สมุดไทย เล่ม ๒

๏ พระราชนิพนธ์เรื่อง หนุมานเกี้ยววานริน จนท้าวมาลีวราชมา } ๒ หา ๓ ๚๛

๏ วัน๑ + ๖ ค่ำจุลศักราช ๑๑๓๒ ปีขาลโทศก

พระราชนิพนธ์ทรงแต่ง ชั้นต้นเป็นประถมยัง ทราม พอดี } อยู่ ๚๛

ฝ่ายข้าก็เห็นสุดที ฉิเจ้าคนดีมุสา
อย่าโป้ปดคดคิดเจรจา ไม่สบายวิญญาอย่ายายี
ซึ่งข้าจะคืนยังสถาน ต่อพระอวตารรังสี
เธอปราบอรินไพรี ใช้ขุนกระบี่หนุมานมา
ติดตามอสุรผู้หนี ข้านี้ได้ร่วมเสน่หา
หนึ่งข้าได้แจ้งกิจจา ข้าจึงจะพ้นสาปไป
เจ้าอย่าล่อเลี้ยวลวงกัน ข้าคนสำคัญไม่ได้
ฝ่ายข้าเจ่าจุกทุกข์ใจ เซ้าซี้อยู่ไยไม่เข้ายา

ฯ ๑๔ คำ ฯ

ร่าย เจ้าเอยเจ้าพี่ มารศรีเสาวภาคย์อย่ากังขา
พี่คือทหารพระรามา พนิดาอย่าแหนงแคลงใจ
ทรงนามชื่อหนุมาน เป็นทหารห้าวแห้งผู้ใหญ่
ฝ่ายอสุรยกออกไป ชิงชัยต่อด้วยพระราชา
พระองค์ทรงยิงศรผลาญ สังหารมารหมู่ยักษา
ถูกวิรุญจำบังอสุรา ยักษาหลบหลีกหนีไป
จึ่งให้พี่มาติดตาม นางงามเจ้ารู้บ้างหฤๅไม่
มันไปแห่งหนตำบลใด บอกให้หน่อยเถิดนารี
อันซึ่งธุระของเจ้า ขวัญเข้าไว้เป็นธุระพี่
จะให้ได้ดั่งใจเทวี ก็เซ้าซี้ไปตามกิจจา

ฯ รอบก้อย ๑๐ คำ เจรจา ฯ

๏ เมื่อนั้น วานรินนารีศรีฟ้า
ได้ฟังถ้อยคำเจรจา นางฟ้าประชดประชันไป
ฉิตาทหารพระราเมศ ทรงเดชโชไชยเป็นใหญ่
อ้อนแอ้นเอวกลมวิไล ช่างจะไปตามมารอสุรา
แม้นยักษ์จะเด็ดทีเดียว คาเขี้ยวก็ไม่ได้อย่ามุสา
นี่เจ้าได้ยินใครเจรจา จึ่งว่าเป็นองค์หนุมาน
ข้าใคร่กล่าวแกล้งห้ามไว้ หมีให้เจ้าไปสังหาร
ฉิฉะเจ้าตัวหนุมาน ยังเห็นท่านเป็นประการใด
ยังมีเขี้ยวแก้วกุณฑล ขนเพชรมาลัยอยู่ไหน
เจ้ามีดาวเดือนอโณทัย อยู่ในโอษฐ์หฤาช่างเจรจา
ไฉนไม่เป็นวานร นี่คนซอกซอนอยู่ในป่า
ลวงเราไม่ได้ดั่งจินดา แกล้งว่าจะไปตามไพรี
อันวิรุญจำบังมาร ต้องศรอวตารเรืองศรี
ตัวเจ้าจะไปต่อตี ที่ทางเราได้สำคัญ
ว่าพลางทางเย้ยไปมา ฉิเจ้าฤทธาแข็งขัน
ยังได้สลักสำคัญ บั่นแบ่งให้แจ้งบัดนี้

ฯ ๑๖ คำ ฯ

ยี่กิน บัดนั้น จึ่งพญาหนุมานกระบี่ศรี
ชื่นชมโสมนัสเทวี มีสุนทรยกย่องบัญชา
ดูกรนางนิ่มน้อย ถ้อยคำเลิศลบเลขา
พี่ขอบใจเจ้าเยาวสุดา ไม่หลงรูปรสวาที
สมควรนวลเจ้าเป็นบาทบงสุ์ องค์อิศวรราชรังสี
สู้ตายไม่ให้ประเวณี ต่อที่คู่ควรจึ่งปรองดอง
เจ้านี้ยศยิ่งยอดกัลยา สาวสวรรค์ชั้นฟ้าไม่มีสอง
อย่าแคลงพี่จะให้แจ้งน้อง ขอต้องหนิดหนึ่งนารี
นี่แนเมื่อพบอสุรา ยังกรุณาบ้างหฤๅสาวศรี
หฤๅว่าเจ้ากลัวมันราวี จูบทีพี่จะแผลงฤทธา
ก็ผาดเผ่นโผนกลายกลับ โตคับคิรีถ้ำพระคูหา
เผือกผ่องพึงพิศเจษฎา อ้าโอษฐ์มีเดือนดาวตระวัน
ทรงกุณฑลขนเพชรมาลัย เขี้ยวแก้วอำไพเฉิดฉัน
ดุจดั่งไขศรีรวีวรรณ ก็จรจรัลโลมถามเทวี

ฯ คุกพาทย์ ๑๔ คำ ฯ

ยี่กิน ยอดเอยยอดมิ่ง ยังจริงหฤาไม่มารศรี
พี่จะติดตามต่ออสุรี จงชี้ท่าทางบอกไป
อันซึ่งธุระของเจ้า ขวัญเข้าไว้พี่แก้ไข
ต้องสาปเหตุผลกลใด จูบให้เร่งว่าเนื้อความมา

ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ

มโนหราโอด วานรินตรีดตราดพาที โปรดเกศีเถิดอย่าทำข้า
ไม่รู้ว่าองค์ศักดา ขอสมาโทษเถิดภูมี
ข้าเป็นข้าบาทเจ้าโลกา อิศราศวรราชรังสี
ชื่อวานรินนารี พระศุลีสาปข้าลงมา
รักษาอังกาศคีรี ที่สุวรรณถ้ำคูหา
เมื่อข้าอยู่กับเจ้าโลกา รักษาประทีปอัคคี
วันหนึ่งจึ่งเธอออกนั่ง ยังบัลลังก์รัศรังสี
สนทนาไญยธรรมอันมี กับนารอทฤๅษีมีญาณ
ข้าพูดกับเทวบุตรเล่น เธอไม่เห็นอยู่ราชฐาน
ประทีปก็ดับไปช้านาน ระแวงราชการต้องสาปมา
ว่าต่อท่านได้มาพบ สบสมรักร่วมเสน่หา
จึ่งให้คืนคุงมุลิกา ยังมหาไกรลาสคิรี
หนึ่งให้คอยบอกกิจการ วิรุญจำบังมารยักษี
แก่ท่านผู้มีฤทธี ข้านี้ก็จะพ้นสาปไป
บัดนี้วิรุญจำบังมาร ต้องศรอวตารเป็นใหญ่
มันหนีอยู่ริมสมุทรไท ทิศใต้ในฟองคงคา
ไปเถิดให้ได้ดังประสงค์ จงสำเร็จจำนงปรารถนา
ก็เป็นไรจึ่งไม่ไคลคลา มารวบรัดข้าว่าไร
ไหอะไรมาเซ้าซี้ หารู้ที่ยินดีด้วยไม่
อย่ามาจู้จี้น้ำใจ อายฤๅทัยอยู่ไม่ไยดี

ฯ ๒๐ คำ ฯ

ชาตรี ขวัญเอยขวัญตา กรุณาบ้างเถิดมารศรี
พี่จะติดตามต่อไพรี ปรานีเหมือนอวยไชยไป
ว่าพลางทางรวบรึงรัด เออนี่หยิกกัดเป็นไฉน
ดูแรงแข็งขืนหฤาไร ฟัดฟั้นกันไปเป็นโกลา

ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ

ร่าย วานรินตรีดตราดครื้นเครง เจ้าข้าเอ๋ยข่มเหงทำข้า
สาปไม่พ้นก็จะทนเวทนา ข้าหายอมไม่ภูมี
เออนี่ทำไมมารึงรัด สะบัดพลางทางว่าน่าบัดศรี
ไปเสียไปข้าไม่ประเวณี อย่าหยักเหยาเซ้าซี้กวนใจ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ มารศรีอย่าหม่นหมองไหม้
ถึงอยู่ไม่ชูอาลัย จงสำราญบานใจจะขอลา
ว่าพลางทางทำเป็นคลาไคล ทำไมมายุดชายผ้า
เช่นพี่หฤาจะมีเจตนา ฉุดผ้าข้าไยเทวี
ชาตรี กลับนั่งแนบน้องเจรจา กรุณาบ้างเถิดอย่าผินหนี
จะอยู่ก็ไม่ไยดี จะไปก็หมีให้ไคลคลา
ว่าพลางทางโอบอุ้มน้อง คืนเข้าถ้ำทองคูหา

ฯ เสมอ ฯ

โอ้โลม แสนสนิทพิศวาสตรึงตรา เสน่หาอัดอั้นพันทวี
ก็รัดรึงตระบึงร่วมรส ภุมรีจ้องจรดเกสรศรี
กลั้วเกลือกกลืบเกศสุมาลี ปรีดาผาสุกสนุกใจ

ฯ โลมปี่พาทย์ ๑๐ คำ ฯ

ช้า เมื่อนั้น วานรินนารีศรีใส
อยู่กับหนุมานชาญไชย หมีได้จะนิราศคลาดคลา
จึ่งแจ้งกิจการยุบล ซึ่งทนยากอยู่ในพระคูหา
นานเนิ่นเกินเจียรกาลมา ช้านานได้ถึงหมื่นปี
อันจะพ้นทนทุกข์เวทนา เพราะพระภัสดาโปรดเกศี
เมียจะไปไกรลาสคิรี ปรานีให้ได้ดั่งใจ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย เมื่อนั้น จึ่งพญาหนุมานทหารใหญ่
รับคำวรราชนางใน อย่าร้อนรนใจกัลยา
พี่จะติดตามต่อไพรี แล้วจะกลับมาที่พระคูหา
จึงจะส่งไปสวรรค์ชั้นฟ้า ก็เหาะมายังมหาสมุทรไท

ฯ เชิด ฯ

๏ ครั้นถึงจึ่งพิจณาฟอง ลอยฟ่องล่องตามน้ำไหล
แต่ฟองน้ำอันหนึ่งไสร้ โตใหญ่หลวงล้ำมหึมา
ไม่ลอยลงไปเหมือนทั้งปวง ท่วงทีจะเป็นยักษา
ก็ผาดโผนแผลงฤทธา เท่ามหาพรหมาเกรียงไกร
มีหางใหญ่ยาวเจษฎา กระหวัดฟองคงคาอันใหญ่
สองหัตถ์คลำพิจณาไป ที่ในมหาชลธาร

ฯ เชิด ๑๐ คำ ฯ

๏ ฝ่ายวิรุญจำบังตกใจ ก็รู้ว่าภัยมาตามผลาญ
จึ่งอ่านพระเวทวิชาการ บันดาลแทรกตัวออกมา

ฯ ตระ เชิด ฯ

๏ พ้นจากวงหางขุนกระบี่ อสุรีอายใจยักษา
ก็ผาดโผนแผลงฤทธา กลับเข้าเข่นฆ่าหนุมาน

ฯ เชิด ๔ คำ ฯ

๏ หนุมานเผ่นโผนโจนรับ จับกุมกันตามกำลังหาญ

ฯ เชิด ฯ

๏ วิรุญจำบังตีหนุมาน พลำทานหมีได้จมไป

ฯ เชิด ฯ

๏ หนุมานผุดขึ้นอ่านมนตร์ เข้าผจญชิงเอาตระบองได้
ตีวิรุญจำบังจมไป ผุดเมื่อไรซ้ำตีอสุรา

ฯ เชิด ฯ

๏ ฝ่ายวิรุญจำบังอ่านมนตร์ ประดาด้นไม่ขึ้นเข่นฆ่า
สมาธิสำรวมวิญญา อยู่ในมหานัที

ฯ ตระ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น จึ่งพญาหนุมานกระบี่ศรี
นิมิตหางโตใหญ่ยาวรี ล้อมรอบนัทีคงคา
เบื้องต่ำจดเพียงบาดาล โดยสูงตง่านพระเวหา
ค่อยกระหยับจะจับอสุรา ทำฤทธาอยู่ที่วารี

ฯ ตระ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น วิรุญจำบังยักษี
ซึ่งหลีกหลบอยู่ในนัที หมีรู้ที่หนีหนุมาน
ครั้นเห็นกระหยับหางเข้าทีใด ร่านร้อนฤๅทัยดังไฟผลาญ
พ้นที่จะต่อหนุมาน ก็ลนลานอยู่ในสมุทรไท

ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น จึ่งพญาหนุมานทหารใหญ่
กระหวัดหางรัดรวบเข้าไป ก็จับตัวได้อสุรี
ขึ้นฟัดกับพื้นพสุธา ยักษามอดม้วยเป็นผี

ฯ เชิด โอด ฯ

ตัดเอาศีรษะอสุรี ขุนกระบี่ก็พาเหาะมา

ฯ เตียว ฯ

๏ จึงตรงลงยังคิรี ที่สุวรรณถ้ำทองคูหา
จะโปรดวานรินกัลยา ทิ้งศีรษะไว้เข้าไป

ฯ เสมอ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น วานรินนารีศรีใส
แต่หนุมานคลาไคล นางในไม่เป็นสมฤๅดี
แสนวิโยคโศกสร้อยคอยหา กลัวว่าจะพ่ายแพ้ยักษี
เจ่าจุกทุกข์ใจเทวี แลไปเห็นศรีหนุมาน
วิ่งออกไปรับขุนกระบี่ มารศรีปรีดิ์เปรมเกษมศานต์
นำเข้าแท่นที่นงคราญ ก็เบิกบานอยู่ในคีรี

ฯ เพลง ๖ คำ ฯ

โลม เมื่อนั้น หนุมานผู้ชาญไชยศรี
แสนพิศวาสเทวี ยังที่แท่นอาสนไสยา
แล้วจึ่งปราศรัยนวลนาง ข้อซึ่งไปล้างยักษา
แพ้พี่ตัดเอาศีรษะมา ทิ้งไว้ปากมหาคิรี
บัดนี้สำเร็จการแล้ว จะลาน้องแก้วบทศรี
เอาเศียรไปถวายภูมี ยังที่สมรภูมิไชย
ว่าพลางก็ทางเชยชิด แสนสนิทแนบน้องพิสมัย
พี่จะส่งเจ้าไปสุลาลัย ก็อุ้มอรไทออกมา

ฯ เสมอ ฯ

๏ ครั้นถึงปากถ้ำโยนขึ้นไป ในพิดลอากาศเวหา
ม้วยมุดสุดสิ้นชีวา ไปมหาไกรลาสคิรี

ฯ ตระ ฯ

๏ ครั้นเสร็จกิจการนงเยาว์ จับเอาเศียรเกล้ายักษี
เหาะจากปากถ้ำคิรี ริบรี่มาสมรภูมิพลัน

ฯ เชิด ปฐม ๑๒ คำ ฯ

๏ ฝ่ายข้างพระรามเห็นกระบี่ ภูมีบอกแก่พลขันธ์
โน่นแนหนุมานจรจรัล ได้หัวกุมภัณฑ์เหาะมา
พวกพลกระบี่ดีใจ เอิกเกริกกันไปทั่วหน้า
หนุมานถึงจึ่งวันทา ถวายเศียรอสุราทันที

ฯ เชิด ฯ

๏ เดิมเมื่อได้ข่าวยักษา พบวานรในพนาศรี
บอกว่าอังกาศคีรี มีนางอัปสรกัญญา
ข้าจึ่งนิมิตบิดเบือน เหมือนมนุษย์หนุ่มน้อยเสน่หา
เข้าไปไถ่ถามกิจจา นางว่าต้องสาปพระศุลี
กลับสงสัยข้าที่แปลงกาย หยาบคายว่าชาวพนาศรี
ข้าเลียมลวงตอบคดี นารีแปลนคำออกมา
ว่าต่อได้บอกกิจการ พบพานร่วมรักกับข้า
จึงให้คืนคุงบาทมุลิกา ยังมหาไกรลาสคีรี
ข้าจึงผาดแผลงอานุภาพ นางกราบประณตบทศรี
บอกให้ไปตามอสุรี พบตัวต่อตีกันไปมา
มันตีข้าจมลงในน้ำ ข้าดำผุดขึ้นได้ตียักษา
ชิงได้ตระบองอสุรา ข้าก็ตียักษาจมไป
ครั้นผุดขึ้นมาข้าตีซ้ำ มันดำลงอยู่ต่ำใต้
ข้านิมิตหางโตเกรียงไกร จึ่งกระหวัดจับได้อสุรา
ตัดเอาศีรษะจรลี มาโปรดนางที่พระคูหา
แล้วจึงพาเอาศีรษะมา ถวายพระผ่านฟ้าบัดนี้

ฯ ๒๐ คำ ฯ

๏ บัดนั้น พระอวตารผู้ชาญไชยศรี
ปราศรัยไปแก่ขุนกระบี่ ที่ใช้ศรข่ายกั้นอสุรา
กูพิจณาดูรูปพึงหาย จึ่งหมายมุ่งว่าเองได้ยักษา
ก็พอแลไปเห็นหนุมานมา ดูราพิเภกอสุรี
แต่ให้หนุมานอาสา เข่นฆ่าต้านต่อยักษี
ล้วนมีชัยได้ท่วงที ควรที่เป็นอัคคเสนา
นี่แนพิเภกธิบดี อันเศียรอสุรียักษา
เพื่อนขลังอาคมวิทยา จะเอามาทำประการใด

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ ฝ่ายพญาพิเภกกราบทูล ซึ่งอิสูรต้องศรตักษัย
ย่อมได้ฟากฟ้าคาลัย ไปเป็นสุขทั่วอสุรี
บัดนี้วิรุญจำบังม้วย ด้วยมือหนุมานกระบี่ศรี
ข้าบาทเห็นไม่สู้ดี ขอให้ชูศีรษะไว้เมฆา
แล้วจึ่งทรงศรแผลงผลาญ สังหารให้ไปเป็นสุขา
จึงจะได้สวรรค์ชั้นฟ้า โปรดเกศาทำบัดนี้

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น พระอวตารผู้ชาญไชยศรี
สั่งให้เอาเศียรจรลี ทำตามพิเภกบัญชา
หนุมานก็พาเหาะไป ชูไว้อากาศเวหา
จึ่งแผลงศรกินเศียรอสุรา ยักษาสู่สวรรคาลัย

ฯ ตระ ๔ คำ ฯ

๏ แล้วตรัสแก่พลวานร อันนครหาพ้นมือไม่
ครั้นจะบุกรุกเอาเวียงไชย ผิดไปไม่ต้องประเวณี
จำเราจะเลิกทัพไชย กลับไปยังพลับพลาศรี
ฟังดูกำลังอสุรี ก็เลิกรี้พลกลับพลับพลา

ฯ ๔ คำ เชิด ฯ

๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงสารัณทูตยักษา
ซึ่งคอยเหตุเจ้ากรุงลงกา เห็นทัพยักษาอัปราชัย
พ่ายแพ้แก่องค์พระราเมศ เอาเหตุไปแจ้งแถลงไข

ฯ เชิด ปฐม ฯ

๏ ทูลแก่ท้าวทศกรรฐ์ไป ได้ทราบธุลีบาทา
บัดนี้ทัพท้าวสัทธาสูร ทั้งวิรุญจำบังยักษา
พ่ายแพ้แก่องค์รามา ยักษามอดม้วยบรรลัย
เสร็จสิ้นม้ารถคชพล ทั้งสกลพยู่หน้อยใหญ่
ตายกลาดเกลื่อนเต็มพนาลัย ท่านไทจงแจ้งธุลี

ฯ ๘ คำ ฯ

ร่าย เมื่อนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
ครั้นรู้ข่าวแพ้ไพรี มีกระมลเศร้าเปล่าใจ

ฯ ครวญ ฯ

๏ โอ้ว่าแต่แต่งไปอาสา จะมีชัยมาบ้างก็หาไม่
ล้วนย่อยยับอัปราชัย ไฉนจะชนะไพรี
เร่งร้อนรัญจวนป่วนใจ ดั่งไฟปลัยกัลปเจียวจี่
แสนวิโยคโศกสร้อยโศกี คิดถึงพงศ์พีร์ทั้งปวงไป
คือจะได้ใครมาต่อต้าน พญามารอัดอ้นหม่นไหม้
ทอดกายก่ายคิดคดีไป ระลึกได้ว่าองค์อัยกา
ยานี เธอเสด็จไปทรงศีลอยู่ ภูเขาศิวาลัยภูผา
โดยอิทธิฤทธิ์เดชา อานุภาพปราบเดชโชไชย
พระนามชื่อมาลีวราช พระบาทบพิตรเป็นใหญ่
ทรงสัจแม้นตรัสสิ่งใด ก็เป็นไปตามพระบัญชา
ดุจดั่งบรมพรหมเมศ ทุกนิเวศลิขิตเลขา
จารึกไว้หน้าศิลา ถ้าแม้นแช่งชักผู้ใด
ผู้นั้นก็เป็นดั่งวาจา จะคลาดคลาสักน้อยก็หาไม่
ควรกูจะให้ไปทูลไท มาในนครลงกา
แล้วจึงจะทูลกล่าวโทษ ให้กริ้วโกรธรามจงหนักหนา
อันลักษ์แลรามราชา น่าที่จะต้องแช่งตาย
ฝ่ายนางษีดาดวงจิต ก็จะสมความคิดกูมุ่งหมาย
ไพรีหมีม้วยอันตราย ไม่วายทุกข์ร้อนเคืองใจ
ร่าย คิดแล้วสั่งสุรเสนา ไปเชิญอัยกาผู้เป็นใหญ่
ซึ่งอยู่ยอดฟ้าศิวาลัย มาดับภัยพื้นพระสุธา
มึงคิดพิดทูลถ้าไถ่ถาม กล่าวโทษลักษ์รามให้หนักหนา
แก้ไขอย่าให้แคลงวิญญา สองเสนาไปบัดนี้

ฯ ๒๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น นนยุเวกวายุเวกยักษี
รับสั่งพลันพลางจรลี กรีธาทัพใช้พันหนึ่งไป

ฯ กราว ฯ

๏ มาเอยมาถึง ซึ่งนครยอดฟ้าสูงใหญ่
ก็เข้าไปหาเสนาใน แถลงไขตามราชกิจพลัน

ฯ ๔ คำ เจรจา ฯ

๏ เสนาจึ่งพาเข้าทูล ไอศูรย์บรมพงศ์สวรรค์
ก็พอไขศรีรวีวรรณ จรจรัลออกหน้าบัญชรไชย

ฯ เสมอ ๒ คำ ฯ

๏ เสนาจึ่งเบิกทูลแถลง แจ้งท้าวมาลีวราชเป็นใหญ่
นนยุเวกวายุเวกก็ทูลไป แถลงไขตามข้อคดี
บัดนี้ท่านท้าวทศพักตร์ อันเป็นหลานรักเรืองศรี
ผู้ผ่านสามโลกโมลี ซึ่งเป็นศรีราชนัดดา
ให้ข้ามาทูลพระบาท ด้วยพระญาติวงศ์พงศา
มีหมู่อริราชยกมา เข่นฆ่ามอดม้วยมากมาย
นามชื่อลักษ์รามราชา กับพลวานรทั้งหลาย
สังหารอสูรศักดิ์ยักษาตาย มากมายเป็นพ้นคณนา
ขอเชิญเสด็จไปปกเกล้า แก่เผ่าพันธุวงศ์พงศา
ยังกรุงนครลงกา เห็นว่าจะปลอดรอดภัย

ฯ ๑๐ คำ ฯ

ช้าปี่รับ เมื่อนั้น พระทรงธรรมธิราชเป็นใหญ่
สงสัยไถ่ถามเนื้อความไป เป็นไฉนสองสุรเสนี
อันองค์ท้าวทศพักตร์ หลานรักกูยิ่งยอดเรืองศรี
ถึงว่าเทวัญจันทรี ก็อัญชุลีอวยไชย
เป็นยอดมงกุฎเมืองมาร ห้าวหาญผ่านภพสูงใหญ่
ทั้งสิบสี่โลกสุลาลัย ย่อมกลัวฤทธิไกรมหึมา
ไม่มีผู้อาจองทะนงศักดิ์ มายำยีพญายักษา
สิ้นเสร็จเข็ดฤทธิ์อสุรา มึงว่ากูฉงนสนเท่ห์ใจ
ซึ่งว่าพระรามพระลักษ์ ศักดิ์แสงสุริวงศ์อยู่ไหน
เพื่อนผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด เร่งเร็วบอกไปอย่าช้า

ฯ ๑๐ คำ ฯ

ร่าย นนยุเวกวายุเวกทูลพลัน ซึ่งยกพลขันธ์มาเข่นฆ่า
ครอบครองกรุงศรีอยุทธยา อานุภาพปราบเดชโชไชย
เป็นหน่อของท้าวทศรถ ปรากฏฟากฟ้าดินไหว
หลานท้าวอัชบาลเรืองไชย เป็นใหญ่ยิ่งยศโมลี
เดิมพระยอดเมืองมารไปเล่นป่า พบนางษีดามารศรี
สิ่งซึ่งบริโภคไม่มี ปรานีเอามาลงกา
อยู่มาพระรามพระลักษ์ คุมกระบี่มีศักดิ์มาหนักหนา
ข่มเหงห้ำหั่นอสุรา จองถนนข้ามมาพระบุรี
ฆ่าพระญาติวงศ์พงศา โยธาอสุรายักษี
ตายกลาดเกลื่อนเต็มธรณี จงแจ้งธุลีท่านไท

ฯ ๑๐ คำ ฯ

ร่าย เมื่อนั้น พระกอปรกิจธรรมเป็นใหญ่
ครั้นจะแจ้งเหตุเภทภัย จึ่งแถลงไขสองเสนา
อันองค์อัชบาลเป็นสหาย เพื่อนตายรักใคร่กูหนักหนา
ร่วมชีพไว้วิญญา ซึ่งลักษ์รามากูไม่รู้
ด้วยพึ่งใหญ่ค่อยจำเริญวัย ทางไกลต่างคนต่างอยู่
ช้านานไม่ได้ไปดู สูริวงศ์ในกรุงอยุทธยา
ไฉนจึงมารุกราน กรุงมารเมืองหมู่ยักษา
หฤๅจะเกี่ยวข้องกันด้วยษีดา ว่ามาทั้งนี้กูเห็นจริง
อันนอกกว่านี้ไม่มีใคร จะทำฤทธิไกรสุงสิง
หลานรักกูศักดิ์แสงยวดยิ่ง กฤษฎาธิการมหึมา
เห็นแต่ท่านท้าวอัชบาล เป็นประธานสุริวงศ์นาถา
เธอเป็นสหายรักกูมา อนิจจานัดดามาผิดกัน
จำกูจะไปเกลี่ยไกล่ อย่าให้ขึ้งเคียดเดียดฉันท์
เป็นเพื่อนเผ่าพันธุมิตรกัน โดยธรรม์ทำเนียมมีมา
ร่าย ก็สั่งให้เตรียมสกลไกร กูจะไปห้ามสองเสน่หา
ให้สมัครสมานอัธยา อย่าช้ารีบรัดบัดนี้

ฯ ๑๖ คำ ฯ

ร่าย บัดนั้น จึ่งอำมาตย์มารยักษี
รับสั่งพลันพลางจรลี มาจัดรี้พลโยธา

ฯ แพละน้อย ฯ

ยานี กะเกณฑ์คนธรรพ์คันธรรพ กับอสุรศักดิ์ยักษา
ทั้งฤาษีสิทธิ์วิทยา กินนรปักษานาคี
อีกทั้งโขมดผีป่า เทพบุตรเทวาอึงมี่
แตรสังข์ดุริยางคดนตรี ให้คอยทีแห่แหนเสด็จไป
ครั้นเสร็จระเห็จเข้ามา ไคลคลาขึ้นทูลแถลงไข

ฯ เชิด ปฐม ฯ

ร่าย อันซึ่งพหลสกลไกร ได้พร้อมอยู่แล้วพระราชา

ฯ ๘ คำ ฯ

โทน เมื่อนั้น พระทรงจัตุศีลยักษา
จึ่งชำระสระสรงคงคา ทรงกาสาวพัสตร์รูจี
สอดสร้อยใส่ชฎาประดับเครื่อง เรื่อเรืองรุ่งรัศรังสี
เปล่งปลั่งดั่งดาวโรหิณี สี่กรรณจอนแก้วแพรวตา
ดั่งองค์อิศโรยโสธร บวรลิขิตเลขา
ผ่องผึ่งพึงพิศเจษฎา ธรากรสิกขาเพราพราย
กอปรกับสัจจเวทคาถา อลังการ์เป็นพระขรรค์ผันผาย
มาขึ้นรถแก้วแพร้วพราย คลี่คลายพลจากคีรี

ฯ ๘ คำ เพลง แล้วกราว ฯ

โทน รถเอยราชรถทรง สำหรับพงศ์เผ่าพรหมรังสี
เทียมด้วยเทพบุตรพาชี รัศมีวิจิตรเจษฎา
ดุจดั่งดวงอโณทัยตรัส แจ่มจัดสว่างเวหา
ระย้าระยับจับเมฆา อลังการ์รัศอัมพร
โดยญาณฤทธิสิทธิเดช ทุกนิเวศสาธุการอยู่สลอน
ก็เคลื่อนไชยรถบทจร จามรจรบังบังตระวัน
กลิ้งกลดกลดกลิ้งพริ้งพราย อภิรุมชุมสายผายผัน
บังแสงแสงศรีรวีวรรณ ผาดผันเลื่อนลอยลีลา

ฯ ๘ คำ กลองโยน ฯ

ยานี มาพลางทางคิดถวิล จินตนาการตามอุเบกขา
ครั้นกูจะเข้าไปลงกา พระรามารู้จะน้อยใจ
ครั้นกูจะไปหารามลักษ์ ฝ่ายพญาทศพักตร์จะว่าได้
ควรกูอยู่ท่ามกลางไสร้ อย่าให้ข้างใครนินทา
คิดพลางทางสั่งหมู่มาร ท่านอย่าเข้าไปเมืองยักษา
ยับยั้งยังนอกพารา ก็มาหยุดสมรภูมิไชย

ฯ บาทสกุณี ฯ

ร่าย จึ่งสั่งสองสูรขุนมาร ผู้ซึ่งจำทูลสารไข
มึงเร่งเอากิจจาไป แถลงไขเจ้ากรุงลงกา
๏ นนยุเวกวายุเวกรับสั่ง บังคมกราบคนละสามถ่า
ทูลลาระเห็จเตร็จมา พากันเข้าแจ้งคดี

ฯ เชิด ปฐม ฯ

๏ บัดนี้สมเด็จพระอัยกา ไม่เข้ามาในกรุงศรี
อยู่นอกนครธานี ตรงที่สมรภูมิไชย
เดิมเมื่อไปทูลเธอไถ่ถาม ตรัสเรื่องราวความแถลงไข
บอกว่าลักษ์รามสองไท ได้เป็นหลานพระสหายมา
พระองค์จะตรัสเกลี่ยไกล่ หมีให้ขึ้งเคียดเข่นฆ่า
ว่าเป็นพงศ์พันธุมิตรมา ให้ข้าบาทเชิญจรลี

ฯ ๑๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
ชื่นชมโสมนัสยินดี สองเสนีไว้กูเจรจา
เอ็งเร่งบุษบกพิมาน กับพลทวยหาญซ้ายขวา
อีกทั้งธูปเทียนบูชา กูจะไปวันทาบัดนี้

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ นนยุเวกวายุเวกสั่งพลัน เร่งรัดพลขันธ์ไชยศรี

ฯ เชิด เจรจา ฯ

๏ บ้างจัดบุษบกมณี ตระเตรียมอัคคีมาลัย
เสร็จพร้อมธูปเทียนบริบูรณ์ เข้าทูลบังคมแถลงไข

ฯ เชิดฯ

๏ อันซึ่งจะเสด็จคลาไคล ได้พร้อมอยู่แล้วราชา

ฯ ๔ คำ ฯ

ร่าย เมื่อนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษา
จึงชำระสระสรงคงคา ยักษาสำอางอาภรณ์
ทรงมงกุฎสังวาลเสร็จสรรพ จับสะพักสะพายแล่งแสงศร
ถือธูปเทียนบุษบากร ก็จรจะไปบูชา

ฯ เพลง ฯ

๏ ขึ้นยังบุษบกพิมาน เหาะระเห็จทะยานพระเวหา
๏ ฝ่ายหมู่แสนสูรเสนา แห่ห้อมล้อมท้าวยักษาไป

ฯ กราว ๖ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงจึ่งหยุดบุษบก ยกสองพระกรก้มกราบไหว้
เคียงข้างรถแก้วแววไว เบื้องซ้ายท้าวไทอัยกา
จึงจุดธูปเทียนตามถวาย บ่ายพักตร์อภิวันท์หรรษา
โปรยปรายดอกไม้บูชา โศกาอัดอั้นพันทวี

ฯ โอด ฯ

ครวญ พระจอมเกศแก้วกระหม่อมเอ๋ย ไม่เคยอับปางบทศรี
แต่พระบาทเบื้องต่ำใต้ธุลี ก็มีผู้ยำเยงเกรงใจ
ไม่มีผู้มาทำแค้น หาดูหมิ่นถิ่นแคลนได้ไม่
เดชะพระเดชปกเกศไป ก็เย็นในสุริวงศ์พรหมา
บัดนี้พระรามพระลักษ์ โหมหักฆ่าญาติวงศา
อาจอุกรุกร้นรานมา จะเกรงอัยกาบ้างก็ไม่มี
ถึงกะไรก็จะเห็นแก่พระองค์ ซึ่งเป็นพงศ์พรหมเรืองศรี
ยังเสด็จอยู่ยอดคีรี นี่มาทำได้ทำไป

ฯ ครวญ ฯ

๏ อันพระญาติวงศ์ตายสิ้นแล้ว ยังแต่หลานแก้วจะตักษัย
จึ่งให้ไปเชิญท่านไท เพื่อจะได้ถวายบังคมลา
ทูลพลางทางทรงโศกี ยักษีสอดใส่แสร้งว่า
ทำสะอึกสะอื้นไห้ไปมา โศกาอัดอั้นพันทวี

ฯ ๑๖ คำ โอด ฯ

ช้า เมื่อนั้น พระทรงทศธรรมรังสี
สงสัยในพจวาที มีนโมในนิ่งจินดา
ดีร้ายการจะก่อเกิดเคืองแค้น จึ่งจะแสนสาหัสกันเข่นฆ่า
แม้นดีหฤาจะมีภัยมา ปรีชาฉงนสนเท่ห์ใจ
แม้นมั่นมันทำเขาก่อน เขาจึ่งราญรอนม้วยไหม้
หฤๅจริงสิ่งซึ่งมันว่าไป ท้าวไทกลับนึกตรึกตรา
ครั้นกูจะปราศรัยต่อ หน่อทศรถจะกังขา
ครั้นกูจะไม่เจรจา หมีรู้ว่าเป็นประการใด
ร่าย คิดแล้วจึ่งร้องประกาศ เทวราชเรืองฤทธิน้อยใหญ่
มาเป็นพยานกันไว้ เราจักไถ่ถามข้อคดี

ฯ ๑๐ คำ ฯ

ยานี มาจะกล่าวบทไป ถึงไทเทพทั่วราศี
ผู้ทรงมหิทธิฤทธี เรืองศรีทิพโสตรู้ไป
คือองค์ท้าวมาลีวราช พระบาทบพิตรเป็นใหญ่
เสด็จอยู่สมรภูมิไชย จะไถ่ถามความกุมภัณฑ์
กับด้วยพระลักษ์พระราเมศ เทพเจ้าเรืองเดชผายผัน

ฯ เพลง ฯ

๏ ก็ชวนกันเข้าคมคัล อัญชุลีท้าวมาลี

ฯ โคมเวียน ๖ คำ ฯ

ช้า เมื่อนั้น พระผู้พงศ์ผ่านภพรังสี
ปราศรัยไปแก่อสุรี ซึ่งเป็นศรีราชนัดดา
ตัวเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ จบสกลโลกทิศา
เจ้าผิดกับลักษ์รามา สาเหตุอย่างไรอย่าได้พราง
อันซึ่งกิจการรบสู้ กูนี้จะขอทั้งสองข้าง
เขาหลานสหายปู่ผู้กลาง ข้างเจ้าก็เป็นนัดดา
ไม่ควรทำร้ายแก่กัน เป็นพันธุมิตรดีกว่า
คือใครก่อกรรมอหังการ์ กูจะหามาว่าบัดนี้

ฯ ๘ คำ ฯ

ร่าย บัดนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
พิดทูลเคลือบแฝงคดี เดิมทีไปเล่นพนาวา
ข้าไล่มหิงส์กะทิงไพร พบนางคนหนึ่งในป่า
ต่างต่างช่วงชิงกันไปมา ยักษาจะกินเทวี
พอข้าขอทันถามไถ่ นางว่าเกิดในพนาศรี
พ่อแม่ลูกผัวไม่มี นารีชื่อว่าษีดา
ปรานีเอามาไว้ในสวน ไม่ควรร่วมรสเสน่หา
นานเนิ่นเกินเจียรกาลมา ใครใครไม่ว่าผัวนารี
แต่องค์พระลักษ์พระราเมศ ซึ่งไม่เกรงเดชฆ่าพงศ์ยักษี
ม้วยมุดสุดสิ้นชีวี จึ่งพาทีว่าเป็นผัวษีดา
ครั้นข้าจะส่งษีดาเล่า ด้วยพระญาติวงศ์เจ้าดับสังขาร์
เห็นไม่กลับคืนเป็นมา ข้าจึงหมีส่งนางไป
ถ้าว่ากันก่อนโดยดี เป็นทางไมตรีจะส่งให้
นี่มาข่มเหงไม่เกรงใจ จะส่งไปกลัวขายพระบาทา
แม้นไม่มีชัยอัปรยศ จะปรากฏอายบาทไปเมื่อหน้า
ขออย่าให้ขายบาทา กรุณาข้าใต้ธุลี

ฯ ๑๖ คำ ฯ

ช้า เมื่อนั้น พระทรงธรรม์ธิราชรังสี
สอดส่องดูคำอสุรี ผิดที่ไม่เคยพบเห็นมา
หฤๅว่าผู้อื่นลักนาง ฝ่ายผัวตามล้างเข่นฆ่า
พอพบพญาอสุรา กลัวฤทธาทิ้งนารี
ฝ่ายผัวเหลือบเห็นไม่ทันถาม วู่วามเข้าชิงชัยศรี
หมายใจว่าอ้ายไพรี ต่างต่างจึ่งมีอหังการ์
ก็ผิดทีนี่หน่อทศรถ ปรากฏสุริวงศ์นาถา
หมีใช่เข็ญใจไพร่ฟ้า จะมาเป็นดั่งนี้ก็ผิดไป
หฤๅเมียนอกใจอ้ายนี่ชู้ ต่อสู้เจ้าผัวเขาไม่ได้
สุดฤทธิ์ที่จะคิดชิงชัย เพื่อจะให้กูแช่งกระมังนา
ดีร้ายจะเป็นฉะนี้ ท่วงทีจึ่งเคลือบริษยา
ครั้นกูจะตอบต่อเจรจา มันจะว่าแกล้งกล่าวซักความ
จำกูจะเงือดงดไว้ จึ่งจะค่อยซักไซ้ไถ่ถาม
ควรกูจะให้ไปหาราม มาสอบถามห้ามผิดกัน
ร่าย คิดแล้วจึงมีพจนารถ ประกาศแก่เทวาสรวงสวรรค์
แล้วว่าไปแก่กุมภัณฑ์ อันเป็นศรีราชนัดดา
ซึ่งข้อคดีของเจ้า จำจะให้หาเขาผู้เข่นฆ่า
มาสมัครสมานอัธยา ว่ากล่าวกันตามประเวณี
ก็สั่งอำมาตย์มึงไปหา เทวบุตรษณุกรรม์เรืองศรี
ฉับไวให้มาบัดนี้ ยังที่สมรภูมิพลัน

ฯ ๒๐ คำ ฯ

๏ คนธรรพ์ก็รับสั่งลา ไปดาวดึงษาสวรรค์

ฯ เชิด ฯ

๏ เข้าหาพระวิษณุกรรม์ ฉับพลันมาไปอย่าช้า

ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ

๏ ฝ่ายพระวิษณุกรรม์แจ้งเหตุ ก็มาจากนิเวศดึงษา

ฯ เหาะ ฯ

จึ่งชวนกันเข้าวันทา สองราประนมดุษฎี

ฯ ๒ คำ ฯ

ร่าย เมื่อนั้น ท้าวมาลีวราชยักษี
จึงสั่งให้เทวจรลี ไปบอกคดีสองไท
อันอัชบาลอัยกา ร่วมวิญญากูพิสมัย
สหายกูปู่รามเรืองไชย จงแจ้งไขแก่สองรา
ครั้นเราจะให้คนธรรพ์ไป เกลือกสองภูวไนยจะกังขา
ด้วยรามลักษ์ไม่รู้จักกูมา พาทีอย่าให้แคลงใจ
บัดนี้นัดดากับนัดดา เข่นฆ่ากันเท่าไหนไหน
ตัวกูนี้พึ่งรู้ไป ฉับไวให้มาบัดนี้

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ ฝ่ายเทวะรับสั่งลา เหาะมายังพลับพลาศรี

ฯ เชิด ฯ

๏ ถึงจึงแถลงเสนี กระบี่พาแจ้งกิจจา
บัดนี้ท่านท้าวมาลีวราช พระบาทสิทธิศักดิ์หนักหนา
เธอเป็นสหายพระอัยกา ให้ข้ามาเชิญเสด็จไป
จะไถ่ถามห้ามความรบสู้ พระเจ้าปู่ว่าหาอื่นไกลไม่
เหตุนี้พึ่งทราบธุลีไป จึ่งให้มาแจ้งราชา
ฝ่ายข้างพญาทศพักตร์ กล่าวโทษพระองค์หนักหนา
พระอัยกาไม่เชื่อวาจา จึ่งให้มาเชิญจรลี

ฯ ๘ คำ เจรจา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระอวตารผู้ชาญไชยศรี
จึ่งบัญชาชอบวาที ให้กระบี่ปฤกษาทุกตัวนาย
ผู้ใดยังได้รู้เห็น อัยกากูเป็นสหาย
กับท้าวมาลีวราชเพริศพราย บรรยายให้แจ้งบัดนี้

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น พระยาชามภูวราชกระบี่ศรี
ก้มเกล้าเคารพสามที ขุนกระบี่จึงทูลเนื้อความไป
อันองค์ท้าวมาลีวราช พระบาทบพิตรเป็นใหญ่
กับพระอัยการักร่วมใจ ไกลนานเนิ่นนักพระราชา
แต่ชันษาข้าพึ่งวัย พอจำความได้น้อยนักหนา
จนได้เป็นบาทมุลิกา อายุข้าถึงกัลปปลาย
แม่นมั่นอันองค์พระอัยกา กับท้าวยักษาเป็นสหาย
ตัวข้าจะขอบรรยาย เล่าถวายให้แจ้งกิจการ
ว่ายังมีพรหมผู้หนึ่ง จึ่งเธอทำเพียรห้าวหาญ
อตส่าห์เฝ้าพระสยมภูญาณ จะใคร่เป็นประธานโลกา
จึงกราบทูลขอพระพร ให้ถาวรยิ่งพรหมทุกทิศา
กับคทาเพชรมหึมา จะป้องกันรักษาไพรี
ฝ่ายองค์อิศวรบรมญาณ ประทานทั้งพระพรไชยศรี
ครั้งนั้นคือท้าวมาลี มีมโนในนึกเมตตา
ทูลพระอิศวรบรมนาถ ว่าพระบาทอัชบาลนาถา
ผ่านแผ่นพื้นภพอยุทธยา สามัญพึ่งพาทั่วไป
สุจริตทศพิธราชธรรม์ พงศ์พันธุ์นารายณ์เป็นใหญ่
ทุกนิเวศเขตขัณฑ์พึ่งไท เกลือกพรหมจะไปราวี
น่าที่จะสิ้นสูญพรตกรรม์ สามัญจะร้อนดั่งเพลิงจี่
จะขัดสนจนทั้งมุนี โปรดเกศีอย่าให้สูญไป
พระศุลีฟังมาลีวัคพรหม พระสยมภูวญาณก็สงสัย
จึงประทานพระขรรค์เพชรเรืองไชย ให้ท้าวมาลีเอามา
ถวายแก่ท้าวอัชบาล แล้วประทานพระพรหนักหนา
ให้ชนะแก่บรมพรหมา คทาเพชรจงพ่ายแพ้พระขรรค์ไชย
ท้าวมาลีรับเอาพระขรรค์แก้ว แล้วเชิญพระพรลงมาให้
แต่ท้าวอัชบาลเรืองไชย จึ่งรักใคร่เป็นสหายกันมา
ไม่มีที่เป็นอุบาย พระองค์อย่าหมางหมายกังขา
ขอเชิญเสด็จไคลคลา ไปหาจึงจะชอบทางธรรม์

ฯ ๒๘ คำ เจรจา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระเผ่าพงศ์นารายณ์ไอศวรรย์
จึ่งสั่งให้ตรวจเตรียมกัน กูจะไปคมคัลพระอัยกา

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ สุครีพรับสั่งไปพลัน ตระเตรียมพลขันธ์อาสา

ฯ เชิด ปฐม ฯ

๏ กำชับกันเป็นโกลา จัดแจงมหารถไชย
นี่แนนิลนนท์หนุมาน องคตชมภูพานทหารใหญ่
หมวดกองกะเกณฑ์จงเกือบไป อย่าไว้ใจอรินไพรี
เกลือกเป็นอุบายถ่ายเท เล่ห์กลแห่งมารยักษี
จงจัดสรรกันแต่ตัวดี ประคองเคียงข้างภูมีไป

ฯ เจรจา ฯ

๏ ครั้นเอยครั้นเสร็จ ระเห็จเข้ามาแถลงไข

ฯ แพละน้อย ฯ

๏ อันซึ่งพหลสกลไกร ได้พร้อมอยู่แล้วราชา

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า
จึ่งชวนพระศรีอนุขา ลีลาลงสรงวารี
ทรงภูษาทาธรสประดับเครื่อง เรื่อเรืองรุ่งรัศรังสี
สององค์ทรงลักษณ์รูจี ต่างสีเหลืองนิลวัตถาพราย
เลิศแล้วแล้วเก้ามงกุฎเก็จ เพชรระยับทับทรวงเฉิดฉาย
ตาบติดสังวาลเลื่อมลาย กระจายจอนกรรเจียกเพราตา
พาหุรัดธำมรงค์ชายแครง ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา
ทรงศิลปศรชวนอนุชา ไคลคลาขึ้นรถจรลี

ฯ เพลง ๘ คำ ฯ

โทน รถเอยราชรถอินทร์ เฉิดฉินฉ้อพรรณรังสี
สลับเลือกล้วนดวงจินดาดี รัศมีสว่างเมฆา
ดุจดั่งอโณทัยไตรตรัส แจ่มจัดแสงนิลวัตถา
ระย้าระย้อยลอยเลื่อนฟ้า อนุชานั่งหน้ารถไป

ฯ กลองโยน รุกรัน ฯ

ร่าย ครั้นถึงจึงหยุดรถแก้ว แล้วอ่อนโอนองค์ลงไหว้
ให้พระมาตุลีขับเข้าไป เคียงข้างขวาไทอัยกา
ยอกรปัญจางค์สุจริต ประดิษฐานเหนือเกศเกศา
เคารพอภิวันท์ปรีดา อยู่ในมหารถไชย

ฯ ๔ คำ ฯ

ช้า เมื่อนั้น พระกอปรกิจธรรมเป็นใหญ่
ครั้นเห็นลักษ์รามเรืองไชย ท้าวไทเพ่งพิจรณา
องค์อัคคอ้อนแอ้นทั้งสอง ผ่องแผ้วผิวนิลวัตถา
เรืองรุทรสุดเลิศลักขณา เหมือนมหาอัชบาลสหายกู
จึงเอื้อนอรรถโองการปราศรัย เหตุใดเวียงไชยเจ้าไม่อยู่
มาเที่ยวไพรไยทั้งคู่ เกิดรบสู้กันด้วยอันใด

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ ๒ หา ๓ ๏

๏ วัน ๑ + ๑๒ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๔๒ ปีชวดโทศก ข้าพระพุทธิเจ้านายสังอาลักษณชุบเส้นทอง

๏ ข้าพระพุทธิเจ้า ขุนสรประเสริด ขุนมหาสิท } ทาน ๓ ครั้ง ๚๛

  1. ๑. ต้นฉบับว่า “สุจริตทศมิตราชธรร”

  2. ๒. ต้นฉบับว่า “ภูษาทาธะรสประดับเครื่อง” ธะรส น่าจะตัดศัพท์จาก สุคนธรส

  3. ๓. หมดเนื้อความพระราชนิพนธ์สมุดไทย เล่ม ๒

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ