายพระสงฆ์ ตั้งแต่ ณ วันเดือน ๖ แรม ๗ ค่ำ เพลาเช้าวันละ ๓๒ สำรับ เพลาเพลวันละ ๑๖ สำรับ (รวม) ๔๘ สำรับ แล้วให้เบิกข้าวสารต่อกรมนามาหุงถวายพระสงฆ์เพลาเช้า เพลาเพล วันละ ๔ ถัง ๑๖ ทะนาน

อนึ่ง ให้วิเสทหมากพลูแต่งเภสัชอังคาส ตั้งหัว ตั้งท้ายหนังสือ ยาเสียง ฉันเช้า ฉันเพล ถวายพระสงฆ์ให้พอสวดพอฉัน แล้วให้จัดเครื่องชาส่งให้หัวป่าก์พ่อครัวต้มถวายพระสงฆ์ให้พอสวดพอฉัน

อนึ่ง ให้สังฆการีนิมนต์พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ๒ เตียง ๔๘ รูป รับพระราชทานฉันเช้าวันละ ๓๒ รูป ฉันเพลวันละ ๑๖ รูป รับเภสัชต่อวิเสทถวายพระสงฆ์พอสวดฉัน

อนึ่ง ให้กรมนาจ่ายข้าวสารที่ขาวดีให้แก่วิเสทรุงถวายพระสงฆ์เช้าเพลเก่าใหม่ วันละ ๔ ถัง ๑๖ ทะนาน ให้เร่งจ่ายแต่ ณ วันเดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ

อนึ่ง ให้สนมพลเรือนรับเอาเครื่องทองใหญ่ต่อท่านข้างใน เชิญไปตั้งบูชาพระบรมศพ เพลาเช้าวันละ ๑ สำรับ เพลาบ่ายวันละ ๑ สำรับ (รวม) วันละ ๒ สำรับ กับเทียนสำหรับเครื่องเล่มละ ๒ ตำลึง เพลาเช้า ๕ เพลาบ่าย วันละ ๑๐ เล่ม แล้วให้เอาเครื่องตะบะมุกเชิง ต่อท่านข้างใน เชิญไปตั้งบูชาพระสงฆ์ ๒ เตียง เครื่องเพลาเช้าวันละ ๒ สำรับ เพลาบ่ายวันละ ๒ สำรับ กับเทียนดูหนังสือเล่มละ ๑ ตำลึง กลางวัน ๘ เล่ม กลางคืน ๘ เล่ม เทียนเครื่องเล่มละ ๑ บาท กลางวัน ๔๐ เล่ม กลางคืน ๔๐ เล่ม แล้วให้มี ข้าวตอกขาว ดอกไม้ เทียนใหญ่ ธูปใหญ่ สำหรับเครื่องทองใหญ่ตะบะมุก ให้พร้อมตามรับสั่ง

เวร นายรัต

คัดจากหมายรับสั่ง ร. ๓ จ.ศ. ๑๑๘๘ เลขที่ ๑ สมุดไทยดำ

  1. ๑. พระนามเดิม “นาก” พระชนกชื่อ ทอง และสมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี เป็นพระชนนี ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ เดือน ๔ แรม ๕ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๙ มีนาคม ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๒๘๐ สวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๖ แรม ๕ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๖๙ ได้รับสถาปนาเป็นกรมพระอมรินทรามาตย์ เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๕๓

  2. ๒. พระตำหนักหมู่ใหญ่อยู่หลังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระพิมานรัตยา เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์และพระธิดา (กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์) มาก่อน เรียกลำลอง พระตำหนักแดง ต่อมาในรัชกาลที่ ๒ จัดเป็นที่ประทับของกรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระราชชนนีพันปีหลวง ประทับตลอดมาจนสวรรคตในรัชกาลที่ ๓ แล้วจึงยกพระราชทานกรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ถวายเป็นที่ประทับอยู่ระยะหนึ่งต่อมา พระตำหนักตึกนี้รื้อในรัชกาลที่ ๕ บางส่วนได้นำไปสร้างศาลาการเปรียญ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงินฝั่งธนบุรี)

  3. ๓. ในกฎหมายตราสามดวง ปรากฏชื่อว่า ขุนทินบรรณาการ และขุนทานธารกำนัลพนักงานสวดคำหลวง และเป็นพนักงานตั้งพุ่มดอกไม้ทองดอกไม้เงินที่พระแท่นแว่นฟ้าสลับกับเครื่องสูง เพื่อประดิษฐานพระบรมโกศ

  4. ๔. เวรศักดิ์ เวรสิทธิ์ เวรฤทธิ์ เวรเดช

  5. ๕. ข้าราชการในกรมพระสนมฝ่ายพลเรือน ต่อมาคือ กรมสนมพลเรือน ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ลงโทษกักขังผู้กระทำความผิดในพระบรมมหาราชวัง และจัดเครื่องนมัสการ ต่อมามีหน้าที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเครื่องโกศหีบ

    ปัจจุบันเจ้าพนักงานสนมพลเรือน เป็นข้าราชการในพระองค์ สังกัดแผนกสนมพลเรือน กองพระราชพิธี สำนักพระราชวังทำหน้าที่เกี่ยวกับการพิธีศพทำสุกำศพหีบ (มัดตราสังข์ใสโกศหีบ) กำกับดูแลรักษาเครื่องนมัสการและโกศหีบ

  6. ๖. พันพุฒ นามเต็มว่า พันพุฒอนุราช เป็นหัวหน้านายเวรมหาดไทย มีหน้าที่กะเกณฑ์ใช้สอยผู้คนที่อยู่ในสังกัดฝ่ายพลเรือน และสำรวจจำนวนไพร่พลที่เข้าเวรรับราชการ ส่วนพันเทพราชเป็นหัวหน้านายเวรกลาโหม มีหน้าที่เหมือนพันพุฒแต่เป็นราชการของฝ่ายทหาร

  7. ๗. เป็นเครื่องบูชาสำหรับใช้ในงานใหญ่ มีแท่นไม้สลักปิดทองขนาดใหญ่ รองเชิงปักธูปเทียน และพานทองรองพุ่มข้าวตอก ดอกไม้ ส่วนเครื่องทองน้อยเป็นเครื่องนมัสการขนาดเล็ก ทำด้วยทองลงยาทั้งสำรับ มีพานรองเชิง ๑ ธูปเชิง ๑ เทียนเชิง ๑ และกรวยดอกไม้สามกรวย สำหรับใช้เป็นเครื่องราชสักการะในเวลาปกติ (ดูเรื่องราชูปโภคและพระราชฐาน)

  8. ๘. เป็นนายเวรมหาดไทย นามเต็มว่า นายรัตตรวจสรพล หนังสือเทศาภิบาล ขยายความว่า หน้าที่นายเวรกลางวันมาทำงานในศาลาลูกขุนทั้งหมด (นายแกว่นคชสาร นายชำนาญกระบวน นายควรรู้อัศว์ นายรัตตรวจพล) กลางคืนต้องผลัดเปลี่ยนกันนอนค้างที่ศาลาลูกขุน สำหรับราชการที่จะมีมาในเวลาค่ำ คราวละ ๑๕ วัน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ