แม่เรือนดี

ขอเริ่มร่ำสุนทราภาษิต ไว้เตือนจิตแม่เรือนเพื่อนผู้หญิง
อันร่วมชาติศาสนาสัจจาจริง ทั้งร่วมมิ่งมหากษัตริย์ธวัชไทย ฯ
ฉันมีนามแน่แท้ไม่แชเชือน ส้มจีนเขื่อนเพ็ชรเสนาอัชฌาสัย
นามสกุลอุณหะนันทน์อันอำไพ ตั้งหทัยชูชาติไม่คลาดคลา
แต่เป็นเพศนารีสุดวิสัย จะตรงไปสมัครทหารชาญอาษา
ผดุงรัฐขัตติเยศเกศประชา จำอาษาทางอ้อมลับตามอับจน ฯ
คิดเห็นว่าแม่เรือนเหมือนอาหาร บำรุงกายชายสำราญเจริญผล
อาหารดีมีกำลังยังสกนธ์ ให้โสภณสุขังพลังเรือง
อาหารที่มีพิษบริโภค ย่อมเกิดโรคแรงร้ายกายผอมเหลือง
เสียศรีสรรพ์วรรณาปัญญาเปลือง ทั้งสืบเนื่องสายโลหิตผิดสำแดง
ถ้าถ้อยคำร่ำไว้ไปภายหน้า มีประโยชน์โชตนาไม่หน่ายแหนง
เหมือนพวกเราเหล่าสตรีมีส่วนแรง บำรุงแต่งกองทัพดับลำเค็ญ ฯ
อนึ่งดังได้ฉลองละอองบาท มงกุฎราชอยู่เกล้าทุกเหล่าเห็น
พระบารมีร่มเกล้าทุกเช้าเย็น ไม่วายเว้นลืมพระคุณการุญการ ฯ
ขอถวายพระพรตรงบาทบงกช พระเกียรติยศจรูญแจ้งดังแสงฉาน
จงแผ่ไกลไชยะชนะมาร สิ่งหยาบการณ์อย่าบีฑาฝ่าธุลี
ให้พระองค์ยงยิ่งสิ่งประเสริฐ ทั้งล้ำเลิศกษัตราทุกราศี
พระชนม์จงอย่าน้อยนับร้อยปี เจริญศรีสุขสวัสดิ์ในฉัตร์ไชย ฯ
ขอกล่าวกลอนวอนสั่งด้วยหนังสือ ขนานชื่อ “แม่เรือนดี” ผ่องศรีใส
สำหรับรุ่นดรุณีที่เป็นไทย ให้มีใจคิดสมัครรักวิชา
เป็นนารีชันษาได้ห้าขวบ ก็อ่อนอวบน่าเอ็นดูแม่หนูจ๋า
ดังอุบลยังไม่พ้นหลังธารา การศึกษาก็ต้องเริ่มประเดิมเรียน
หนังสือไทยไปก่อนค่อยผ่อนผัน เหมือนก้าวคั่นบรรไดหัดฉวัดเฉวียน
ย่างได้เจ็ดชันษาอุตส่าห์เพียร ทวีเรียนหลายภาษาหาวิธี
อย่าเกียจคร้านการเรียนเพียรไว้หนา มีวิชาเหมือนมีทรัพย์ประดับศรี
อยู่ที่ใดไปที่อื่นหมื่นบุรี งามกว่ามีเครื่องประดับที่วับวาม
ปราชญ์นิยมชมชูดูไม่จืด เจริญพืชผลดีทวีหลาม
ถึงแก่ตายฝ่ายวิชาปรากฏนาม ก็คงงามอยู่ยืดไม่ชืดชา ฯ
เข้าโรงเรียนเขียนอ่านการหนังสือ อย่าดุดื้อฟังครูแม่หนูหนา
อุตส่าห์เพียรเรียนให้ครบจบตำรา มีวิชาประดับกายไม่อายคน
อย่ามัวเมาเอาแต่เล่นเต้นและวิ่ง เป็นผู้หญิงมิใช่ชายไม่เป็นผล
ถ้าพลั้งพลาดบาดป่วยระทวยตน เพราะความซนแตกโนโอ้อับอาย
วิชาเลขหนังสือนี้คือทิพย์ อาจยกหยิบความโง่และโซหาย
จะจูงนำความสมบูรณ์พูนสบาย มิให้กายเราลำบากต้องกรากกรำ
และเป็นเหมือนเพื่อนชีวาอาจสามารถ ช่วยบำราศพะยุงยกตกถลำ
ให้ดำเนินเดินประกอบที่ชอบธรรม ไม่เพลี่ยงพล้ำแคล้วคลาดนิราศภัย
หรือเป็นดังสะพานแก้วแววสว่าง ให้นวลนางข้ามตรงไม่หลงไหล
ให้บรรลุถึงความงามวิลัย มิให้ไปข้ามสะพานฐานกาลี
จงรักการงานดีอย่าหนีหน่าย เร่งเอียงอายความชั่วเอาตัวหนี
เป็นนักเรียนเขียนอ่านการกวี รู้ไม่ดีได้แต่รู้งู ๆ ปลา ๆ
ก็ใครเล่าเขาจะชมนิยมนุช มีอาวุธแต่ไม่คมสมปรารถนา
ยามจะใช้ได้แต่เถือเหลือระอา ไม่แกล้วกล้าสามารถเพราะขาดเพียร
วิชาดีมีสง่าชูราศี รูปไม่ดีวิชาพางามกว่าเขียน
ทั้งหอมหวลชวนคิดพิศจำเนียร ชนจะเวียนสรรเสริญเจริญพร ฯ
เมื่อเรียนจบครบประจักษ์หลักสูตรแล้ว ก็ผ่องแผ้วภิญโญสโมสร
อยู่บ้านเรือนเพื่อนบิดาและมารดร จงอาทรปฏิบัติสวัสดี
ถึงเหนื่อยยากอย่างใดอย่าได้คร้าน คิดถึงคุณท่านซึ่งกำเนิดเกิดเกษี
ทั้งเสียทรัพย์ซื้อวิชาให้นารี พระคุณมีอยู่กับบุตรสุดรำพรรณ
มีงานการสิ่งใดตั้งใจช่วย อย่าสำรวยกรีดกรายเที่ยวผายผัน
ทำสิ่งใดอย่าให้ค้างทิ้งกลางคัน รีบบากบั่นให้เสร็จสำเร็จการ ฯ
แม้ท่านจะโกรธาว่าสิ่งใด จงอย่าได้ตอบต่อข้อบรรหาร
ผิดก็นิ่งจริงก็จำคำวิจารณ์ จึงควรการบริสุทธิ์เรียกบุตรดี
จงตั้งใจเคารพอภิวาท เอาอำนาจกตัญญูกู้เกษี
จะเจริญวาสนาในธาตรี ก็เพราะกตเวทีสนองคุณ
การขึ้นเสียงเถียงบิดามาตุเรศ ใครแจ้งเหตุเขาจะเห็นเป็นสถุล
ไม่อวยพรค่อนว่าบุตรทารุณ เนรคุณไม่น่าสมาคม ฯ
อนึ่งอย่านั่งเง้างอดนั่งกอดเข่า เป็นคนเจ้าทุกข์กลับจะทับถม
นั่งซึมเซาเหงาง่วงดังทรวงตรม ไม่น่าชมกิริยาเป็นราคี
จงเริงรื่นชื่นแช่มยิ้มแย้มพักตร์ ให้น่ารักเพียงจันทร์อันสดศรี
อร่ามเรืองเฟื่องฟ้าในราตรี รัศมีดังจะชวนยวนฤทัย ฯ
จงตรองตรึกนึกเสมออย่าเผลอจิตต์ ที่ชอบผิดทุกข์ท้อด้วยข้อไหน
ถึงร้อนเย็นเป็นประการใด ไว้ในใจอย่าได้ออกนอกพักตรา
คอยวิเคราะห์เบาะแสอย่าแซ่ซร้อง แม้ขัดข้องในคดีมีปัญหา
จงนำความแถลงแจ้งกิจจา กับบิดามารดรอย่าซ่อนงำ
เข้าเขตสาวคราวควรสงวนโฉม งามประโลมชนนิยมว่าคนขำ
จะพูดจาสารพัดประหยัดคำ อย่าพูดพร่ำเพรื่อนักมักไม่งาม
จงรักษาวาจามารยาท ให้สอาดสมสาวชาวสยาม
อย่าให้ปนมลทินราคินทราม จึงได้นามงามจริงเป็นหญิงดี
จงรักษาตัวกลัวอายเสียดายชื่อ อย่าให้ลือข่าวชั่วจะมัวศรี
อย่าทำตัวหมดราคาแม่นารี จะเสียทีเกิดเปล่า ๆ ไม่เข้าการ
จงทำตนให้ดีมีมูลค่า เราเกิดมาต้องให้เห็นเป็นแก่นสาร
เป็นที่พึ่งเผ่าพงษ์เหล่าวงศ์วาร จึงพ้นการครหาอนาทร ฯ
เพราะฉะนี้นี่แหละฉันหวั่นถวิล ไม่วายจินตนาในฤทัยถอน
เป็นหญิงยากมากกว่าชายหลายบทกลอน อุทาหรณ์ให้เห็นพอเป็นที
หนึ่งสตรีมีร่างแบบบางจ้อย สองกำลังนั้นก็น้อยทุกร้อยสี
สามความกล้าสามารถไม่อาจมี สี่เป็นที่ครหาทุกท่าทาง
ยามดรุณรุ่นร่างสำอางเอี่ยม ดังเพ็ชร์เหลี่ยมเจียรนัยไม่มัวหมาง
เป็นของควรสงวนค่าอย่าละวาง ทำทิ้งขว้างสะเพร่าจะร้าวราน
เสียราคาพาเสื่อมความเลื่อมใส เป็นเพ็ชร์ไร้มูลค่าน่าสงสาร
ชนจะฉินนินทากล่าวสามานย์ ประกอบการใดจงคิดพิจารณา
อย่าใช้หวัด ๆ เลยจะเคยจิต ที่ชอบผิดตื้นลึกเร่งศึกษา
อย่าคะนองเที่ยวเตร่เล่นเฮฮา จงอุส่าห์รักนวลสงวนนาม
อย่าสนิทชิดใกล้กับชายนัก คนมักจักโจษนาว่าหยาบหยาม
จริงหรือไม่เสียชื่อเลื่องลือลาม ต้องรับความแค้นคำช้ำฤทัย
ดังจันทร์ผ่องต้องเมฆพโยมพยับ ก็พลอยอับศรีหมองไม่ผ่องใส
จะฟ้องหาหมิ่นประมาทบังอาจใจ มันก็ไม่เป็นเรื่องเปลืองเวลา ฯ
ก่อนจะมีคู่ครองจำต้องคิด เรามีสิทธิ์พอหวังหรือยังหนา
จะรับรองครองสมบัติวัฒนา มีวิชาอาการสถานใด
หนึ่งอายุของตนพ้นยี่สิบ รู้จักดิบดีงามตามสมัย
สองหนังสือเลขบัญชีดีหรือไร ชำนาญในกิจการงานบ้านเรือน
สามวิชาปฐมพยาบาล เผื่อมีการป่วยไข้ไม่เลื่อนเปื้อน
สี่มีทรัพย์ตามฐานะประจำเดือน พอดูเพื่อนบ้านได้ไม่อายคน
ห้าผู้ชายที่เราหมายฝากชีวาตม์ เขาสามารถบำรุงรักเป็นมรรคผล
มีวิชาหาทรัพย์ไม่อับจน ประพฤติตนอยู่ในธรรมพระสัมมา ฯ
ถ้าดีพร้อมห้าอย่างไม่ด่างกระ จึงควรจะมีเรือนเพื่อนเคหา
จะสมบูรณ์พูนสมบัติวัฒนา มีบุตราบุตรีที่เจริญ
มีกำลังอุปถัมภ์บำรุงบุตร เรียนจนสุดวิชาน่าสรรเสริญ
รู้ชอบผิดจิตจำความจำเริญ เด็กจะเดินสูงทุกทีทวีวัน
แม้นไม่มีเหมือนว่าในห้าข้อ เป็นการส่อนิมิตร์อย่าคิดฝัน
ถึงมีคู่อยู่ไปไม่นิรันดร์ จะพากันจนยากลำบากกาย
พลอยให้บุตรสุดอาลัยได้ลำบาก ต้องอดอยากสารพรรณมิ่งขวัญหาย
จะเล่าเรียนวิทยาปรีชาชาย สำหรับภายภาคน่าให้ถาวร
ฝ่ายบิดรมารดาหาทุนไม่ เด็กมิได้ความรู้จากครูสอน
ก็จะเหลวเลวป่นเป็นคนดอน น่าอาวรณ์สงสารประการใด ฯ
ถ้ายังไม่พร้อมตำราอย่าแต่งงาน จะเป็นการดีกว่าเป็นไหน ๆ
เขาย่อมว่าอยู่เป็นสาวขาวเป็นใย ไม่ช้ำใจเปลืองตัวมัวมลทิน
การมีคู่ใช่จะชูอารมณ์ชื่น ทุกวันคืนปลื้มจิตนิจสิน
ถ้าอัตคัดขัดกันดารอาหารกิน จะสูญสิ้นสุขเกษมเปรมปรีดา
ผัวก็โทษเมียว่าสุรุ่ยสุร่าย เมียก็โทษว่าผัวจ่ายไม่เป็นท่า
มีแต่เรื่องบริภาษขาดเมตตา ทรมากว่าจะม้วยไปด้วยกัน ฯ
อย่ารักชายง่าย ๆ จงไต่สวน ให้ถี่ถ้วนเท็จจริงทุกสิ่งสรรพ์
อย่าเอาความรักเป็นใหญ่หัวใจตัน จงคิดวันหน้าระวังหลังให้ดี
เราดีไปใครมีจะดีด้วย เราชั่วไปใครจะช่วยชั่วด้วยนี่
อันผลลัภพับแก่ตัวชั่วหรือดี จงรอรีจดจำตามตำรา ฯ
เป็นหญิงสาวคราวงามทรามสวาท อย่าด่วนมาตร์มุ่งเล่ห์เสน่หา
เหมือนดอกไม้ยังไม่ถึงซึ่งเวลา ไปเก็บมาคลี่กลีบรีบให้บาน
กลิ่นมิดีสีมิงามทรามทั้งรส จงรองดอย่าทำเร่งจำสาร
ไว้ให้ถึงเวลาสุมามาลย์ จะเบิกบานได้เองระเวงวรรณ
งามทั้งสีดีทั้งกลิ่นประทินหอม น่าถนอมชูชมภิรมย์ขวัญ
ควรประดิษฐานพานสุวรรณ ได้สมกันกับมาลัยให้เจริญ ฯ
แม้ชายใดให้หนังสือมาสื่อสาร ไม่ควรการสาวด้วยเร่งขวยเขิน
อย่าตอบก่อต่อสะพานให้ผ่านเดิน จงขามเมินเสียอย่าได้ทำไมตรี
ถ้าเขาจริงเจตนาสถาพร จะบำรุงดวงสมรเป็นศักดิ์ศรี
ท่านผู้ใหญ่ฝ่ายเราเล่าก็มี เขาควรที่แต่งทูตมาพูดจา
ถ้าท่านสืบสวนเช่นเห็นว่าเหมาะ ท่านคงเพาะปลูกฝังเป็นฝั่งฝา
ให้งามพักตร์ศักดิ์ยศรจนา จะลือชาเกียรติคุณจรูญเรือง
ว่าบุตรหลานท่านประยูรสกุลนั้น น่ารับขวัญจริงแท้แม่เนื้อเหลือง
ได้ของหมั้นขันหมากมากนองเนือง ชื่อจะเฟื่องฟุ้งสง่าเลิศนารี ฯ
ฝ่ายบิดรมารดาจะปราโมทย์ สมประโยชน์ที่ท่านมุ่งบำรุงศรี
ได้วิวาห์ลูกรักภคินี ไม่เสียทีโลมเลี้ยงโดยเที่ยงธรรม์
ถ้าเลี้ยงลูกปลูกโพธิไม่โตสูง อายแก่ฝูงชาวประชาแทบอาสัญ
จะละห้อยน้อยจิตเป็นนิรันดร์ เหมือนแกล้งท่านให้เทวศน้ำเนตร์นอง
จะเป็นบาปติดกายไปภายหน้า ต้องปราชัยตัวเกิดมัวหมอง
ทั้งญาติมิตร์บิดเบื่อเหลือปกครอง จะลอยล่องเป็นสวะออกทะเล
สำหรับเน่าเปื่อยไปไร้ประโยชน์ เหมือนทำโทษตัวเองไม่เก่งเก๋
อย่าเลวทรามตามชายง่ายเสเพล เขาทิ้งเทลงกระป๋องจะต้องอาย ฯ
เหมือนมณีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงแล้วไม่งามอร่ามฉาย
ถือประเดี๋ยวเลี้ยวใส่ปากเคี้ยวขากคาย ขว้างกระจายแตกเปล่าไม่เข้าการ
เป็นนางสาวคราวอายุยังน้อยรุ่น ไม่เคยคุ้นโลกัยกว้างไพศาล
ประกอบทั้งชั่วดีไม่มีประมาณ อย่ากล้าหาญทำไปตามใจปอง ฯ
เวลาเราเยาว์อยู่ผู้เกิดเกล้า หาเลี้ยงเราไม่กังวลมัวมลหมอง
ครั้นเติบใหญ่ท่านให้อยู่มีคู่ครอง เราจะต้องหาสะเบียงเลี้ยงกันเอง
ยังจำต้องสนองคุณการุญรัก ท่านฟูมฟักสงเคราะห์ให้เหมาะเหม็ง
ต้องเลี้ยงรอบครอบครัวของตัวเอง จงกริ่งเกรงรายได้รายจ่ายจร ฯ
เพราะเช่นนี้จำต้องหัดประหยัดทรัพย์ ไว้สำหรับบำรุงกายสายสมร
เวลาอยู่กับบิดาและมารดร จะกินนอนเดินนั่งระวังระไว
เพ่งเล็งดูหูใส่การในบ้าน จงหัดการแม่เรือนอย่าเชือนไถล
อย่าให้ผู้ปกครองร้องเรียกไกล การบ้านไซร้ต้องหัดทำให้ชำนาญ ฯ
อันแม่เรือนสำคัญมากเหมือนรากแก้ว ถ้าขาดแล้วต้นใบไม่ไพศาล
สำหรับเป็นฟืนเถ้าไม่เข้าการ อุปมานเพื่อนมนุษย์สุดรำพรรณ
ถ้ารากนั้นมั่นคงดำรงต้น จะผลิตดอกออกผลวิมลสรรพ์
จะบริบูรณ์พูนสุขทุกคืนวัน สารพรรณลาภผลจะล้นมา
การจะนั่งลุกคลานหรือกรานหมอบ ควรน้อมนอบต่อผู้ใหญ่ให้หรรษา
ดัดจริตบิดกายส่ายพักตรา ไม่โสภาน่าชังอย่าบังควร
อย่านั่งกลางขวางประตูโต๊ะตู้ต่าง อย่าใกล้ห่างดูพอดีให้ถี่ถ้วน
อย่าพรวดพลาดนั่งสะเทือนพื้นเรือนซวน เขาจะสรวลเย้ยเยาะเป็นเงาะเลว
ยามจะเดินเดินให้ดีอย่าผลีผลาม อย่ากรายข้ามเหยียบชนป่นแหลกเหลว
อย่าหน้าเป็นเล่นแขนอ้อนแอ้นเอว เป็นเฉลวเครื่องหมายสายชะนวน
อย่าก้าวยาวเร็วจริงดังวิ่งหนี จรลีเฉยช้าอย่าร่าสรวล
จงรักษามารยาทสอาดนวล ต้องสงวนศักดิ์ให้สมพรหมจารี ฯ
ยามนอนอย่าเซาซบเที่ยวฟบหลับ ไปห้องหับขัดกลอนนอนเป็นที่
ไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอนจึงดี เจริญศรีสุขสวัสดิ์ขจัดภัย
อย่านอนหงายป่ายปะระมุ้งม่าน เสียสัณฐานกายีหาดีไม่
นอนเรียบร้อยตะแคงร่างอย่าวางใจ หัดนอนไวคอยสังเกตฟังเหตุการณ์ ฯ
ยามกินจงพินิจพิศเสียก่อน อย่ารีบร้อนฉวยคว้าสิ่งอาหาร
ปะเป็นของเบื่อเมาของเหล่าพาล ชีพไม่ลาญก็เวียนเจียนบรรลัย
จงใช้ความระวังอย่าพลั้งพลาด รักษาสอาดหยิบต้องให้ผ่องใส
อย่ามูมมามปามเปรอะเลอะเทอะไป ผู้ใดใครเห็นรังเกียจเฉียดไม่ดี
อย่ากินเติบเปิบใหญ่ย้ายแก้มตุ่ย พุงจะพลุ้ยอึดอัดน่าบัดสี
โลภอาหารไม่ประมาณแต่พอดี จะเกิดมีซึมเซาง่วงหาวนอน
จะทำการสิ่งใดให้ท้อแท้ ดูป้อแป้คอยแต่ลุกหัวซุกหมอน
กินมากโง่โตกระบือหรือโคจร สำหรับต้อนแอกใส่ไถนาดี ฯ
ยามจะจำนรรจาอย่าค้อนควัก ทำประหลักประเหลือกตาน่าบัดสี
จงยิ้มแย้มแช่มช้าค่อยพาที เหมือนมาลีแย้มช่ออรชร
ใครได้ผลมณฑาสุมามาส หวังสวาทเชยประทินกลิ่นเกษร
อันงามใดในหล้าหรืออาภรณ์ ไม่งามงอนเหมือนผู้ดีมีอัชฌา ฯ
ถึงจะโกรธเคืองใครไว้ในจิต อย่าหงุดหงิดป่องปัดสบัดหน้า
ทั้งผูกคิ้วนิ่วพักตร์ลักษณา กล่าววาจาหยาบคายสลายนวล
อย่าหัวเราะเสียงดังฟังไม่เพราะ ถึงจะเหมาะขบขันจงกลั้นสรวล
ทำหลุกหลิกซิกซี้เชิงยียวน คนจะลวนลามหมิ่นกล่าวนินทา ฯ
จงไว้วางเหลี่ยมแต้มให้แช่มช้อย ไม่มากน้อยสมอาตม์วาสนา
ใครได้เห็นเป็นเองเกรงวิญญา ไม่กล้ามาดูหมิ่นสิ้นรำคาญ
จะนั่งนอนกินเดินอย่าเลินเล่อ อย่าเผลอเรอเอาแต่สุขสนุกสนาน
ชีวิตเรายังจะไปอีกไกลนาน ต้องหัดการทำเสบียงเลี้ยงชีวี ฯ
ตื่นแต่เช้างามชื่นอย่าตื่นสาย ชำระกายพักตราชูราศรี
อย่าให้ทันแสงตะวันนั้นแหละดี จงรีบรี่จัดงานการบ้านเรือน
เก็บสลัดปัดละอองของเครื่องใช้ ให้ผ่องใสสอาดดีไม่มีเปื้อน
อย่าค่อยทำร่ำไรน้ำใจเชือน อันการเรือนนี้นะนางใช่อย่างเดียว
เมื่อเข้าครัวรีบรัดจัดอาหาร จงประมาณตรึกตรองของหวานเปรี้ยว
อย่าทำครึ่งทิ้งครึ่งของนึ่งเจียว อย่ากราวเกรียวครกชามให้ครามโครม
หัดบำรุงภัตตาปรุงโอชารส ใครได้ซดต้องคนึงรำพึงโฉม
จัดสำรับประดับประดาให้น่าโลม เสร็จแล้วโฉมเฉลาอย่าเบาใจ
เก็บกวาดล้างวางไว้ให้เป็นระเบียบ สำรับเทียบกระโถนทำขันน้ำใส
ตั้งไว้ท่ามารดรไม่ร้อนใจ ตื่นจะได้รับประทานสำราญรมย์
จงอาบน้ำชำระกายให้ใสสอาด จงซักฟาดเสื้อผ้าอย่าหมักหมม
แล้วตกแต่งกายาให้น่าชม นั่งนิยมรับการของมารดา ฯ
ทั้งจะได้สดับรับโอวาท ให้สามารถรับกระแสแก้ปัญหา
ความเป็นไปตามสมัยของโลกา อ่อนปัญญาเปลี่ยนไปไม่ใคร่ทัน
ได้รับคำนำแนะแหละยังชั่ว อย่าถือตัวเป็นนักเรียนเขียนขยัน
ถึงเรียนรู้อักขรามาอนันต์ ไม่สำคัญเท่าสังเกตฟังเหตุการณ์
ความสดับรับรู้พหูสูตร คำคนพูดมากมายหลายสถาน
มีประโยชน์อย่างใดใช้วิจารณ์ ย่อมทราบการดีชั่วทั่วทิศทาง ฯ
มีแขกไทยไปมาหาผู้ใหญ่ จัดของไปปฏิบัติอย่าขัดขวาง
ให้น้องหรือคนใช้นำไปวาง อย่าไปห่างคอยแอบฟังแยบคาย
เขาพูดเนื่องเรื่องดีมีความรู้ จำเป็นครูอนุโลมนะโฉมฉาย
ถ้าพูดเนื่องเรื่องชั่วตัวอบาย จงเกลียดอายอย่าจำเป็นตำรา
มีพี่น้องหญิงชายคนใช้สรอย ผิดถูกค่อยพูดกันให้หรรษา
อย่าส่งเสียงลำพองก้องโกลา เสียจรรยาหญิงสาวคราวเจริญ
จะพูดจาปราศรัยอย่าใช้หยาบ พูดสุภาพเสมอไม่เก้อเขิน
อย่าเอาสุขคลุกดิบหยิบประเมิน อย่าดำเนินคำมุสาเป็นราคี ฯ
อันการกล่าวคำเท็จนั้นเผ็ดร้อน เหมือนตัดรอนกำลังตัวให้มัวศรี
ไม่มีใครปรารถนาสามัคคี มีชีวีอยู่ก็เป็นเหมือนเช่นตาย
ถ้าเราประพฤติตัวดีไม่มีผิด ใครประดิษฐ์แกล้งกล่าวฉาวสลาย
บาปเขาทำกรรมเขารับเขาอับอาย เขาไปอบายช่างเขาเราอยู่ดี
เหมือนทองคำงามหรูชมพูนุท บริสุทธิ์ปลั่งเปล่งเล็งฉวี
สาดน้ำครำซ้ำเอาเผาอัคคี ก็ไม่มีมัวหมองผ่องอำไพ ฯ
จงตั้งหน้าทำงานการดีกว่า อย่าเป็นอารมณ์เลวคำเหลวไหล
เวลาว่างการบ้านสำราญใจ ทำลำไพ่ตามวิชาหาสตางค์
ได้เฟื้องหนึ่งสลึงหนออย่าท้อจิต แต่ปลวกนิดไม่มีหัตถ์น่าขัดขวาง
ยังทำรังโตใหญ่ได้สำอางค์ ควรเอาอย่างเพียรประกอบที่ชอบธรรม
ถึงได้น้อยค่อยประสมอุดมได้ อย่าช่างจ่ายสารพัดรู้จัดสรร
ไม่จำเป็นอย่าจ่ายเสียดายครัน จงหมายมั่นเป็นเศรษฐีมีเงินทอง
การสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้เรื่อง จะเป็นเครื่องพาตนให้จนหมอง
ประมาทว่าหาได้ใช้คะนอง น้ำเต็มคลองน่าแล้งยังแห้งเลย
จะนุ่งห่มดูพอสมวาสนา อย่าหรูหราทั้งตาปีเจ้าพี่เอ๋ย
อยาแต่งตัวเกินงามนะทรามเชย เขาจะเลยแลเห็นเป็นละคร
การเสื้อผ้าหาประดับนับไม่ถ้วน แต่งแต่ล้วนต่วนแพรแลสลอน
ให้งดงามเฉิดฉินเป็นกินนร แต่ทรัพย์กล่อนหมดม้วยสวยอะไร
เก็บเงินไว้ได้หมุนทำทุนต่อ จะผลิดอกออกช่องามไสว
ได้เก็บผลสุกห่ามอร่ามไป เมล็ดในปลูกสลับทับทวี
จะเกิดผลล้นหลามงามแน่แท้ กินจนแก่จนตายไม่หน่ายหนี
ถ้าใช้เงินเสียแต่รุ่นดรุณี แล้วไม่มีทุนรอนจะถอนใจ
อย่าถือผิดคิดว่าใช่หน้าที่ มีสามีเขาจะหาเงินมาให้
จะนั่งนอนฟ้อนรำทำอย่างใด เขาคงให้เงินทองเรากองโต
ถ้าคิดเห็นเช่นนี้ผิดทีแน่ ใครรู้แซ่แล้วก็ตนไม่พ้นโง่
เหมือนสิ้นคิดวิทยาคอยพาโล ดังคนโซวอนง้อเที่ยวขอทาน ฯ
เกิดเป็นหญิงจริงแล้วหรือมือเท้าหาย ต้องให้ชายเขาเลี้ยงเพียงข้าวสาร
ทิ้งชีวิตให้เขาช่วยอำนวยการ เขาประหารตามเวลาก้มหน้าตาย
มือเท้าดีมีพร้อมหรือยอมขลาด ทั้งเป็นชาติมนุษย์วิสุทธิ์หลาย
ความรู้สึกต่าง ๆ อย่างภิปราย ไม่แปลกชายกี่มากน้อยเลยกลอยใจ
อันเงินทองถมไปในใต้หล้า ผู้หญิงหาก็ต้องพบสบสมัย
หาได้เองไม่ต้องเกรงน้ำใจใคร จะกินใช้ก็สะดวกไม่ลวกคอ ฯ
ได้ยินเล่าลาง ๆ บางผู้หญิง พูดอ้อยอิ่งโอดโอ้พุทโธ่หนอ
เงินเดือนไม่พอใช้จ่ายไม่พอ ลูกกะยอกะแยร้องแซ่กิน
ฟังแล้วเหี่ยวเสียวสลดระทดท้อ นี่เพราะข้อแต่เดิมไม่เริ่มถวิล
ไม่คิดอ่านทำมาการหากิน คิดแต่ผินพึ่งชายเสียฝ่ายเดียว
ถึงพึ่งได้ก็ยังลือขึ้นชื่อว่า เขาไม่หาเลี้ยงท้องก็ต้องเหี่ยว
ไม่ชื่นสดอดอยากลำบากเจียว ไม่แน่นเหนียวเหนี่ยวรั้งประทังกาย ฯ
โอ้เกิดมาเป็นหญิงสิ่งเสียเปรียบ โบราณเทียบเป็นข้าวสารการทั้งหลาย
ไม่งอกงามทรามตาเทียมหน้าชาย น่าแสนอายแสนเจ็บน่าเก็บจำ
ส่วนผู้ชายท่านเปรียบเทียบข้าวเปลือก จะกลิ้งเกลือกไม่เป็นที่ก็ดีขำ
ตกที่ไหนงอกที่นั่นรำพรรณคำ ไม่ม้านน้ำบ้างหรือไรไฉนนา ฯ
เพราะผู้หญิงบางคนวนขี้เกียจ ต้องถูกเหยียดเป็นเด็กอ่อนฉะอ้อนหา
ชายข่มขู่ดูหมิ่นสิ้นเมตตา ก็ไม่กล้าปริปากเพราะยากใจ
การน้อยทรัพย์อัประมานกันดานหมด ต้องออมอดสาระพัดแทบตักษัย
ทำไม่ถูกยืมจมูกเขาหายใจ จะต้องได้ยากแค้นแสนทวี ฯ
เชิญอนงค์จงจำคำตัวอย่าง ได้เป็นทางตรองดูรู้วิถี
ทางใดเลี่ยนเตียนก็จรลี ทางใดมีขวากหนามอย่าข้ามกราย
เหมือนคนเดินทางไกลไปภายหน้า จำต้องหาสะเบียงไปให้มากหลาย
อย่าหมายน้ำบ่อน่าว่ามากมาย ไม่สมหมายจะต้องอดหมดกำลัง
อย่าคอยพึ่งผู้อื่นกลืนอร่อย จงอายหอยต่าง ๆ ดูอย่างมั่ง
มันไม่มีมือเท้าก้าวประทัง มันก็ยังเลี้ยงกายได้ใหญ่โต ฯ
จงคำนึงพึ่งตัวเราดีกว่า คำพระว่าอัตตะโนนาโถ
แต่ให้เป็นสัมมาอาชีโว อย่าโลโภมิจฉาอาชีวะ
การหากินสิ่งใดถึงใหญ่ลาภ แต่เป็นบาปทุจริตผิดจังหวะ
จะทำให้เสื่อมคลายหายะนะ จงหลีกละอย่าทำเป็นกรรมเวร
จงแสวงหาแต่ข้อบริสุทธิ์ อย่ายั้งหยุดรีบรัดขัดเขมร
อย่าเฉื่อยช้าซึมเหงาดังเขาเกณฑ์ ทำให้เจนใจชำนาญการหากิน
ถ้ามีทรัพย์มารศรีมีคู่ครอง จะไม่ต้องร้อนจิตคิดถวิล
เรามีอยู่เขามาหาเป็นอาจิณต์ จะเพิ่มภิญโญยิ่งทรัพย์ศฤงคาร
ถ้าเราจนเขาก็หามาไม่พอ จะเป็นข้อร้อนใจดังไฟผลาญ
เรามีไว้ขาดเหลือได้เจือจาน จะสำราญไม่ต้องหมองฤทัย ฯ
เป็นหญิงดีมีทั้งทรัพย์กับเป็นปราชญ์ เปรียบดังชาตินพรัตน์จรัสไข
หรือจะไร้เรือนรองทองอุไร อันอำไพสมศักดิ์ลักษณา
มีบ้านเรือนเพื่อนชีวิตคิดให้ชอบ จงน้อมนอบทอดเทเสน่หา
คอยกังวลปรนนิบัติภัสดา ให้ผ่องผาสุขสานต์สำราญรมณ์
จงตั้งจิตคิดที่ชอบประกอบกิจ สุจริตชวนชิดสนิทสนม
เหมือนชีวิตอันเดียวกันเกลียวกลม ทุกระทมสุขเกษมเปรมปรีดา
ย่อมได้รับด้วยกันนะขวัญจิต อย่าควรคิดลังเลเสน่หา
ถึงนอนดินกินเกลือเหลือระอา ก็อุตส่าห์กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงกันไป
เวลายิ้มอิ่มเอมเกษมสุข คราวมีทุกข์ถอยหนีทีไถล
อย่าจับโน่นโยนนั่นไม่ทันไร ผิดวิสัยหญิงดีมีจรรยา ฯ
หญิงจะงามเต็มที่ยามมีผัว ครองครอบครัวชำเลและเคหา
เครื่องใช้สอยน้อยใหญ่หลายบรรณา อวิญญาณกทรัพย์นับประมาณ
ทั้งวิญญาณกทรัพย์นับเอนก อดิเรกลาภามหาสาร
ของทั้งหลายได้แบ่งเมื่อแต่งงาน บิดามารดามอบให้ครอบครอง ฯ
งามสงวนควรรักษาอย่าให้ขาด จงฉลาดหาเพิ่มเติมสนอง
ให้ได้สืบนามสกุลทรัพย์มูลมอง ไม่มัวหมองเจริญสุขทุกทิวา ฯ
มีคู่ครองน้องเอ๋ยอย่าเฉยแฉะ ครั้งนี้แหละญาติวงศ์เผ่าพงศา
ทั้งเพื่อนบ้านใกล้ห่างจะตั้งตา ดูสุดาครองบ้านการใหญ่โต
แม้นปกครองของเก่าไม่เศร้าสูญ ของใหม่พูลเพิ่มไว้ได้อักโข
ทั้งญาติมิตรทั้งหลายจะไชโย แม้ใหม่โซเก่าสูญท่านขุ่นเคือง
จะสาปแช่งแหนงหน่ายไม่หมายคบ คอยหลีกหลบเกลียดชังไปทั้งเรื่อง
กลัวใกล้ตัวชั่วจะทำพาเขาเปลือง จะแค้นเคืองเอาใครตัวไม่ดี
จงระวังนั่งเดินอย่าเพลินสุข กริ่งเกรงทุกข์ภัยพาลผ่านวิถี
อย่าให้ล้ำกล้ำมาทำราวี เป็นหน้าที่ของเราเฝ้าป้องกัน
แต่ก่อนนี้สมรมิ่งนามหญิงสาว นี่ถึงคราวได้ชื่อลือขยัน
ว่าแม่เรือน ๆ เหมือนกับเผ่าพันธุ์ พืชสำคัญของมนุษย์ปุถุชน
ถ้าพืชพันธุ์นั้นดีไม่มีลีบ จะสืบชีพวัฒนาสถาผล
รู้รักษ์ความดีมีกมล ไม่เป็นคนเหลวแหลกแปลกประยูร ฯ
การตื่นสายไม่ใช่สิ่งหญิงประพฤติ จงเพียรยึดยกตำราอย่าให้สูญ
ตื่นแต่ยังรังษีที่จรูญ อากาศพูนเพิ่มฟูชูสกนธ์
กระทำให้ร่างกายสายสวาท จะแคล้วคลาดโรคภัยไม่สับสน
พยาธิสิเป็นภัยใหญ่แก่ตน ตัดลาภผลความเจริญไม่เดินจร
อโรคาสามารถให้อาจหาญ ทำกิจการสิ่งใดไม่ท้อถอน
สำเร็จมาตร์ปรารถนาไม่อาวรณ์ พงางอนจงระวังกำลังกาย
เราตื่นสายบ่ายงานการเคหา เสียเวลาขาดประโยชน์เป็นโทษหลาย
ควรจะได้หนึ่งบาทต้องคลาดคลาย เป็นเสียหายหกสลึงซึ่งไม่ควร ฯ
หมั่นตรวจตราสารพัดจังหวัดบ้าน รักษาการรอบคอบคอยสอบสวน
ผู้ทำเริ่มเสียหายหลายขะบวน ครั้งหนึ่งควรภาคทัณฑ์อย่าบั่นรอน
ถ้าสองครั้งสามครั้งยังบังอาจ ทำร้ายกาจไม่จำคำสั่งสอน
จะใช้สอยไม่เป็นเรื่องเยื้องให้จร ไว้เป็นหนอนปลวกมอดกัดกรอดกาย
ผู้ใดมีสัตย์สุจริต ทำการกิจเหมือนของตนช่วยขวนขวาย
ถึงต่อหน้าหลับหลังไม่ซังกะตาย กลัวเสียหายป่นปอนเจ็บร้อนแทน
อันคนใช้เช่นนี้หนาหาได้ยาก ควรจะฝากฝังทรวงซึ่งหวงแหน
เป็นหูตาเราได้ไม่ขายแปลน จะตอบแทนตามระบอบให้ชอบชม
การสิ่งใดในเหย้าอย่าเบาจิต สมรมิตรตรองความให้งามสม
เป็นแม่เรือนเหมือนลับมีดกรีดให้คม วางอารมณ์พลั้งพลาดจะบาดมือ
ระวังการณ์ภายในไม่ช้ำชอก ทั้งภายนอกมิให้หมองประคองถือ
มีธุระสิ่งใดให้หารือ อย่าโง่ดื้องอนเง้าไม่เข้าการ
แม้นโกรธเคืองเรื่องใดมีในจิต จงแจ้งกิจสุนทรโดยอ่อนหวาน
ให้สามีทราบประสงค์ของนงคราญ ไม่ร้าวรานรอนสลัดตัดไมตรี ฯ
จะพูดจาปราศัยอย่าใช้ปด สบัดสบถสารพัดจะบัดสี
อย่ายักยอกกลอกกลับล้วนอัปปรีย์ เป็นผู้ดีไม่ได้ใช้ไม่คง
การกล่าวเท็จแม้สำเร็จปรารถนา ไม่เร็วช้าจับได้อย่าไหลหลง
เขารู้เช่นเห็นพยศคดไม่ตรง จะเลยลงทอดตลาดขาดราคา ฯ
หรืออย่างต่ำทำให้ไม่ไว้จิต ผู้ใกล้ชิดคลายเล่ห์เสน่หา
สำหรับเขาติฉินกล่าวนินทา อย่าถือว่าช่างเป็นไรฉันไม่กลัว
ไม่กลัวคนถ้วนทั่วต้องกลัวบาป เวรจะปราบเราเลยไม่เงยหัว
จะตอบโต้เวรไม่ได้แพ้ภัยตัว จะเกรงกลัวเวรกรรมกล่าวคำตรง
พูดแต่สิ่งจริงเถิดประเสริฐรส จะปรากฏยศอย่างดังนางหงษ์
ถึงตัวตายฝ่ายชื่อยังลือยง ย่อมมั่นคงแน่นหนักดังหลักชัย ฯ
อนึ่งผู้ใหญ่ในตระกูลประยูรญาติ อย่าอุกอาจวาจาอัชฌาสัย
จงเคารพนบน้อมละม่อมละไม รักษาไมตรีสมัครสามัคคี
อย่าหูไวใจเบาเจ้าทิฏฐิ จงตรองตริใคร่ครวญให้ถ้วนถี่
ถึงหนักเหลือเบาหลายร้ายเต็มที มารศรีอดออมถนอมวงศ์
อีกทั้งความฤษยาพยาบาท ตัดให้ขาดจากใจอย่าไหลหลง
ใครมีทุกข์รันทดสลดทรง ช่วยบรรจงแบกหามตามกำลัง
ใครมีสุขโสมนัสไม่ขัดข้อง จะประคองค้ำจุนช่วยหนุนหลัง
อย่าเที่ยวทำขี้เหล่ขวางเก้กัง ไม่สมดังชื่อเหมือนแม่เรือนดี ฯ
จงโอบอ้อมอารีญาติพี่น้อง ทั้งพวกพ้องเพื่อนฝูงสูงต่ำสี
ควรช่วยเหลืออย่างใดในวิธี อย่าตระหนี่ไปเสียหมดไม่งดงาม
ผู้มีคุณจุนเจือต้องเผื่อแผ่ อย่านิ่งแน่ดูดายไม่ไต่ถาม
มีสุขเสริมเติมสิ่งให้พริ้งงาม มีทุกข์หามหอบช่วยด้วยกำลัง
กตัญญูนอบนบไม่ลบหลู่ ทวยเทพรู้อวยชัยให้สมหวัง
จะเจริญลาภยศปรากฏดัง เป็นที่ตั้งสุขสวัสดิ์วัฒนา ฯ
ทั้งเพื่อนบ้านร้านช่องอย่าปองผิด จะหนักนิดเบาหน่อยค่อยปรึกษา
จงหักจิตคิดละอะเวรา หมั่นรักษาไมตรีมีประมาณ
อย่าเก็บคำบ้านนั้นออกบอกบ้านนี้ ทำลายความสามัคคีให้ร้าวฉาน
การเสียดส่อก่อเวรเกณฑ์รำคาญ เขาประจานสอบสวนทวนถ้อยคำ
ใครเขากล่าวดีชั่วส่วนตัวเขา ใช่การเราจะไปพล่อยพลอยถลำ
ดูเป็นคนต่ำช้าวาจากรรม ไม่ควรทำใจของตนจนใจคอ
การของเราเอาใจใส่ให้มาก กลัวตกยากอย่าเที่ยวไปไถลหนอ
เสียการงานบ้านเรือนเหมือนมืองอ ต้องเบียนขอยืมกู้ดูกระไร
จงตรึกตราหาผลที่พ้นโทษ ทำประโยชน์เพิ่มเติมค่อยเสริมใส่
ของชำรุดอุตส่าห์ซ่อมถนอมใช้ สิ่งใด ๆ ต้องเงินซื้ออย่าถือดี
อันบ้านช่องของใช้ไม่รักษา เหมือนไม่รักกายาและศักดิ์ศรี
ไม่เป็นที่วางวิญญาของสามี ทำผู้ดีไม่จับต้องกลัวหมองมือ
ร่างกายเปื้อนล้างได้ไม่ลำบาก ชื่อเปื้อนยากที่จะล้างต้องครางหือ
ยิ่งเปื้อนหมึกปากกาพาเลื่องลือ กว่าจะรื้อถ่ายถอนก็อ่อนแรง
ทำสิ่งใดอย่าให้ผัวตำหนิ จะรีบริเป็นราคีขี้แขนง
ลงว่าเสียสักครั้งทีหลังแรง เขาพลาดแพลงเราจะว่าดูท่าที
ค่อยโอภาปราสัยให้เห็นผิด อย่าคุมคิดแค้นคลั่งตั้งเสียดสี
อดโทโสโมหันต์ถือขันตี ไม่พอที่อย่าให้เรื่องถึงเคืองคำ
ธรรมดาภรรยากับสามี ต้องถ้อยทีมีจิตอุปถัมภ์
ต่างเมตตาปรองดองทำนองธรรม จะสุขสำราญกมลจนบรรลัย ฯ
อนึ่งจำสำนักการศึกษา ศาสนาที่เราถือคือไฉน
พระพุทธเจ้ากล่าวธรรมนำฉันใด จงเรียนให้รู้จริงสิ่งสำคัญ
ถ้าไม่รู้ดูเป็นคนไม่เป็นหลัก จะยึดปักลอยเร่เที่ยวเหหัน
รู้ประเสริฐเกิดทุนคุณอนันต์ ป้องกันสรรพ์ภัยมีชัยชาญ ฯ
เมื่อครั้งสาวเปล่ากายสบายจิต ไม่รับผิดชอบคะเนเคหะสถาน
เพราะชนกชนนีมีประธาน สิ่งกันดารสารพัดท่านจัดเอง
คราวนี้เราพ้นอกท่านกกเลี้ยง จะหลีกเลี่ยงอย่างไรไม่เหมาะเหมง
ต้องรับช่วงตวงถ่ายเต็มกายเอง จะเดินเพลงยากนักหนาเป็นนารี
ถ้ามั่งมีดีงามในนามผัว ยากจนชั่วว่าเมียเสียราศี
เป็นแม่เรือนไม่ได้และไม่ดี ส่วนชายซีเขาไม่ว่าหนาอนงค์ ฯ
เพราะเช่นนี้จำอุตส่าห์เต็มสามารถ สงวนชาติหญิงไว้อย่าไหลหลง
แม้เชื่อรูปเชื่อรักมักทะนง อันรูปทรงอย่าสัญญาว่าตราชู
ย่อมผันแปรแก่เก่าไม่สาวพริ้ง มักเป็นสิ่งเบื่อหน่ายอายอดสู
ถ้าความดีมีไว้ได้เชิดชู จะไม่รู้เก่าแก่แลจืดจาง
อย่าทำภูมิฟูมฟายทำลายทรัพย์ จะย่อยยับสารพัดจะขัดขวาง
คอยเสงี่ยมเจียมตัวกลัวระคาง อย่าเอาอย่างเยี่ยงชั่วเฝ้ามัวเมา
อย่ากระทำสำอางวางธุระ เงินทองนะถมไปไม่ต้องเศร้า
หมดไปหรือซื้อเอาใหม่ทำใจเบา ไม่มีเจ้าบ้านไปหามาให้พอ
อย่าประพฤติเผลอเรอกะเฌอรั่ว ปลาสักตัวผัวช้อนจนอ่อนข้อ
ไม่มีเหลือยับแยบจะแสบคอ จนเขาท้อใจไม่เลี้ยงเถียงเอาใคร
จะดิ้นโดยโหยหาว่าเขาชั่ว ก็ส่วนตัวเราผิดคิดไฉน
ต้องพูดให้ยุติธรรมในน้ำใจ ขออย่าได้เป็นดังอย่างที่อ้างเอย ฯ

พ.ศ. ๒๔๗๘ นี้

เชิญพวกเราเหล่าสตรีผู้มีจิต ช่วยกันคิดช่วยกันทำอย่าป้ำเป๋อ
เพียรประหยัดจัดให้ทั่วครอบครัวเธอ ไม่เมินเหม่อเอาแต่รายจ่ายตลุย
จะกินอยู่นุ่งห่มพอสมหน้า ไม่ซื้อหาฟูมฟายสุร่ายสุรุ่ย
มัธยัสถ์รัดกุมไม่สุ่มงุย ไม่กระจุยกระจายมักง่ายงม ฯ
เราเป็นหญิงสิ่งถนอมต้องพร้อมเพรียง ทั้งชื่อเสียงเงินทองต้องสระสม
บุตรธิดาทุกงบต้องอบรม ให้นิยมรู้ประมาณการทั้งปวง
ไม่เหิมเห่อเร่อร่าได้หน้าประเดี๋ยว กลับแห้งเหี่ยวเสียหายเป็นใหญ่หลวง
ไม่ตื่นดกยกยอคำล่อลวง กลัวโรยร่วงกลิ้งหล่นเป็นมลทิน ฯ
บัดเดี๋ยวนี้บ้านเมืองได้เคืองเข็ญ พากันเป็นตกอับเรื่องทรัพย์สิน
เราพวกหญิงนิ่งดูดายอายแผ่นดิน ช่วยจนสิ้นแรงเกิดกันเถิดเรา
ช่วยสิ่งใดไม่เหมือนออมถนอมจ่าย เงินแต่ฝ่ายจำเป็นไม่เช่นเผา
เป็นห่วงหลังระวังตัวไม่มัวเมา มิให้เค้าเงินไหลออกไกลเมือง
ช่วยปิดทางกางกั้นทุกวันไว้ เหมือนเราได้ผดุงชาติให้ปราชญ์เปรื่อง
เงินเหมือนแก้วแววสว่างทางรุ่งเรือง จนกระเตื้องสะดวกเพราะพวกเรา ฯ

แม่เรือนดี

จบ บทพจน์ร่ำโอ้ โลมสอน
แม่ ดรุณบังอร เอี่ยมอ้า
เรือน ทองก่องอาภรณ์ รองรับ โฉมนา
ดี ที่นุชรักหน้า ชื่อพร้อมถนอมเงิน

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ