คำชี้แจง

การที่ข้าพเจ้าเลือกเรื่องราชาภิเษก ขอให้พิมพ์ขึ้นใหม่ในฉะบับนี้นั้น เห็นว่าเป็นราชประเพณีนิยมกันมาช้านาน จนถึงวางเป็นตำราขึ้นไว้ และท่านที่รวบรวมมาเรียงไว้เป็นลำดับ ก็นับว่าได้ทำคุณแก่ผู้ต้องการภายหลัง และหนังสือฉะบับนี้พึ่งพิมพ์ขึ้นครั้งเดียวที่โรงพิมพ์หลวงในพระบรมมหาราชวัง เมื่อปีมะเมียตรีศก จุลศักราช ๑๒๓๓ (พ.ศ.๒๔๑๔) ถึงเวลานี้หาฉะบับยากอยู่แล้ว หนังสือเช่นนี้สมควรบำรุงไว้

ตอนต้นซึ่งกล่าวถึงปัญจราชาภิเษก คือราชาภิเษกมี ๕ อย่าง อย่างที่ ๑ อินทราชาภิเษก ในข้อนี้จะอย่างไร ข้าพเจ้าไม่คำนึงถึงแต่เข้าใจว่าท่านที่เขียนไว้ท่านเชื่อ ข้อนี้ข้าพเจ้าได้ฟังมาจากท่านผู้ใหญ่ มีความผิดกัน จึงนำมาเล่าสู่กันฟังว่า ท่านผู้เล่าก่อนท่านกล่าวว่า อินทราชาภิเษกตามที่ทราบมาไม่ใช่อย่างนี้ คือพระราชาพระองค์ใดซึ่งมีเดชานุภาพมาก ปราบพระราชาที่ใกล้เคียงหรืออื่น ๆ อยู่ในอำนาจได้มาก จึงทำการราชาภิเษกอีก เพื่อประกาศอำนาจ ยกพระองค์ขึ้นเป็นใหญ่กว่าพระราชาทั้งหลาย อภิเษกเช่นนี้จึงเรียกว่าอินทราชาภิเษก เมื่อเช่นนี้ก็ตรงกับศัพท์ “อินทร” และพระราชาเช่นนี้ จึงเรียกว่า “บรมราชาธิราช” ตามที่ว่ามานี้ ฟังดูแยบคายกว่าพระอินทรนำเครื่องทรงมาประทาน ดูไปเข้ารอยพิธีอัศวเมธ ในรามเกียรติของเรา “ปล่อยม้าอุปการเที่ยวพาลเขา” และยังได้ความอีกว่า “กษัตรหรือกษัตริย์และราชะ” คนละอย่าง กษัตริย์ เป็นชาติหรือสกุล - วรรณ ราชะ เป็นตำแหน่งยกขึ้นเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่หมู่นั้น กษัตริย์ไม่ต้องเป็นอะไรก็เป็นกษัตริย์ได้ ไม่มีชั้นอะไรอีก ส่วนราชะมีชั้น ๆ ที่ ๑ คือ บรมจักรพรรดิราชาธิราช ชั้นที่ ๒ บรมราชาธิราช ชั้นที่ ๓ ราชาธิราช ชั้นที่ ๔ มหาราชะ ชั้นที่ ๕ ราชะ

เมื่อราชะมีเป็น ๕ ชั้นเช่นนี้ และท่านก็มิได้อธิบายไว้ว่าแปลกกันอย่างไร ข้าพเจ้าขออธิบายตามเหตุผลที่สังเกตมา ชั้นที่ ๑ บรมจักรพรรดิราชาธิราช ต้องประกอบด้วยแก้ว ๕ ประการ (ถ้ายังไม่ทราบ จงดูรูปเขียนหรือสลักมีที่ประตูโบสถ์หลายแห่ง) เรียกว่าสมบัติจักรพรรดิ และเป็นใหญ่กว่ากษัตริย์ทั้งหลายทั้งทวีป

ชั้นที่ ๒ บรมราชาธิราช มีกษัตริย์อ่อนน้อมเป็นเมืองออก เป็นใหญ่กว่ากษัตริย์เมืองนั้น ๆ

ชั้นที่ ๓ มหาราชาธิราช มีกษัตริย์เป็นเมืองออก แต่หย่อนกว่าชั้นที่ ๒

ชั้นที่ ๔ มหาราชะ ชั้นนี้เป็นเมืองใหญ่ เช่นมหาราชาเมืองต่างๆ ในอินเดีย

ชั้นที่ ๕ ราชะ เป็นเมืองเล็ก ดังเช่นเจ้าผู้ครองเมืองในมลายู เขาก็เรียกกันว่า รายา คือ ราชา

การที่อธิบายชั้นของราชะ อยู่ข้างจะนอกเรื่อง แต่เมื่อได้เค้าเงื่อนมาและเห็นว่าของท่านดีอยู่ จึงอธิบายต่อเพื่อผู้ต้องการได้ดำริต่อไป

การราชาภิเษกเป็นความนิยมกันมาตั้งแต่โบราณ เมื่อถือเป็นราชประเพณีเช่นนี้ ท่านแต่ก่อนจึงได้วางเป็นตำราไว้ ตำราที่ไทยเราใช้อยู่ก็นับถือปัญจราชาภิเษกนี้เป็นหลัก

การราชาภิเษกในตอนที่ ๒ ครั้งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีรายการว่าตามเค้าเงื่อนพอทราบได้ว่า ตามหลักในตอนที่ ๑ นั่นเอง ส่วนรายการละเอียดก็คงหันเข้าหาความสะดวก ดังกล่าวมาแล้ว ประเพณีอันนี้ได้ใช้ตลอดมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร เพียงรัชกาลที่ ๓

ตอนที่ ๓ ว่าด้วยบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ ๔ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งนี้มีรายการชัดเจน เชื่อว่าทรงพระราชดำริวางรูปงานด้วยพระองค์เป็นส่วนมาก ดังที่ปรากฏในรายการนั้น และข้อที่มีพระปรมาภิไธยพิสดารฉะเพาะพระองค์ก็เป็นครั้งแรก แต่ก่อนตั้งแต่กรุงศรีอยุธยามาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๓ พระปรมาภิไธยพระเจ้าแผ่นดิน.....

ประวัติหม่อมเจ้าหญิงเม้า ทองแถม และคำชี้แจง พระยาพจนปรีชาได้แต่งมาถึงเพียงนี้แล้ว ท่านก็เริ่มป่วยและถึงอนิจกรรมเสีย เป็นอันว่าคำชี้แจงในที่นี้ก็มีเพียงเท่านี้เอง.

ทองบรรณาการ ทองแถม

วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ