ราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์

ณวันพฤหัสบดีเดือนหกขึ้นสิบห้าค่ำ เป็นวันวิศาขบูรณมีอุดมมหามงคลฤกษ์ ได้ตั้งสวดพระพุทธมนต์ ณวันจันทร์ขึ้นสิบสองค่ำ เจ้าพนักงานได้จัดการปลูกโรงพิชีพราหมณ์หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยตามอย่างธรรมเนียม ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยนั้น ตรงประตูที่แขกเมืองเข้าตั้งเตียงพิธีพระสวดท้องภาณ ที่หลังลับแลตั้งเครื่องนมัสการ ตั้งโคมเทียนไชย ตั้งเครื่องสูงทุกสิ่งไว้ตามที่ ทั้งต้นไม้เงินต้นไม้ทอง แเละตกแต่งเปลี่ยนพระมหาเศวตฉัตรใหม่ ขลิบระบายด้วยทองคำ ทำระบายเป็นสามชั้น และเตียงพิธีนั้น สำหรับพระสงฆ์จะได้สวดท้องภาณตั้งแต่สมัยการจนเสร็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่งที่ไว้พระสงฆ์สวดพระปริตรสามสิบรูป แล้วจัดในพระที่นั่งไพศาลทักษิณได้ตกแต่งข้างบุรพทิศ ตั้งพระแท่นแว่นฟ้ามีระบายตาด แล้วตั้งระย้ากินรบรรจุพระบรมธาตุ ตั้งพระไชย พระพุทธบุศยรัตน์ และพระแก้วเชียงแสน พระแก้วเรือนทอง พระไชยทอง พระไชยเงิน พระไชยเนาวโลหะ พระไชยผ้าห่มลงยาราชาวดี พระไชยพิธี พระห้ามสมุทสององค์ รวมสิบสององค์ ครอบพระกริ่งหนึ่ง ตั้งพระสุพรรณบัตรและสร้อยธุรำ ดวงพระชันษา เครื่องมุรธาภิเษก พระเต้าเบ็ญจครรภประดับเพ็ชรพลอยห้าอย่าง ทำด้วยโมราองค์หนึ่ง ทำด้วยศิลาหยกองค์หนึ่ง ตั้งพระเต้าประทุมนิมิตทองหนึ่ง นากหนึ่ง เงินหนึ่ง สัมฤทธิหนึ่ง พระเต้าเทวบิฐหนึ่ง พระเต้าไกรลาสหนึ่ง พระเต้าเนาวเคราะห์หนึ่ง พระเต้ามังศรีหนึ่ง พระมหาสังข์ทักขิณาวัฏ พระมหาสังข์สาม พระมหาสังข์ห้า เครื่องพิไชยสงครามเกราะนวมฉลองพระองค์ลงราชะหนึ่ง ฉลองพระองค์สามสิบสองชั้น พระภูษาเจ็ดสี ขวดใส่น้ำสี่สระ ขวดแก้วใส่น้ำมันเครื่องสองขวด ธงไชยศึกและธงกระบี่ครุฑ พระเครื่องต้น ราชกกุธภัณฑ์ พระแสงขรรค์ไชยศรี พัดวาลวิชนี ธารพระกร ลุ้งพระมาลาเบี่ยง พระมหาชฎาเพ็ชร พระธำมรงค์ พระสุพรรณภาชน์ใหญ่น้อย พานพระขันหมาก และพระเต้าราชาวดี พระสุพรรณศรีบัวแฉก ฉลองพระบาท เครื่องทั้งนี้มีผ้าโขมพัสตร์รอง พระแสงดาบคาบค่าย พระแสงหอกไชย พระแสงดาบชะเลย พระแสงดาบใจเพ็ชร พระแสงตรีจักรธนู พระแสงเวียดเห้า พระแสงขอคร่ำไม้เท้า พระแสงง้าวพลพ่าย พระแสงขอตีช้างล้ม พระแสงปืนคาบชุดแม่น้ำสะโตง พระแสงเขน ตั่งทำด้วยไม้อุทุมพร รองเครื่องนมัสการ และบาตรน้ำบาตรทรายสิ่งละห้า เกี่ยวหญ้าคาถักเป็นสายสิญจน์กับด้ายสายสิญจน์ประสมกัน วงสายสิญจน์โยงทั่วไปทุกแห่ง รอบพระบรมมหาราชวังแต่ที่พระสงฆ์นั่งเจริญพระปริตรห้าสิบรูป ริมพระแท่นพิธีแว่นฟ้าตั้งพระที่นั่งอัฐทิศทำด้วยไม้อุทุมพร มีพระเศวตฉัตรปักกลาง ตั้งเทวรูปทั้งแปดทิศ ตั้งกลศสังข์พานทองเครื่องบูชาเทวดาทุกทิศ แล้วตั้งพระที่นั่งภัทรบิฐเบื้องประจิมทิศ ทำด้วยไม้ไชยพฤกษ์หุ้มด้วยเงินชั้นหนึ่ง ทองชั้นหนึ่ง กั้นเศวตฉัตรเจ็ดชั้น พื้นพระที่นั่งลาดผ้าอุทุมพร แล้ววางแผ่นทองคำ เขียนรูปราชสีห์ด้วยชาดหอรคุณ แล้ววางตะรางคาบนแผ่นทอง แล้วพราหมณ์โรยแป้งเข้าสาลี เสกด้วยอิศรมนตร์ และปูผ้าลาดบนพระที่นั่งภัทรบิฐ พระที่นั่งภัทรบิฐ คล้ายพระที่นั่งเก้าอี้ ที่มุขกระสันพระวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ก็ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาหน้าเสาทุกเสา ข้างมุขกระสันฝ่ายตะวันออก ตั้งพระที่นั่งกระยาสนาน สรงน้ำมุรธาภิเษกทำด้วยไม้อุทุมพร เป็นมณฑปเครื่องทอง เพดานและม่านผ้าขาวเขียนลายทอง มีราชวัฏิฉัตรทอง ฉัตรเงิน ฉัตรนาก รายรอบทั้งสี่ทิศ ในพระมณฑปตั้งพระแท่นสรงลาดผ้าขาว แล้ววางถาดทองรองใบไม้ไชยพฤกษ์ในถาดนั้น แล้วมีผ้าโขมพัสตร์ปิดไว้ในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน แต่งการในที่พระมหามนเทียร ตั้งแท่นทองดาดเพดานบนแท่น ตั้งพระบรมธาตุ พระห้ามสมุททองคำ พระไชยข้าหลวงเดิม เครื่องนมัสการ เทียนเท่าพระองค์เล่มหนึ่ง เทียนพระมหามงคลเล่มหนึ่ง พระมหามงคลสรวมเมื่อฟังสวดองค์หนึ่ง พานทองรองดอกหมากทองคำ พานทองรองลูกกุญแจ พานทองรองถั่ว พานทองรองงา พานทองรองฟัก พานทองรองศิลาบด พานทองรองเข้าเปลือก แต่งที่พระสวดบนพระแท่นบรรทมห้ารูป แต่งที่เสด็จฟังพระปริตรแห่งหนึ่ง มีพระภูษาทรงสะพักหนึ่ง พระครอบทองคำหนึ่ง ตั้งไว้ริมที่ เจ้าพนักงานจัดการเสร็จแล้ว การข้างนอกก็ปักราชวัฏิฉัตร์เบ็ญจรงค์เจ็ดชั้น รอบพระราชวังชั้นในชั้นนอก ที่ประตูมีเสาธงจุดประทีปหน้าประตูเป็นคู่ ๆ ทุกประตู ขอแรงขุนนางจีนเจ้าภาษี นายอากร กับจีนนายสำเภา เอาโต๊ะเครื่องสักการบูชาเข้าไปตั้งในพระราชวังเต็มแล้ว จึงไปตั้งรายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามด้วย เป็นโต๊ะเครื่องบูชารวมกันร้อยหนึ่ง และกำแพงแก้วพระมหามนเทียร พระมหาปราสาทตามประทีปชวาลา มีจำนวนจ่ายน้ำมันคืนหนึ่งถึงเจ็ดพันดวง

ครั้นณวันจันทร์เดือนหกขึ้นสิบสองค่ำเวลาบ่ายสามโมง พราหมณ์ก็เชิญเทวรูปเข้าพิธี แล้วทรงพระภูษาลายเขียนทองพื้นขาว ฉลองพระองค์กรองทองพื้นขาว รัดพระองค์ประดับเพ็ชร์ พระบรมวงศานุวงศ์ก็แต่งพระองค์ทรงผ้าเขียนทองคาดเสื้อครุยต่างสี ข้าราชการก็นุ่งสองปักลายคาดเสื้อครุยขาวตามเสด็จ หมู่องครักษ์ก็ขัดกระบี่นำแห่เสด็จพระราชดำเนิน เข้าไปในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงถวายผ้าไตรย่ามพัดวิชนี แก่พระสงฆ์ราชาคณะแปดสิบห้ารูป ครองผ้าไตรแล้ว ทรงถวายเทียนชะนวนแด่กรมหมื่นนุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัตติยวงศ์ให้ทรงจุดเทียนไชย แล้วพระสงฆ์ราชาคณะสวดพระพุทธมนต์ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยสามสิบรูป เข้าไปสวดในพระที่นั่งไพศาลทักษิณห้าสิบรูป เข้าไปสวดในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานห้ารูป แล้วก็เสด็จเข้าไปในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ จุดเครื่องนมัสการทรงศีล ฟังพระสงฆ์ประกาศเทวดาแล้ว เสด็จเข้าไปในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน จุดเทียนเครื่องนมัสการ ฟังพระสงฆ์เจริญพระปริตรในที่ทั้งสามวัน ถวายไทยธรรมผ่อนไปทุกวันๆ

ครั้นณวันพฤหัสบดีเดือนหกขึ้นสิบห้าค่ำ เวลาเช้าเป็นมหามงคลอันอุดม พระสงฆ์ราชาคณะเข้าไปพร้อมประจำที่อยู่ทุกแห่งแล้ว เสด็จพระราชดำเนินเข้าไปในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว ครั้นเวลานาฬิกาหนึ่งกับเก้าบาท ได้วิศาขนักขัตตฤกษ์ พระมหาไชยมงคลบรมราชาภิเษก ต้องอย่างโบราณราชประเพณีแต่ก่อน เจ้าพนักงานจึงเชิญเสด็จสรงพระกระยาสนาน ชาวภูษามาลาถวายพระภูษาขาวขลิบทอง ราชบัณฑิตเชิญพระไชย พระครูพราหมณ์เชิญพระพิฆเนศวร และโปรยเข้าตอกเป่าสังข์ทักขิณาวัฏ นำเสด็จไปสู่พระมหามณฑปกระยาสนาน ขึ้นสถิตเหนืออุทุมพรราชาอาสน์ บ่ายพระพักตร์สู่ทิศอิศาน จึงชาวพระภูษามาลาถวายเครื่องมุรธาภิเษกแล้วไขสหัสธารา ครั้นเสร็จสรงสหัสธาราปัญจมหานทีแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ที่มีพระชนมายุ ฝ่ายบรรพชิต ฝ่ายคฤหัสถ์ เข้าไปถวายนำพระประทุมนิมิต กรมหมื่นนุชิดชัโนรส ศรีสุคตขัตติยวงศ์ พระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ ถวายน้ำพระเต้าแก้ว พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าฤกษ์ ถวายน้ำพระเต้าเนาวโลหะ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรรังสรรค์ ถวายน้ำพระเต้าทอง พระบรมวงศ์เธอ กรมขุนรามอิศเรศร ถวายน้ำพระเต้าเงิน พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนเดชอดิศร ถวายน้ำพระเต้านาก พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนพิพิธภูเบนทร ถวายน้ำพระเต้าสัมฤทธิ แล้วพระบรมวงศาเสนาบดีผู้ใหญ่ เจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่สมุหพระกลาโหม ถวายน้ำพระเต้ามังศรีเครื่องทอง พระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษา ถวายน้ำพระเต้ามังศรี เครื่องเงิน สรงน้ำพระเต้าประทุมนิมิต เสร็จแล้ว จึงหลวงศรีสิทธิไชยหมอเถ้า ถวายนำพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏหนึ่ง พระมหาราชครูพิธี ถวายน้ำพระเต้าเบ็ญจครรภหนึ่ง พระครูอัษฎาจารย์ ถวายน้ำพระมหาสังข์ทองหนึ่ง หลวงจักรปาณี ถวายน้ำพระมหาสังข์เงินหนึ่ง หลวงราชมุนี ถวายน้ำพระมหาสังข์นากหนึ่ง หลวงศิวาจารย์ ถวายน้ำพระมหาสังข์งาจำเริญช้างเผือกหนึ่ง หลวงเทพาจารย์ ถวายน้ำพระครอบหนึ่ง ทรงรับด้วยพระหัตถ์ แล้วพราหมณ์ก็เป่าพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏสององค์ อุตราวัฏหกองค์ เจ้าพนักงานประโคมดุริยางคดนตรี มะโหระทึก แตรสังข์ บัณเฑาะว์ พระสงฆ์ก็สวดถวายไชยมงคล ครั้นสรงมุรธาภิเษกแล้ว พระสงฆ์ก็เข้าไปในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานทั้งห้าสิบรูป ชาวพระภูษามาลาถวายพระภูษาทรงผลัดพื้นเหลืองเขียนทอง ทรงฉลองพระองค์คาดริ้วทอง เสด็จกลับมาสถิตเหนืออัฏฐังโสทุมพรราชาอาสน์ มีตั่งอัฐทิศล้อม มีราชบัณฑิตประจำทิศละคน ผันพระพักตร์ต่อบุรพทิศเป็นปฐม จึงราชบัณฑิตกล่าวคำอันเป็นมงคล โดยมคธภาษา ถวายมอบแผ่นดินอันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา ทรงรับด้วยพระเต้าเบ็ญจครรภ กระทำด้วยโมราประดับเพ็ชร ประดับทับทิม มีราคาเป็นอันมาก และทรงดำรัสตอบโดยมคธภาษา พราหมณ์ถวายน้ำพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏ น้ำกลศ ทรงรับมาสรงพระพักตร์แล้วเสวยหน่อยหนึ่ง แล้วผันพระองค์ไปตามทิศอาคเณโดยทักขิณาวัฏ ทรงรับน้ำพระพุทธปริตร น้ำสังข์ทั้งแปดทิศเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินมาขึ้นบนพระที่นั่งภัทรบิฐ ผันพระพักตร์ต่อทิศอิศาน พระครูพราหมณ์ก็อ่านอิศรเวทสรรเสริญเขาไกรลาส แล้วถวายไชยมงคล แล้วกราบบังคมทูลถวายสิริราชสมบัติ ซึ่งหาพระมหากษัตริย์จะครอบครองมิได้สืบต่อไป แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎ พราหมณ์พฤฒามาตย์กราบบังคมทูลถวายพระมหาเศวตฉัตร ซึ่งเป็นที่เฉลิมสิริราชสมบัติสำหรับพระบรมกษัตริย์สืบมา แล้วพระมหาราชครูถวายพระสุพรรณบัตร พระมหาพิไชยมงกุฎ พระมหาสังวาล คือสังวาลพราหมณ์ คือสังวาลพระนพเก้า ทรงรับมาสรวมสอดทรงในพระองค์ แล้วพระมหาราชครู ถวายธารพระกรกับพระแสงขรรค์ ทรงรับธารพระกรพาดเบื้องขวา พระแสงพาดเบื้องซ้าย แล้วทรงรับพระแสงอัษฎาวุธ เครื่องราชกกุธภัณฑ์เครื่องราชบริโภคทุกสิ่ง แต่ฉลองพระบาท พระมหาราชครู มาสอดทรงถวายเสร็จแล้ว จึงมีรับสั่งแก่พระมหาราชครูผู้ใหญ่ว่า ผลพฤกษ์ชลธารและสิ่งของ ในแผ่นดินเขตต์พระนคร ซึ่งหามีผู้หวงห้ามไม่นั้น ตามแต่สมณพราหมณาจารย์ราษฎรจะปรารถนาเทอญ จึงพระมหาราชครูผู้ใหญ่รับพระบรมราชโองการ เป็นประพฤติเหตุก่อนว่า ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับพระบรมราชโองการ มานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทใส่เกล้าใส่กระหม่อมดังนี้ แล้วทรงโปรยดอกพิกุลทองพิกุลเงิน ทรงหลั่งน้ำทักขิโณทก แล้วพราหมณ์เป่าพระมหาสังข์ ประโคมดุริยางคดนตรีมะโหระทึกกึกก้อง ครั้นหยุดประโคมแล้วเสด็จเข้าไปในพระมหามนเทียร ทรงถวายสำรับคาวหวานแก่พระสงฆ์ราชาคณะ มีกรมหมื่นนุชิตชิโนรสเป็นประธาน ทำภัตตกิจเสร็จแล้ว ทรงถวายเครื่องสมณบริกขาร ไทยธรรมทั้งปวง พระสงฆ์ราชาคณะรับแล้ว ก็ถวายอติเรกสัพพพุทธาแล้ว ถวายพระพรลาไป จึงพระครูพระราชพิธีขึ้นไปบนพระมหามนเทียร ประพรมน้ำกลศน้ำสังข์ รอบพระมหามนเทียรทั้งข้างในข้างนอก อวยชัยถวายพระพรแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระแสงใจเพ็ชรเสด็จออกณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ถวายไทยธรรมแก่พระสงฆ์ราชาคณะสามสิบรูปเสร็จแล้ว พระสงฆ์จึงถวายพระพรลาไป เสด็จเข้าในพระวิสูตร ทรงผลัดพระภูษาเขียนทองต่างสี ทรงฉลองพระองค์พระกรน้อยชั้นใน ฉลองพระองค์ครุยชั้นนอก ทรงพระมหาชฎาเดินหน เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย ฝ่ายทหารพลเรือนทุกพนักงาน แต่งตัวเต็มยศอย่างเสด็จออกเป็นการใหญ่ ตั้งเครื่องยศตามตำแหน่งผู้ใหญ่ผู้น้อยทุกท่านทุกนาย ฝ่ายในจัดทหารอย่างยุโรปยืนแถวสองร้อยคน ฝ่ายนอกประตูพิมานไชยศรี จัดทหารไทยสิบหมู่พันคน แต่งตัวถืออาวุธต่างๆ เป็นเหล่าๆ ยืนสองฟากถนน ผูกช้างต้นม้าต้นยืนในปะรำ ยืนประจำที่เกยคือเจ้าพระยาไชยานุภาพ และแต่งผูกเรือพระที่นั่งศรีสมรรถไชยหนึ่ง พระที่นั่งไกรสรมุขหนึ่ง มีบุษบกฝีพายแต่งตัวพร้อมประทับอยู่หน้าพระตำหนักน้ำ ตามโบราณราชประเพณีแต่ก่อน บรรดาแขกเมืองต่างประเทศ เขมร ลาว ลื้อ ลาวเมืองหลวงพระบาง ลาวเมืองน่าน อันเป็นเมืองมาอ่อนน้อมถวายต้นไม้ทองต้นไม้เงินเครื่องราชบรรณาการ ซึ่งเข้ามาค้างอยู่ณกรุงเทพมหานคร กับพวกอังกฤษ อเมริกัน วิลันดา โปรตุเกศ แขกเทศ แขกมลายู ซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมเดชาภินิหารอยู่ณกรุงเทพมหานคร แต่ก่อนมิได้มีธรรมเนี่ยมที่จะประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในเวลาอย่างนี้ โดยทรงพระมหากรุณาเมตตาแก่ชนต่างประเทศ ก็โปรดให้เข้ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย จะได้เชยชมพระบรมสิริวิลาส เห็นการวิเศษในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ชาววังไขพระวิสูตรแล้ว เสด็จพระราชดำเนินออกขึ้นบนพระที่นั่งตั้งพระมหาเศวตฉัตรเก้าชั้น เหนือพระบรมราชรัตนาภรณ์พิจิตรสุพรรณบัลลังก์ จึงประโคมแตรสังข์มะโหรีพิณพาทย์กลองมะโหระทึกกึกก้อง กลองชะนะ ฆ้องไชย หลวงราชมานูชูพุ่มดอกไม้ทอง จางวางมหาดเล็กตีกรับเป็นสัญญา ให้ข้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบถวายบังคมพร้อมกัน ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว พราหมณ์อ่านวิษณุเวทอิศรมนตร์ เป่าพระมหาสังข์ ถวายไชยมงคล พระศรีภูริปรีชาเสนาบดีศรีสาลักษณ์เจ้าพนักงาน จึ่งได้นำความกราบทูลก่อนเสนาบดีทั้งปวง กราบทูลว่า สรวมชีพข้าพระพุทธเจ้าผู้รับอธิบายแห่งท่านทั้งหลายนี้ อัครมหาเสนาบดีและอำมาตย์มุขมนตรี ข้าทูลละอองธุลีพระบาท บรรดามาพร้อมในสถานที่นี้ ขอถวายอัญชลีบังคมประณมน้อมสิโรตมางค์ แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันได้เสด็จเถลิงถวัลยราชย์บรมราชาภิเษก เป็นองค์เอกอัครมหาราชาธิราช ทรงพระยศวโรภาสสถิตภายใต้พระมหาเศวตฉัตร เหนือพระวโรดมบรมรัตนราชบัลลังก์ มีพระปรมาภิไธยได้ประดิษฐานตั้งในแผ่นพระบรมสุพรรณบัตร โดยอักษรลักษณะแสดงอรรถว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ สุทธสมมติเทพยพงศ์ วงศาดิศรกษัตริย์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาส อุภโตสุชาติสังสุทธเคราหณี จักรกรีบรมนารถอดิศรราชรามวรังกูร สุจริตมูลสุสาธิตอุกฤษฐวิบุลย์ บุรพาดุลยกฤษฎาภินิหาร สุภาธิการรังสฤษฎิ์ ธัญญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมางคประนต บาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพสุภผลอุดมบรมสุขุมาลยมหาบุรุษรัตน ศึกษาพิพรรฒสรรพโกศล สุวิสุทธวิมลศุภศีลสมาจาร เพ็ชรญาณประภาไพโรจน์ อเนกโกฏสาธุคุณ วิบุลยสันดาน ทิพยเทพาวตารไพศาลเกียรติคุณ อดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ เอกอัครมหาบุรุษ สุตพุทธมหากวี ตรีปิฎกาทิโกศล วิมลปรีชามหาอุดมบัณฑิต สุนทรวิจิตรปฏิภาณ บริบูรณ์คุณสารสยามาทิโลกยดิลก มหาปริวารนายกอนันต์มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษสิรินทร มหาชนนิกรสโมสรสมมต ประสิทธิวรยศมโหดม บรมราชสมบัติ นพปฎลเศวตฉัตร สิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเษกาภิษิต สรรพทศทิศวิชิตชัย สกลมไหศวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนารถชาติอาชาวไสย พุทธาทิตรัยรัตนสรณารักษ์ อุกฤษฐศักดิอัครนเรศรามาธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร ปรเมนทรธรรมิกมหาราชาธิราชบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชย์ ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร อมรรตนโกสินทร มหินทรายุธยา มหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศมหาสถาน สรวมชีพข้าพระพุทธเจ้า เจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดี ว่าที่สมุหพระกลาโหม พระยาราชสุภาวดีว่าที่สมุหนายก พระยาพิพัฒนโกษา เจ้าพนักงานกรมท่า และสิบสองพระคลัง พระยาบำเรอภักดิ์ เจ้าพนักงานกรมวัง พระยาประชาชีพ เจ้าพนักงานกรมนา พระยาเพ็ชรปาณี เจ้าพนักงานกรมพระนครบาล ขอรับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสอนุญาต แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อจะกราบทูลพระกรุณา มอบถวายสรรพสิ่งซึ่งเป็นเครื่องประดับพระบรมราชอิสสริยยศ และราชสมบัติทั้งปวง อันปฏิพัทธ์ฉะเพาะพนักงานต่างๆ ตามธรรมเนียมแต่ก่อนมา ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ควรมิควรสุดแต่จะทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ขอเดชะ

สิ้นคำอาลักษณ์กราบทูลเบิกแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งว่า บรรดาเสนาบดีมุขมนตรีหมู่อำมาตย์ทั้งปวงซึ่งมีบรรดาศักดิ์ จะได้เข้ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในที่ฉะเพาะพระพักตร ตั้งแต่วันนี้ไป จงได้โอกาสเพื่อจะกราบทูลเหตุการณ์อันสมควร ตามอัธยาศัยในเวลาอันควร อย่าให้ป่วยการเนิ่นช้า ด้วยจะหาผู้กราบทูลแทนตัวเลย จงมีความสะดวกใจในที่จะกราบทูลพระกรุณาด้วยวาจาของตนทุกคนนั้นเถิด อาลักษณ์ผู้กราบทูลเบิกจึงว่า ขอรับพระบรมราชโองการมานพระบัณทูรสุรสิงหนาท ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมแล้วดังนี้ จึงจางวางมหาดเล็กตีกรับเป็นสัญญา ให้ข้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบถวายบังคมให้พร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง แล้วเจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่สมุหพระกลาโหมกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายมหาพิไชยราชรถ และเรือพระที่นั่งศรีสมรรถไชย เรือพระที่นั่งไกรสรมุข เรือพระที่นั่งมีชื่อต่าง ๆ และเรือกระบวนใหญ่ เรือกระบวนน้อย และเครื่องสรรพยุทธ์ทั้งปวง กับเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวา ไพร่พลฝ่ายทหาร ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม แล้วจึงพระยาราชสุภาวดี ว่าที่สมุหนายกกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระยาช้างพระที่นั่งต้น พระยาม้าพระที่นั่งต้น กับ เมืองเอก เมืองโท เมืองตรี เมืองจัตวา ทั้งไพร่พลฝ่ายพลเรือน ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

แล้วจึงพระยาบำเรอภักดิ์ ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมวัง กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระมหามนเทียรปราสาทราชนิเวศสถาน พระราเชนทรราชยาน ทั้งเครื่องสูงเฉลิมพระเกียรติยศ ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

แล้วจึงพระยาเพ็ชรปาณี ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมเมือง กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร มหินทรายุธยา ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

แล้วจึงพระยาประชาชีพ ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมนา กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายธัญญาหาร แดนสถานลานนาเขตต์ประเทศตำบล ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

แล้วจึงพระยาพิพัฒนโกษา ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมท่า กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องพระพัทธยากรราชสมบัติทั้งสิบสองพระคลัง ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ดังนี้

ครั้งนั้นปลัดทูลฉลองได้กราบทูล เพราะจัตุสดมภ์ไม่มีตัว มิใช่เป็นธรรมเนียมของปลัดทูลฉลอง ครั้นทูลถวายเสร็จแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการตรัสปฏิสัณฐาร แก่เจ้าพระยาและพระยาทั้งปวง ว่าสิ่งของทั้งปวงนี้จงจัดการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป แล้วอัครมหาเสนาบดีผู้ใหญ่รับพระบรมราชโองการ กราบถวายบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเข้าทั้งปวงขอรับพระบรมราชโองการมานพระบัณทูรสุรสิงหนาท ใส่เกล้าใส่กระหม่อม จึงทรงตรัสเป็นราชปฏิสัณฐารกับราชอำมาตย์ทั้งปวงด้วยข้อความคือการอันเป็นธรรมโดยราชบรรหาร อันเป็นมงคลสมควรกับธรรมเนียมแล้ว จึงทรงปราไสด้วยพวกแขกเมืองชาวต่างประเทศ ที่เข้ามาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ให้ล่ามแปลตามภาษาไทยให้แขกเมืองฟังบ้างเล็กน้อย แล้วจึงดำรัสสั่งให้ล่ามพนักงานต่างภาษาพาพวกแขกเมืองทั้งปวง ไปเลี้ยงโต๊ะที่โรงเลี้ยงแขกเมืองต่างประเทศ แล้วให้เจ้าพนักงานเอาดอกพิกุลทองพิกุลเงิน กับเงินตราทองตรามงกุฎแผ่นดินใหม่ มีสัณฐานต่างๆ อย่างเช่นใช้ในกรุงเทพมหานครครบทุกอย่าง ลงในถุงผ้าแดงคิดเป็นเงินตราสองตำลึง ไปพระราชทานให้ทั่วทุกคน แล้วหลวงราชมานูชูพุ่มดอกไม้ทองเป็นสัญญา พราหมณ์ก็เป่าสังข์ ชาวแตรก็เป่าแตรประโคมดุริยดนตรีพิณพาทย์กลองมะโหระทึก กลองชะนะฆ้องไชยขึ้นพร้อมกัน จางวางมหาดเล็กตีกรับเป็นสัญญา ให้ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยกราบถวายบังคมสามหน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐ พระราชวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ผู้น้อย ข้าราชการฝ่ายใน ก็ตั้งดอกไม้ธูปเทียนถวายตัว ท้าววรจันทร์กราบทูลถวายสิบสองพระกำนัล ครั้นได้พระฤกษเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระมหามนเทียร มีนางราชนิกุลชำระพระบาทนางหนึ่ง นางเชิญเครื่องราชบริโภคสำหรับพระบรมกษัตริย์แปดนาง แล้วมีนางเชื้อพระวงศ์หกนาง เชิญสิ่งของอันเป็นสิริวิลาสและธัญญาหาร ถั่วและงาผลฟัก และศิลาบด ดอกหมากทองคำ ตามเสด็จเข้าไปในพระมหามนเทียร ครั้นเสด็จถึงในที่ทรงจุดเทียนนมัสการ แล้วเสด็จขึ้นพระแท่น พระบรมวงศาผู้ใหญ่ คือพระองค์เจ้าพลับ ถวายดอกหมากทองคำหนักห้าตำลึง พระแซ่หางช้างเผือกผู้ ทรงรับแล้ววางไว้ข้างที่ แล้วท้าวทรงกันดาลถวายลูกกุญแจทองคำ แล้วเอนพระองค์ทรงพระบรรทมลงเหนือพระแท่นที่ โดยทักษิณปรัศว์เบื้องขวาเป็นฤกษ์ก่อน แล้วพระบรมราชวงศ์ฝ่ายในที่ทรงพระชนมายุ ถวายไชยมงคลก่อน แล้วพระราชวงศานุวงศ์ท้าวนางข้างในอวยไชยถวายพรต่างๆ พร้อมกัน ท้าวประโคมก็ประโคมดุริยางคดนตรีมะโหระทึก ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว เสด็จจากที่พระบรรทม นางพนักงานก็เชิญเครื่องสุพรรณภาชน์ พระกระยาเสวยเข้ามาตั้งถวาย จึ่งเสวยพระกระยาหารเป็นฤกษ์พอสมควร

จบเรื่องปัญจราชาภิเษกและบรมราชาภิเษกแต่เท่านี้

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ