โคลงสุภาษิต

โคลงสุภาษิตประจำภาพ

ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

๑ หน้าเนื้อใจเสือ

๏ หน้า เนตรสมชื่อแม้ มฤคี
เนื้อ นุ่มนวลดูดี แต่หน้า
ใจ พาลเก่งโกงมี จิตต์ดั่ง
เสือ ดุดันกลั่นกล้า โกรธร้ายอย่าสมาน ฯ

๒ หน้าไหว้หลังหลอก

๏ น่า กลัวหัวหยิกย้อน ยอกกล
ไหว้ นบสบเศียรซน ซ่อนเค้า
หลัง ลับกลับยกตน โตป่อง ปึ่งแฮ
หลอก เล่ห์ลิงหลอกเจ้า เลิดล้ำหลายขบวน ฯ

๓ น้ำกลอกใบบัว

๏ คนกลมดั่งน้ำกลอก ใบบัว
ชำนิชำนาญตัว กลั่นกลิ้ง
ใครเสวนะพัว พันผูก
มันจักเพโททิ้ง โทษร้ายถึงเรา ฯ

๔ มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก

๏ คนพาลพูดพล่ำลิ้น ลมไหว
เพ้อพจน์สบถไถล หลอกล้น
มะกอกสามตะกร้าไป ปาเปล่า
บ่ถูกสักผลพัน เล่ห์ลิ้นลมพาล ฯ

๕ กะลาครอบหัว

๏ เสือกเศียรสัญจรเข้า เคียงคน
หัวร่อริกพลิกตน พูดจ้อ
กะลาครอบหัวซน เสือกแทรก กลางเฮย
โหลกเลื่อมแลบลิ้นล้อ เลิดล้ำลิงถุง ฯ

๖ ไม้หลักปักมูลควาย

๏ คำคนใดไพล่พล้ำ พลาดหลาย
ไม้หลักปักมูลควาย เปรียบอ้าง
ผู้ใหญ่พูดกลับกลาย โอนอ่อน เอนเอย
คนมักฉินชังบ้าง เกลียดสิ้นทวยชน ฯ

๗ แปดเหลี่ยมแปดคม

๏ ขี้ช่อหมอถ้อยต่อ แหลเหลือ
ลักฉกชาวบกเรือ ซุ่มส้อง
แปดคมแปดเหลี่ยมเถือ เอาทุก ด้านเฮย
ชนชนิดเช่นนี้ต้อง เก็บเข้าคุกขัง ฯ

๘ เหยียบเรือสองแคม

๏ เหยียบเรือสองกราบเค้า คนคด
จุนโจทก์จำเลยลด ต่ำแต้ม
บอกกลอุบายปด ปองแต่ ทรัพย์เฮย
สองฝ่ายหลงแยบแย้ม อย่างนี้บาปเหลือ ฯ

๙ เสี้ยมหัวควายให้ชนกัน

๏ แสนชั่วยั่วแหย่เย้า ยุคน
สอนนี่เสี้ยมโน่นชน แส่ได้
สองฝ่ายไม่ทราบขวน ขวายทเลาะ กันแฮ
เฉกเสี้ยมเขาควายให้ ขวิดไส้พุงพัง ฯ

๑๐ เหล็กแข็งดัดได้

๏ เหล็กก้อนตีมีดได้ โดยปอง
สัตว์บกสัตว์น้ำฟอง ฝึกได้
คนซื่ออ่อนตามคลอง คำปราชญ์ ง่ายนา
พาลชาติแข็งขืนให้ อ่อนสิ้นสุดแรง ฯ

๑๑ ไม้คดดัดได้

๏ ไม้คดควรดัดได้ โดยปอง
เหล็กนากชินเงินทอง ทุบได้
เดียรฉานชาติลำพอง เพียรดัด ซื่อเฮย
คนคดขืนดัดให้ ซื่อสิ้นสุดเพียร ฯ

๑๒ แม่น้ำคดแจวพายตามได้

๏ แม่น้ำคดลดเลี้ยว เล่ห์หลาย
แจวถ่อเรือพายผาย ผ่านได้
น้ำจิตต์คดขวนขวาย ผันผ่อน ยากนา
ปราชญ์สุดโปรดแค่นไค้ คดเคี้ยวคนพาล ฯ

๑๓ ไม้โกงดัดได้

๏ คนโกงโกงยิ่งไม้ โกงกาง
โกงกิ่งแก่นถากถาง ดัดได้
โกงคนคิดคดขวาง ดัดยาก
เห็นว่าโกงอย่าใกล้ หลบให้ไกลโกง ฯ

๑๔ อย่าคบคนพาล

๏ คนบิดกิจเกียจคร้าน การงาน
ยังสั่งสอนจับการ ถูกถ้า
ชาติพาลบิดเกลียวสมาน มองจับ ยากเฮย
ทราบว่าปิดอย่าค้า คบเข้าส่วนทุน ฯ

๑๕ ข้างนอกสุกใสข้างในสกปรก

๏ นกยางข้างนอกล้ำ เลิดขาว
แต่เสพสัตว์เป็นคาว ขื่นร้าย
เฉกพาลนอกนั้นราว กะกระดาษ
ในจิตต์ลามกบ้าย บาปเปื้อนเป็นหนอง ฯ

๑๖ อย่าประมาทเสือหิว

๏ เสือหิวนอนนั่งแห้ง เห็นโครง
ดูถูกมันมักโขยง คาบเคี้ยว
พาลเฉลียวฉลาดโกง กลเลศ เสมอนา
อย่าประมาทมันเลี้ยว แล่เนื้อเถือหนัง ฯ

๑๗ ให้เหยื่อเสือผอม

๏ ให้ กรรมกรแซะไซ้ แสวงหา
เหยื่อ ศพสัตว์สรรมา มากถ้วน
เสือ เสพไป่อิ่มอา หารเหตุ หิวแฮ
ผอม ดั่งพาลผอมอ้วน อาจคั้นคนขุน ฯ

๑๘ สอนลิงขึ้นต้นไม้

๏ ฝึกหัดพานรให้ ปีนพฤกษ์
เห็นว่าช่วยการฦก เล่ห์นี้
สอนโจรลอบลักฝึก หัดเชี่ยว ชาญเฮย
สอนเปล่าบ่อต้องกี้ กอบเกื้อการงาน ฯ

๑๙ สอนจรเข้ว่ายน้ำ

๏ สั่งสอนสัตว์จรเข้ คงคา
ให้แหวกวนเวียนวา ริชหว้าย
เปรียบปราชญ์สั่งสอนสา นุศิษย์ พาลแฮ
มันเก่งโกงยิ่งย้าย อย่าเยื้องยักสอน ฯ

๒๐ ชี้โพรงให้กะรอก

๏ ชี้ ช่องทางหว่างต้น พฤกษา
โพรง ดั่งรูคูหา ใช่น้อย
ให้ สำนักเดียรฉาน์ ชาติโฉด เขลาเฮย
กะรอก ดั่งคนหมอถ้อย โทษร้ายอย่าขยาย ฯ

๒๑ อย่าเลี้ยงลูกเสือ

๏ ชนโฉดบ่ได้ตรึก ตรองการ
เลี้ยงลูกเสือสามานย์ มุ่งร้าย
เล่ห์เลี้ยงบุตรอันธพาล พาชั่ว ให้นา
ความผิดมันมักบ้าย ถูกต้องตนเสมอ ฯ

๒๒ อย่าเลี้ยงลูกจรเข้

๏ คนเขลาบ่อได้นึก กาลนาน
เลี้ยงลูกจรเข้หาญ ฮึกร้าย
เล่ห์เลี้ยงลูกอันธพาล พาผิด ให้นา
เอาแต่ความร้ายบ้าย บวกเปื้อนเหม็นเสมอ ฯ

๒๓ ยื่นแก้วให้ลิง

๏ ส่งเครื่องประดับให้ วานร
ฤๅจักอาจอาภรณ์ ผูกใช้
อย่าควรส่งสังวร โอวาท
ให้พวกพาลบอดใบ้ ไป่รู้รักษา ฯ

๒๔ เห็นลูกปัดดีกว่าเพ็ชร

๏ ผลปัดชูเชิดไว้ เหนือหัว
ผลเพ็ชร์เท่าผลบัว บ่เอื้อ
ควรกลัวบ่อคิดกลัว ดีกลับ ร้ายแฮ
เห็นผิดเป็นชอบเกื้อ ก่อข้างขาดทุน ฯ

๒๕ ทิ้งแก้วลงน้ำ

๏ อันธพาลคลั่งเคลิ้ม เขลากมล
เอารัตนอำพล ผ่องเนื้อ
ทิ้งลงนทีชล โฉดชั่ว จริงนา
เห็นชั่วเป็นดีเกื้อ ก่อข้างฉิบหาย ฯ

๒๖ ตั้งม้าใส่บาตร

๏ ผู้ดีตั้งม้าใส่ บาตรสงฆ์
โดยจิตต์คิดตรงปลง ปลดเปลื้อง
ฤๅโดยเจตน์จำนง หวังอวดเขานา
สองแยบสองอย่างเยื้อง ยากรู้ใจจริง ฯ

๒๗ นักปราชญ์ตกเบ็ด

๏ เทียมปราชญ์ใช่ปราชญ์แปล้ ปลงธรรม
ยามค่ำตกเบ็ดงำ เงื่อนส้อน
กลางวันชักปคำพำ พึมบ่น มนต์เฮย
หวังจะกลบหลบข้อน แคะไค้คำฉิน ฯ

๒๘ แมลงเม่าเข้าไฟ

๏ แมลง ค่อมมอมมืดหน้า นึกไฉน
เม่า หมิ่นยินร้ายไฟ รุ่งฟ้า
เข้า เปลวลวกประลัย ลาญชีพ เปล่าเฮย
ไฟ ดังบาปกรรมกล้า ลวกผู้พาลเขลา ฯ

๒๙ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

๏ เห็นกงจักรดุจด้าง ดอกบัว
ขอทัดเทิดทูนหัว ส่งให้
เสวยทุกข์ทราบสึกตัว เต็มปลด เปลื้องเฮย
ผลพิบากแสดงได้ เดือดร้อนรำคาญ ฯ

๓๐ นอนหลับทับดาบ

๏ นอน แนบแอบมิตรร้าย ราวคม ดาบเฮย
หลับ ลเลิงหลงชม ชื่นเคล้า
ทับ ยียั่วอารมณ์ เริงร่วม สนิทนา
ดาบ ดั่งมิตรพลิกเข้า ประทุษฐร้ายจึ่งเห็น ฯ

๓๑ ปลาผุดหย่อนเบ็ด

๏ เห็นปลาดื่นชื่นด้วย ประสงค์
ปลาผุดเบ็ดหย่อนตรง โผล่ผล้ำ
ปลาตื่นเหยื่อยกปลง เบ็ดเปล่า
เล่ห์โลภหาลาภล้ำ หลุดแล้วลงเหลว ฯ

๓๒ หัวล้านพลอยตาย

๏ คนซื่อถือเชื่อถ้อย คำพาล
พลอยพินาศฦๅนาม น่าเก้อ
เฉกล้านสี่คนหาญ เข้าช่วย เถรแฮ
ตายเพราะไป่ตรึกเน้อ เยี่ยงนี้จงระวัง ฯ

๓๓ เรือล่มเมื่อจอด

๏ เรือ เทียบถึงท่าแล้ว และมา
ล่ม ละลายโภคา ชวดใช้
เมื่อ หนุ่มเท่าถึงชรา แสวงสิ่ง ใดเฮย
จอด จ่อจวนเจียนได้ สิ่งนั้นศูนย์เสีย ฯ

๓๔ ขี้ข้านอนเตียง

๏ คนจนจิตต์เกียจคร้าน คราวงาน
เอาแต่โอ้อาการ คี่ข้า
ยลเตียงใหญ่หมอนขวาน เอนอาตม์ นอนแฮ
หันกลับหัวเห็นถ้า โง่แท้นอนเตียง ฯ

๓๕ ขี้ข้านุ่งปูม

๏ คนขี้ข้านุ่งผ้า ปูมป๋อ
นุ่งไม่ทันน่วมหนอ แลกเหล้า
เปรียบข้าที่นายยอ ยกยศ ให้แฮ
ดั้งปึ่งปานเป็นเจ้า จัดจ้าจองหอง ฯ

๓๖ ขี้ข้าเห็นแก่กิน

๏ สัญชาติทาสคี่ข้า คนทมิฬ
เชื้อเช่นเห็นแก่กิน กับเข้า
ยืนนอนนั่งกลางดิน เดินดื่ม ได้เฮย
ดีชั่วอย่าหยอกเย้า หยาบช้าชาติสถุล ฯ

๓๗ ถ่มน้ำลายรดฟ้า

๏ ถ่มน้ำลายรดฟ้า ฟูนฝอย
ฟ้าบ่ถูกกลับถอย ถูกเกล้า
เหมือนคนเลิดคุณลอย โลกเลื่อง ฦๅเฮย
ใครประทุษฐท่านเท้า โทษต้องตนเอง ฯ

๓๘ เด็กเดาะอิฐเล่น

๏ เด็กเดาะอิฐเล่นใกล้ หญิงชาย
มักกระเด็นโดนดาย โดดกลิ้ง
ถูกศอถูกเศียรกาย ผู้ใหญ่ โกรธนา
จำอย่าหลงเล่นทิ้ง อิฐนั้นก่อความ ฯ

๓๙ เต่าใหญ่ไข่กลบ

๏ เต่าใหญ่ไข่กลบให้ หายรอย
หวังบ่เห็นฟองฝอย เฟื่องเท้า
ผู้ใหญ่ซ่อนกลคอย ระวังโทษ ตนแฮ
กลบเกลื่อนโทษค่ำเช้า เพื่อให้หายแผล ฯ

๔๐ แย่งก้างกันกิน

๏ แย่ง เงินทองทั่วแท้ นาสวน
ก้าง ทุกสิ่งสรรพ์กวน ก่อร้าย
กัน เองพี่น้องชวน โกรธแย่ง ก้างเฮย
กิน แย่งกันยุ่งย้าย เพราะก้างกามคุณ ฯ

๔๑ ลิงล่างค่างบน

๏ ลิงค่างเปรียบเล่ห์ผู้ พาลชล
ลิงล่างเล่ห์ยศตน ต่ำใต้
ค่างขึ้นอยู่บนกล ยศศักดิ์ สูงนา
บนล่างบ่กลายดีได้ ชั่วชี้บอกเสมอ ฯ

๔๒ ทองบางตะพาน

๏ อริยปราชญ์เปรื่องเชี่ยว ปรีชา
ไป่เลือกสกุลเกิดปรา กฎเกื้อ
หนุนคุณทั่วทิศา สรรพสัตว์ สุขเฮย
เพราะพระทานทองเชื้อ ชาติแท้ธรรมคุณ ฯ

๔๓ ทองเนื้อนพคุณ

๏ ทองนพคุณเลิดล้ำ ฦๅสถาน
กำเนิดบ่อบางตพาน ผ่องเนื้อ
ทองธรรมชาติสาสน์สาร สรรเพ็ชญ์ พระนา
พิเศษผุดผ่องเชื้อ เช่นเนื้อนพคุณ ฯ

๔๔ บัวเกิดในตม

๏ บุษบงก่อเกิดเปื้อน เปือกตม
ดอกล่วงเลนงามชม ชื่นหน้า
เปรี่ยบปราชญ์เกิดเปือกปม เป็นมนุษย์
เลิดล่วงมนุษย์สุดฟ้า ทั่วหล้าสรรเสริญ ฯ

๔๕ ซ้างเผือกเกิดป่า

๏ สารเศวตอุบัติด้าว แดนสถาน
มาสู่โพธิสมภาร เสด็จได้
เปรียบปราชญ์ปรีชาญาณ เกิดอยู่ ไหนนา
มาสู่สมบรมไท้ ช่วยเอื้อนอรรถธรรม ฯ

๔๖ ทำนาพึ่งน้ำ

๏ ทำนาต้องพึ่งน้ำ ฝนนอง
ไถหว่านผลพูนกอง เกี่ยวได้
เปรียบปราชญ์ฉลาดปอง การกิจ ตนนา
ต้องหว่านพืชผลให้ ชุ่มน้ำใจชน ฯ

๔๗ แร้งเสพสัตว์ตาย

๏ แร้งรูปเร่อร่าร้าย รุกรุย
เสพสัตว์ตายกายฉุย เฉียดคลุ้ง
เปรียบปราชญ์รูปปุกปุย ภายนอก หมองนา
แต่จิตต์ภายในฟุ้ง เฟื่องสร้างทางกุศล ฯ

๔๘ ขนุนหนามเนื้อเหลือง

๏ ผลขนุนหนามนอกเนื้อ ในเหลือง
ช่างอ่อนหวานยวงเปลือง เปล่งห้อง
เปรียบปราชญ์ไม่รุ่งเรือง นอกครุ คระนา
ในจิตต์อ่อนหวานพร้อง เพราะพร้อมงามเหลือ ฯ

๔๙ ต่อไม้ให้ยาว

๏ ทำการกิจคิดด้วย ปรีชา
เห็นว่าสั้นปัญญา ยากใช้
เติมต่อติดคิดหา ความใส่ สวยเฮย
เฉกเช่นชนต่อไม้ ยืดได้โดยกาล ฯ

๕๐ ย่างช้างทั้งตัว

๏ พึงเพียรหมั่นก่อเกื้อ การงาน
ทุกสิ่งสารพัดการ อย่าค้าง
คงรวยพักหนึ่งนาน นอนสุข
เอาอย่างชนย่างช้าง สุกช้ากินยืน ฯ

๕๑ เอาน้ำลูบท้อง

๏ ทำการอย่าอิดเอื้อน อารมณ์
หมั่นเถิดนานท่านชม ชื่นหน้า
อุตส่าห์เพิ่มเติมนิยม ยามยาก ก่อนแฮ
น้ำลูบท้องไม่ช้า ชอบแล้วอิ่มหลาย ฯ

๕๒ ฝนทั่งเป็นเข็ม

๏ ฝนทั่งเหล็กเหลี่ยมป้าน เป็นเข็ม
สำเร็จตามนึกเต็ม แต่ใช้
การงานสิ่งใดเล็ม และล่วง เปลืองนา
สบสิ่งสรรพใดได้ เสร็จด้วยพากเพียร ฯ

๕๓ สีไฟให้ติด

๏ สีไฟไม่ติดแล้ว อย่าหยุด
อุตส่าห์สีอุตลุด เช่นข้อ
ไฟคงติดปุยจุด สมจิตต์
ถ้าละเพียรจิตต์ท้อ ชวดได้ตามประสงค์ ฯ

๕๔ จับให้มั่น

๏ จับสิ่งใดให้มั่น คงความ
อย่าปล่อยปละละตาม แต่ได้
ถึงตายอย่าผละผลาม พลิกไพร่
จึงจะมีชัยใช้ ชอบไม้มือเหนียว ฯ

๕๕ คั้นให้ตาย

๏ บีบสิ่งใดบีบคั้น จนตาย
อย่าปล่อยปละละหมาย ไม่พลั้ง
มันจะพลิกแพลงหงาย บิดขบ
แม้ไม่มั่นคงตั้ง คิดร้ายปลายมือ ฯ

๕๖ เหยียบเต่าสองตีน

๏ ยกย่างเหยียบเต่าตั้ง เต็มสอง บาทแฮ
เต่าไม่อาจดิกกระดอง โดดได้
ความลับสิ่งใดตรอง ตรวจถนัด แน่แฮ
ยึดที่ยืนยันไว้ มั่นแล้วเลิดคุณ ฯ

๕๗ หลนปลาร้าต้องมีครู

๏ สรรพวิชชาช่างใช้ การงาน
ถามก่อนทำชำนาญ ทุกถ้า
อย่าทำนิ่งนิ่งการ งานมัก เสียพ่อ
ดูแต่หลนปลาร้า แรกต้องมีครู ฯ

๕๘ ผู้ดีแปดสาแหรก

๏ ผู้ดีแปดแสรกเส้น สืบสาย
คือชนกชนนีหมาย คู่อ้าง
สูงศักดิ์บ่เสื่อมคลาย ขาดคลาด กันนา
แปดชั่วสาวสืบสร้าง ห่อนสิ้นศูนย์วงศ์ ฯ

๕๙ ไม้ร่มนกจับ

๏ พฤกษไพรใบงอกเงื้อม งำแสง
นกย่อมมาแอบแฝง พุ่มไม้
เฉกชนรุ่งเรืองแรง บุญก่อน หนุนนา
ชนจึ่งมาให้ใช้ เพราะเชื้อบุญสนอง ฯ

๖๐ ฟังหูไว้หู

๏ ความสิ่งใดเล่าล้น เหลือครู
ควรตริตรองชั่งชู เที่ยงแท้
ฟังหูหนึ่งไว้หู หนึ่งชอบ
หูไม่เบาความแม้ แม่นแล้วเลิดคุณ ฯ

๖๑ นอนสูงให้นอนคว่ำ

๏ นอนสูงสุดภาคพื้น พึงแปร
ผินพักตร์คว่ำลงแล แหล่งหล้า
เผื่อพบสิ่งใดแด ดูถนัด เนตรเฮย
ผันผ่อนได้ทุกถ้า เที่ยงแท้ทางผล ฯ

๖๒ นอนต่ำให้นอนหงาย

๏ ดลแดนใดค่ำค้าง คืนหมาย
นอนต่ำให้นอนหงาย พักตรไว้
เผื่อสรรพสัตว์หลาย หลากแล่น มาฤๅ
ว่าร้ายดีจักได้ ดับร้อนผ่อนเกษม ฯ

๖๓ เข้าป่าอย่าเสียเหมือง

๏ คนดีควรยิ้มอย่า คิดเคือง
ไปป่าอย่าเสียเหมือง มาบน้ำ
ยามอยากอาบกินเนือง นิจนั่ง สบายแฮ
เฉกชอบชนดีล้ำ เลิดข้างขาดแคลน ฯ

๖๔ เข้าเมืองอย่าเสียขุน

๏ อย่าคิดโหดโดดดื้อ ถือบุญ
เห็นท่าทางมีคุณ คิดให้
มาเมืองอย่าเสียขุน นาหมื่น พันพ่อ
ของนอบน้อมถวายไว้ ท่านได้ดูดี ฯ

๖๕ หนามยอกเอาหนามบ่ง

๏ เสี้ยนยอกมือและเท้า ทุกข์ทน
หนามบ่งเอาออกจน หมดได้
ทัพศึกรบพุ่งพล เราเพียบ แล้วพ่อ
ขอทัพเมืองใหญ่ให้ ต่อสู้ศึกศูนย์ ฯ

๖๖ อย่าดมดอกหญ้า

๏ อย่าดมดอกหญ้ายั่ว ยามจน
ดอกต่ำชาติชักชน ชั่วแท้
เป็นไทยคบทาสทน ทุกข์เท่า กันนา
ดอกใช่ดอกไม้แม้ เสพย์เศร้าเสียสี ฯ

๖๗ ไฟเท่าหิ่งห้อย

๏ เชื้อเพลิงเท่าหิ่งห้อย จำรูญ
ไหม้ทุกสิ่งเผาศูนย์ ป่นปี้
เอกชนพรั่งไพรบูลย์ บุญอย่า หมิ่นแฮ
แม้นหมิ่นไหม้ชั่วนี้ ชั่วหน้านานเหลือ ฯ

๖๘ เอามือจี้ไฟ

๏ รู้ว่าเพลิงรุ่งเร้า เปลวฮือ
อย่าพ่ออย่าเอามือ จับจี้
ทราบชัดท่านระบือ เรืองเดช
ควรอย่าพะพ้องกี้ เกี่ยวข้องขัดขืน ฯ

๖๙ อย่าหมิ่นคนเล็ก

๏ สงวนตัวอย่าห้าว หาญหลง
หมิ่นท่านเล็กเลิดพงศ์ เพศฟ้า
พิษเพียงวิศมวงศ์ นาคราช เล็กนา
เล็กแต่ตัวพิษกล้า ตอดแล้วตายเร็ว ฯ

๗๐ อย่าลูบคมดาบ

๏ อย่าละเลิงลูบไล้ เล่นคม
ดาบจะบาดเจ็บระบม บอบช้ำ
ผู้ใหญ่ยศคารม แสดงสิ่ง ใดนา
อย่าลบถ้อยเถียงย้ำ ยั่วเย้าเกิดความ ฯ

๗๑ อย่าไขว่หน้าช้าง

๏ รู้ว่าช้างดุร้าย เมามัน
อย่าไขว่หน้าฉานพลัน แตกร้าว
เทียบท่านโกรธใครครัน เร่งครั่น คร้ามนา
เร่งหลบหลีกก่อนกร้าว โกรธกริ้วอย่าขวาง ฯ

๗๒ อวดแรงแข่งช้าง

๏ อย่าอวดแรงแข่งช้าง คชสาร
งวงทุ่มงาแทงปราณ ปราศแท้
เฉกยกฉัตรภูมิบาล เถลิงราช สิรินา
อย่าแข่งขืนขัดแม้ พลาดม้วยมลายวาย ฯ

๗๓ อย่าฮึกสู้เสือ

๏ อย่าทนงนึกฮึกสู้ เสือทมิฬ
มันจักกัดกายกิน เมื่อพลั้ง
ขันสู้กับภูมินทร หมายชนะ ฤๅพ่อ
สู้ท่านยศยิ่งยั้ง ยักย้ายฉิบหาย ฯ

๗๔ ควายขวิดอย่าขวาง

๏ ควายขวิดกันอย่าห้าม ขวางกลาง
ตนจักเจ็บปวดวาง ชีพม้วย
เพียงพาลด่าถากถาง ชกต่อย กันเฮย
ใครแทรกกลางขวางด้วย ดุจได้อาดูร ฯ

๗๕ ชักซุงตามขวาง

๏ ชัก ขอนสักกึ่งต้น ตามขวาง
ซุง ใหญ่ยาวโยระยาง ยากคล้อย
ตาม ใจยากลากกลาง ขอนขัด ขวางเฮย
ขวาง ดั่งชักขวางถ้อย ท่านผู้ศักดิ์สูง ฯ

๗๖ ไม้ซีกคัดไม้ซุง

๏ ไม้ ไผ่เขาผ่าปล้อง เกรียกเป็น
ซีก อ่อนบางเบาเห็น ชอบได้
คัด ขอนใหญ่ไม่กระเด็น ดันป่น ปี้นา
ซุง เปรียบผู้ใหญ่ใคร้ คัดค้านแหลกเหลว ฯ

๗๗ อย่าเดินนอกทาง

๏ อย่า ขวนขวายป่ายเท้า ทรมาน
เดิน เที่ยวหลงทางกาล เนิ่นช้า
นอก จากอริยสถาน แล้วผิด
ทาง ใช่ทางแปดถ้า ค่ามแล้วไหลหลง ฯ

๗๘ ไม้ง่ามสอยมะเขือ

๏ อุตริเอาไม้ง่าม สอยมะเขือ
คนคดคิดบิดเถือ กิ่งเปลี้ย
ขั้วเหนียวเหนี่ยวง่ามเหลือ ลำกิ่ง หักแฮ
ดังว่าความศาลเตี้ย ตัดต้องโทษอุทธรณ์ ฯ

๗๙ ขว้างมะม่วงบนยอด

๏ อย่าเอาไม้เท้าคว่าง เวหน
หมายถูกมะม่วงผล ห่อนได้
คนเขลากล่าวฉินคน ฉลาดพ่าย แพ้ฤๅ
เขลาอย่าฮึกหาญให้ เหนื่อยแพ้แรงเพียร ฯ

๘๐ เคี้ยวอ้อต่างอ้อย

๏ อย่าหลงเคี้ยวขบอ้อ เอาชาน
อ้อสดรสฤๅหวาน ดุจอ้อย
เปรียบโอวาทของพาล พาผิด ให้แฮ
ถ้าเสพย์ใส่ใจถ้อย โทษแท้พลันเห็น ฯ

๘๑ อย่าเชื่อเครื่องราง

๏ อย่าทนงจิตต์คิดดื้อ ถือดี
ประจบเป็นเพื่อนมี สุขให้
อย่าเชื่อเครื่องรางที พลาดยับ เทียวพ่อ
ผิดชอบกอบคุณไว้ พึ่งครั้งคราวเซ ฯ

๘๒ เห็นเขาขี่คานหามเอามือรัดก้น

๏ หันเห็นเขาขึ้นขี่ คานหาม
มือประสานก้นตาม ไต่เต้า
อย่าพ่ออย่าเพ่อลาม ลวนเขย่ง
เขาจักหัวเยาะเย้า ว่าบ้ายศเผยอ ฯ

๘๓ เตี้ยยกตนเอง

๏ สกุลตนต่ำทั้ง ทรพล
แต่หยิ่งอยากสูงยล หยาบช้า
บอกบ้ายศยกตน โตปึ่ง
คนจักเกลียดทั่วหน้า ไป่ซ้องสรรเสริญ ฯ

๘๔ คนเตี้ยเขย่งเท้า

๏ ตนต่ำยศศักดิ์ทั้ง กุลวงศ์
ไม่คิดเจียมตนหลง เขย่งเท้า
เดินเทียมท่านสูงพงศ์ ภูมไม่ ควรพ่อ
อย่าไฝ่สูงเขาจะเย้า ยั่วแย้มยิ้มหยัน ฯ

๘๕ เป่าหอยโข่งต่างสังข์

๏ สังข์เป่าไป่รู้รูป สีสังข์
เป่าแต่หอยโข่งดัง ตู่ตุ้ย
ของจริงบ่รู้จัง จำเพาะ จริงนา
เอาแต่ของเทียบทุ้ย เทิดอ้างแทนจริง ฯ

๘๖ เป่าสากต่างปี่

๏ เป่าสากต่างปี่แก้ว ควรฤๅ
เป่าเท่าใดไป่ฦๅ ไป่ก้อง
สิ่งใดไม่ดีถือ ทิษฐิว่า ดีนา
เที่ยวยกธงป่าวร้อง เงียบสิ้นสรรเสริญ ฯ

๘๗ ตีฆ้องปากแตก

๏ คนไรไร้ลาภสิ้น เสื่อมยศ
ญาติมิตรไม่มีหมด พวกพ้อง
อุตส่าห์เที่ยวกล่าวพจน์ พยุงช่วย ตนแฮ
เปรียบดั่งคนเคาะฆ้อง ปากร้าวฤๅดัง ฯ

๘๘ กระต่ายหมายจันทร์

๏ กระต่ายหมายมุ่งได้ ดวงเดือน
ตัวต่ำสกุลเหมือน ไพร่น้อย
อย่าคิดคู่สูงเฟือน สุดฝั่ง แสวงนา
อย่าไฝ่สูงจักได้ ดักเดี้ยเสียตน ฯ

๘๙ ฟันหักกัดอ้อย

๏ ดูชนทนต์หักเหี้ยน เห็นขัน
ใยจึ่งยักยียัน กัดอ้อย
ดูดบ่ดื่มรสอัน เอมโอช
แก่บ่เจียมตัวน้อย หนึ่งโอ้อายคน ฯ

๙๐ นุ่งเจียมห่มเจียม

๏ ตัวจนคนไป่น้อม นับนาม
เจียมนุ่งเจียมห่มงาม แง่หน้า
อย่ายืมบ่าวเขาตาม ตัวยาก จนนา
เขาจักกล่าวขวัญช้า ชั่วต้องติฉิน ฯ

๙๑ หูหนวกอยากฟัง

๏ สองโสตหนวกนึกหน้า อดสู
ยังอยากฟังขันคู คู่ร้อง
สำเนียงไปเ่หือดหู หูไป่ ยินแฮ
ควรจักนิ่งอย่าพร้อง พร่ำโอ้อายคน ฯ

๙๒ ยืมผ้าผู้ดี

๏ คิดคิดสมเพชหน้า บัดศรี
ยืมหยิบผ้าผู้ดี ชื่อใช้
แสนแกนสุดอับปรีย์ ใครเปรียบ เขาฤๅ
แท้ว่าคนด้านได้ แต่ดื้อดูฉงน ฯ

๙๓ กิ้งก่าได้ทอง

๏ กิ้ง ก่าเฉิดหน้าเถ่อ ทำหัว
ก่า ดกดุจถวายตัว แด่ไท้
ได้ ทองผูกคอมัว เมาปึ่ง ขึงเฮย
ทอง เทียบยศยกให้ เผ่าผู้หลู่คุณ ฯ

๙๔ จอดเรือใต้ต้นไม้

๏ อย่าจอดเรือที่ใต้ พฤกษา
จักโค่นทับนาวา ล่มอู้
เปรียบปลูกซึ่งเคหา เทียมท่าน ใหญ่เฮย
บุตรบ่าวท่านมากผู้ เพ่งแกล้งฉิบหาย ฯ

๙๕ กลิ้งครกขึ้นเขา

๏ คนต่ำยศศักดิ์ทั้ง กุลวงศ์
หมายมุ่งเอาอนงค์ นาฏล้ำ
เหมือนกลิ้งครกขึ้นตรง เขาสุด สูงนา
เห็นว่าป่วยการก้ำ กึ่งบ้าเบาหุน ฯ

๙๖ บรรทุกเกวียนหนัก

๏ บรรทุกเกวียนหนักแล้ว มักหัก
ใจอย่าทำเกินศักดิ์ จักแปล้
ฉวยว่าพลาดชนจัก เยาะยั่ว ได้นา
ทำแต่พอควรแม้ เหมาะได้ดีเหลือ ฯ

๙๗ ประทุกสำเภาเพียบ

๏ ประทุกสำเภาเพียบล้น มักจม
ควรคิดแต่งตัวสม ศักดิ์ผู้
ผิพลาดอับชนชม บ่ยั่ว เยาะนา
แม้ว่าทำเกินกู้ ยากครั้งคราวโครม ฯ

๙๘ จรเข้คับคลอง

๏ จรเข้ยาวใหญ่ค้ำ ขอบคลอง
คับจิตต์คิดลำพอง ไม่น้อย
ลูกศิษย์อวดดีลอง หลบหลู่ ครูแฮ
บุตรต่อสู้บิดาด้อย อย่าได้สมาคม ฯ

๙๙ จอดเรือขวางคลอง

๏ จอดเรืออย่าผูกให้ ขวางคลอง
เขาจักโดนป่นปอง กล่าวร้าย
สิ่งไรเร่งปรองดอง ดูผ่อน กันนา
เห็นไม่ยืนยอมย้าย ยักเยื้องอย่าขวาง ฯ

๑๐๐ ทลุกลางปล้อง

๏ กำลังท่านสนทนะถ้อย คำถาม
คำพูดสิ่งใดตาม แต่พร้อง
เลือกความอื่นแทรกความ กลางเรื่อง
เหมือนทลุกลางปล้อง ไผ่ไม้ไป่ควร ฯ

๑๐๑ ฉุดหางช้าง

๏ อย่ายึดหางช้างเมื่อ แล่นจี๋
รั้งบ่รอแรงทวี โทษแท้
เหมือนเมียยึดสามี มัวชื่น ชู้เฮย
อย่ายึดเขาอับแอ้ อ่อนแล้วกลับเอง ฯ

๑๐๒ บังความชอบบ่าว

๏ บังความชอบบ่าวไว้ หนอนาย
ความชอบบ่าวมีหลาย ปิดไว้
ชอบอวดว่าตัวขวาย ขวนนี่ นั่นนา
บ่ยกเสนอสนองให้ บ่าวบ้างบ่ควร ฯ

๑๐๓ ชี้ช่องให้คนจร

๏ คนจรดีชั่วให้ สงสัย
ทราบว่ามาแต่ไกล แปลกหน้า
อย่าชี้ช่องคลาไคล โดยคล่อง
โคกระบือช้างม้า มักม้วยมันขะโมย ฯ

๑๐๔ เลี้ยงหมาใต้ถุน

๏ เลี้ยงคนใดไป่รู้ สนองคุณ
มีแต่ปองผลาญทุน ทรัพย์เปลื้อง
เลี้ยงสุนัขใต้ถุน ดีกว่า
เหตุว่าเห่าโจรเยื้อง ขยาดยั้งยังดี ฯ

๑๐๕ ค้ากระด้งบุงเฌอ

๏ นายโลภลาภนึกหน้า หลังเสมอ
ค้าแต่ด้งบุงเฌอ ช่อใช้
ไถ้เข้าตากลากเหยอ แย่งบ่าว เอานา
นายเช่นนี้อย่าได้ อยู่ด้วยฉิบหาย ฯ

๑๐๖ คนล้มอย่าข้าม

๏ คน คราวเซซวดเย้ ยันพาย
ล้ม ระเนนนอนหงาย แผ่หล้า
อย่า มองมุ่งเหมาหมาย ลุกไม่ ขึ้นเฮย
ข้าม หมิ่นประมาทหน้า ท่าขึ้นคงมี ฯ

๑๐๗ ไม้ล้มจึงข้าม

๏ ไม้ล้มนอนแน่ข้าม ควรการ
ถึงจะไต่ต่างตพาน พึ่งได้
คนล้มลับบริวาร ยศศักดิ์ เสื่อมเฮย
แม้หมิ่นข้ามเหมือนไม้ เช่นนั้นไป่ควร ฯ

๑๐๘ ฉุดช้างชนกัน

๏ คนสันดานดัดดื้อ ดูขัน
ช้างต่อช้างดันกัน แย่งไว้
ช้างคูบ่รู้มัน ดันหมด
เห็นตลอดไปได้ มั่นแล้วควรดัน ฯ

๑๐๙ คบคนจร

๏ คนจรผ่อนคบให้ ความสุข
เขาจักกอบโกยทุกข์ ทุ่มให้
อย่าควรคิดความสนุก เนาร่วม เรือนนา
เร่งประหยัดระมัดได้ ดั่งนี้เป็นคุณ ฯ

๑๑๐ หนุนหมอนหมิ่น

๏ คนนอนหมอนหมิ่นโอ้ อาดูร
จักพลาดจักแพลงพูน ทุกข์ให้
คิดการแต่หมิ่นมูล มักพลาด
ควรคิดสุขุมได้ มั่นไม้มือดี ฯ

๑๑๑ วัวไม่กินหญ้าอย่าข่มเขา

๏ พฤกษภหน่ายภักษ์ร้าง แรมรส หญ้าแฮ
ไฉนข่มเขากัดกด กอดป้อน
ผู้ฟังไป่รับพจน์ โอวาท
สอนสั่งหวังโอบอ้อม อกโอ้เปล่าศูนย์ ฯ

๑๑๒ งัดปลวกเพิ่มเขา

๏ ส่อเสียดเอาทรัพย์ผู้ ทรพล
มาเผื่อเจือแจกคน ครึกครื้น
บมิควรจะขวายขวน จนเพิ่ม รวยแฮ
ดินปลวกเพิ่มผาพื้น มักแพ้ภัยตัว ฯ

๑๑๓ ไข่กระทบหิน

๏ เอาคนอ่อนศึกสู้ สงคราม
อีกอ่อนปัญญาความ มักแพ้
เหมือนเอาไข่ไปปาม กระทบ หินเฮย
เปลือกไข่บางบู้แท้ ป่นปี้ไปเอง ฯ

๑๑๔ เอาเป็ดขันประชันไก่

๏ จนไก่เอาเป็ดเข้า ขันเขิน
เข้าขัดความหวังเพลิน จิตต์ไว้
เฉกชนฉลาดเจริญ รับไป่ ทันแฮ
ได้แต่คนขัดให้ สวดร้องฤๅดี ฯ

๑๑๕ จุดไต้โดนตอ

๏ ชูไต้เดาะดุ่มเต้า โดนตอ
เจียนเข่าแข้งขาคอ หักข้น
คนพล่ำพูดสอพลอ แพลงสดุด
เจอพูดจนโดนต้น ไป่รู้สึกตน ฯ

๑๑๖ โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ

๏ การโค่นกล้วยอย่าไว้ หน่อแนม
มักจักเสือกแทรกแซม สืบเหง้า
โค่นพาลพวกโกงแกม กุดโคตร มันแฮ
จึ่งจักศูนย์เสื่อมเค้า เงื่อนเสี้ยนศัตรู ฯ

๑๑๗ ปล่อยเสือเข้าป่า

๏ ปลดปล่อยเสือเข้าป่า เดิมดง
เห็นป่าคนองพองพง เที่ยงแท้
อย่าหมายว่าไม่ทนง คงคิด ร้ายแฮ
ปล่อยศัตรูหมู่แพ้ เพ่งเพี้ยงปล่อยเสือ ฯ

๑๑๘ ปล่อยปลาลงน้ำ

๏ ปลดปลาลงปล่อยน้ำ ปลาดี
ใจมุ่งว่ายวนหนี แหวกน้ำ
ปล่อยข้าศึกฉลาดดี ฝีปาก ไปแฮ
อยู่ที่ใหญ่ยศล้ำ เลิดแล้วลืมคุณ ฯ

๑๑๙ ขังหมาในกลอง

๏ คนจับอรินราชได้ ดูเบา
หลงใส่ตรุทุเลา ลูบไล้
อรินทรพลิกเพลา กลับไพล่ ผลาญแฮ
เปรียบสุนัขกักไว้ ที่ท้องกลองหนัง ฯ

๑๒๐ เอาหนังรองหมา

๏ อย่าเอาสุนัขขึ้นนั่ง นอนหนัง
จักกดกัดกินหวัง อิ่มไว้
ตั้งคนโลภเซซัง ส่งส่วย ทรัพย์ฤๅ
กรอบบ่เว้นช่อใช้ ชุ่ยเชื้อฉิบหาย ฯ

๑๒๑ ใช้มีดต่างขวาน

๏ อย่าเอามีดผ่าไม้ เหมือนขวาน
กั่นจะหักคมราญ บิ่นบู้
ใช้คนขลาดแทนหาญ การกิจ เสียนา
ใช้อย่าผิดพึงรู้ อ่อนกล้าฉลาดเขลา ฯ

๑๒๒ หักด้ามพร้าด้วยหัวเข่า

๏ อย่าคัดด้ามพร้ากาจ แข็งกัง
ด้วยเข่าขาประนัง เหนี่ยวเน้น
ฤๅจักอ่อนโดยหวัง วงวาด ไว้นา
ความที่แข็งอย่าเค้น หักข้อขืนความ ฯ

๑๒๓ ตีน้ำหน้าไซ

๏ กระทุ่มน้ำที่หน้า ลอบไซ
ปลากระจายเลยไป ลอบแห้ง
เจ้าของดักเสียใจ จักขาด เจียวพ่อ
ลาภท่านหาอย่าแกล้ง กล่าวกั้นกางขวาง ฯ

๑๒๔ เกี่ยวแฝกมุงป่า

๏ เกี่ยว หญ้าคากกทั้ง แขมพง
แฝก กนากลากเลอหลง แบกบ้า
มุง ร่มที่ในดง กว้างใหญ่ นักแฮ
ป่า เปรียบคนคิดค้า ทรัพย์น้อยแต่งสำเภา ฯ

๑๒๕ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

๏ ตำพริกขยิกขยี้ ฝีมือ
พริกป่นคนคิดถือ ครกได้
ละลายลงทะเลฤๅ รสจัก เผ็ดนา
ดั่งคนใจกว้างให้ ทรัพย์น้อยละลายศูนย์ ฯ

๑๒๖ ฝากไข่ไก่ไว้แก่กา

๏ ฝากฟองเป็ดไก่ไว้ แก่กา
แต่บ่ฝากยังมา ฉกผ้าย
ทราบชัดว่าชนพา ลจิตต์ โจรพ่อ
อย่าเหลิ่นเล่อใจง่าย ฝากเข้าของสงวน ฯ

๑๒๗ ฝากปลาไว้แก่แมว

๏ ฝากมัตสยาไว้แก่ วิฬาร์
ฤๅงดเว้นมัจฉา ชื่นไซ้
ลูกเมียเพื่อนผัวพา ลนัก เลงเฮย
อย่ามักง่ายฝากให้ ปกป้องทองเงิน ฯ

๑๒๘ หุงเข้าประชดหมา

๏ หุง สารใส่หม้อล้น เหลือหลาย
เข้า คลุกใส่กะทาย ทุ่มไว้
ประชด สุนัขให้หาย โลภลัก หายฤๅ
หมา เปรียบข้าชั่วใช้ ยิ่งให้ยิ่งกิน ฯ

๑๒๙ ปิ้งปลาประชดแมว

๏ ปิ้ง มัจฉาใหญ่น้อย นับอนันต์
ปลา สุกเสร็จดึงดัน แดกให้
ประชด แมวจะให้มัน หายลโมภ หายฤๅ
แมว เช่นบ่าวชั่วใช้ ยิ่งให้ยิ่งเหิม ฯ

๑๓๐ ยังไม่เห็นน้ำตัดกะบอก

๏ ยังไป่เห็นน้ำรีบ ชิงกัน
ตัดบอกหวังปูนปัน ส่วนน้ำ
หากคลาดน่าเคอะขัน เจียวพ่อ
หมายสิ่งบ่เห็นก้ำ กึ่งได้โดยเดา ฯ

๑๓๑ ยังไม่เห็นกะรอกโก่งหน้าไม้

๏ ยังไม่เห็นรอกเต้น ตัวมัน
อย่าเพ่อโก่งเกาทัณฑ์ น่าไม้
สายหย่อนเพื่อนจักหยัน เยาะเล่น
ยังไป่แน่แท้ได้ ด่วนก้อคุยก๋า ฯ

๑๓๒ พุ่งหอกเข้ารก

๏ พุ่งหอกเข้ารกแล้ว หลีกหนี
ใจด่วนควรการดี บ่ได้
ผิดถูกไม่ทราบมี จิตต์มัก ง่ายนา
เอาแต่เสร็จการไซ้ ชุ่ยพ้นมือตน ฯ

๑๓๓ ชี้นกปลายไม้

๏ ชี้ สกุณานึกได้ ดุจหมาย
นก ใหญ่น้อยแลหลาย สล้าง
ปลาย พฤกษนึกนกหาย บ่ห่อน เห็นนา
ไม้ เปรียบคนชุ่ยอ้าง เปล่าล้วนลมเหลว ฯ

๑๓๔ หลับตายิงกะสุน

๏ อวดดีเดาสวดอ้าง อวดคุณ
หลับเนตรยิงกะสุน เซอะแท้
ปางใดจะเหมาะหมุน ถูกมุ่ง หมายเฮย
เห็นว่าป่วยการแม้ พลาดแล้วเปลืองแรง ฯ

๑๓๕ ขวานสับฟาก

๏ โอ้อวดสารพัดรู้ กิจการ
ครั้นจักเอาการงาน เงอะสิ้น
ไม่เป็นเรื่องราวกขวาน สับฟาก
หากว่าใครเชื่อลิ้น ช่วงใช้การเสีย ฯ

๑๓๖ สุกหัวกินหัว

๏ ปิ้งปลาหัวสุกแล้ว กินหัว
ใจง่ายโลภเมามัว มักได้
ทรัพย์สินส่วนครอบครัว คราวส่ง คลังแฮ
หัวแรกรวบไว้ใช้ ฉลาดชั้นเชิงหวัง ฯ

๑๓๗ สุกหางกินหาง

๏ ปิ้งปลาหางสุกแล้ว กินหาง
คนจิตต์มักมากสาง เสาะกล้ำ
ทรัพย์สินส่วนคลังฉาง เฉงแบ่ง กันฤๅ
ได้ส่วนแบ่งสองซ้ำ ฉลาดชั้นเชิงไหว ฯ

๑๓๘ อย่าง้างภูเขา

๏ อย่า ทนงอวดอ้าง ฝีมือ
ง้าง แง่งแท่งหินถือ หัตถ์ท้อ
ภู ผาไป่เอนอือ มือเมื่อย เปล่าแฮ
เขา ดุจความแขงข้อ อย่าค้านขัดขืน ฯ

๑๓๙ อย่ายาแผ่นดิน

๏ แผ่นดินแยกแตกพื้น พังภินท์
อย่าอุตริเอาดิน ยัดเข้า
จุกยาห่อนชิดฉิน โชนเช่น
ความแผ่นดินขุ่นเค้า ใหญ่ห้ามเหือดไฉน ฯ

๑๔๐ อย่าเพิ่มพิษนาค

๏ ตัวต่ำซ้ำทาสทั้ง ถอยฤทธิ์
เสริมใส่ร้ายนายชนิด ฤทธิ์เรื้อง
ฤๅจะรอดชีวิต ดุจพิษ งูนา
เพิ่มพิษนาคยากเยื้อง อย่าซ้ำเติมเสริม ฯ

๑๔๑ อย่าหาเลือดปู

๏ อย่าเกะกะแกะก้าม ปูเป็น
หาแหล่งโลหิตเห็น ห่อนได้
โลหิตบ่แดงเด็น แต่หยาด ยางแฮ
ปูเปรียบผู้ทรัพย์ไร้ เร่งรู้ปราณี ฯ

๑๔๒ อย่าหาดีหนู

๏ อย่าอุตริริค้น คัดหา
ดีที่หนูเยียวยา ยากได้
เช่นชนชั่วพาลา เหลือชาติ ชั่วแฮ
ดีไม่มีแม้นไค้ แคะค้นสุดแสวง ฯ

๑๔๓ เป่าปี่ให้แรดฟัง

๏ เป่าปี่เสียงเสนาะให้ แรดฟัง
มันไม่รู้เพลงดัง เปล่าแท้
กล่าวธรรมที่ทุกขัง พาลโหด หืนนา
เหลือที่จะกล่าวแก้ โหดให้สว่างไสว ฯ

๑๔๔ สีซอให้ควายฟัง

๏ สีซอเสียงเสนาะให้ ควายฟัง
ไหนจักทราบเสนาะดัง ดุจใบ้
สอนธรรมที่สัจจัง พาลทึบ โง่แฮ
ปราชญ์สุดโปรดโง่ให้ ทราบรู้รสธรรม ฯ

๑๔๕ ตักน้ำรดหัวสาก

๏ ตักน้ำรดสากสิ้น หลายถัง
สากบ่ซึมซาบขัง ทึกไว้
เฉกบุตรบ่ใฝ่ฟัง โอวาท
สอนเท่าสอนฤๅได้ ดุจข้อคำสอน ฯ

๑๔๖ หูหนวกเอาน้ำหยอด

๏ ธรรมดาหูหนวกแท้ ทึบตึง
น้ำหยอดหูอู้อึง อับได้
เอกชนชาติทึบถึง สั่งเท่า ไรนา
มันไม่จำสั่งใช้ เฉื่อยเบื้อเหลือสอน ฯ

๑๔๗ แขนขาดได้กำไล

๏ แขน ขาดคืบคู่ซ้าย ขวากร
ด้วน ดังดาบราญรอน ร่วงไร้
ได้ วงวะไลคอน แขนกุด แกนแฮ
เสื้อ ศิริใส่บ่ได้ ดั่งผู้แกนกุศล ฯ

๑๔๘ หัวล้านได้หวี

๏ ศีร์ษะล้านเลี่ยนโล้ง แดงศรี
อยากแต่งผมได้หวี จดจ้อง
คลำผมไป่พบมี หมายเปล่า ไปเฮย
ได้สิ่งใดไป่ต้อง กิจแล้วอย่าหวัง ฯ

๑๔๙ นิ้วด้วนได้แหวน

๏ นิ้ว คนสรรพสิบซ้าย สองขวา
ด้วน เด็ดมีแต่ฝ่า หัตถ์ไซ้
ได้ ศิริสิ่งใดมา สวมใส่ ได้ฤๅ
แหวน ดุจดังศิริได้ ห่อนได้ดังหวัง ฯ

๑๕๐ ตาบอดได้แว่น

๏ คนมีทวีเนตรโอ้ อันธการ
มาผเอิญยลญาณ แว่นแก้ว
ได้ดูสิ่งใดดาล บ่ห่อน เห็นเฮย
สรรพสิ่งที่ผ่องแผ้ว อภัพผู้บอดเขลา ฯ

๑๕๑ ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิด

๏ ช้างใดตายกลิ้งอยู่ ทั้งตัว
อุตริเก็บใบบัว ปิดไว้
ความร้ายกาจน่ากลัว ฟุ้งเฟื่อง
เสียทรัพย์เฟื้องไพให้ สงบฟุ้งฤๅฟัง ฯ

๑๕๒ ขี้ก้อนใหญ่ให้เด็กเห็น

๏ คูถก้อนใหญ่อย่าให้ เด็กเห็น
มันไม่ปิดปากเป็น เปิดแส้
การลับสิ่งใดเหม็น เหมือนกลิ่น คูถนา
ควรปกปิดมิดแม้ แพร่อื้ออึงอาย ฯ

๑๕๓ ขึ้นต้นไม้สุดยอด

๏ ปีน พฤกษ์ไพรไต่ต้น ตลอดบน
ไม้ หมดยอดจอดจน จิตต์ดิ้น
สุด คิดสุดขวายขวน สุดป่าย ปีนเฮย
ยอด อย่างคนสุดสิ้น คิดดื้อดันทุลัง ฯ

๑๕๔ ไต่ไม้ลำเดียว

๏ ไต่ ตะพานพาดไม้ ลำเดียว
ไม้ สั่นหวั่นกายเสียว เมื่อเมื้อ
ลำ ฦกที่พึ่งเหลียว แลห่อน เห็นเฮย
เดียว ดั่งคนบ่เอื้อ พึ่งผู้พาสนา ฯ

๑๕๕ ผู้ดีเดินตรอก

๏ ผู้ กอบสินทรัพย์ทั้ง ปรีชา
ดี ประหยัดวาจา จิตต์พร้อม
เดิน ดัดตัดมรรคา หลีกหลบ พาลแฮ
ตรอก ซอกสู้เลี่ยงอ้อม ห่อนให้พาลเห็น ฯ

๑๕๖ ขี้ครอกเดินถนน

๏ ขี้ ข้าสินทรัพย์ไร้ ทรพล
ครอก เกิดเรือนเบี้ยตน มั่งคั่ง
เดิน หาญรุกราญชน ชอบเช่น พาลนา
ถนน ใหญ่เที่ยวรายกั้ง กีดกั้นรานทาง ฯ

๑๕๗ จับงูข้างหาง

๏ จับสิ่งใดบ่ได้ มั่นมือ
พลาดพลิกจากตัวถือ โทษให้
เสียทรัพย์อับอายฦๅ ตราบเท่า ศูนย์แฮ
ดั่งจับหางงูไว้ วัดแว้งวายปราณ ฯ

๑๕๘ ลากงูตามหลัง

๏ ลากอสรพิษติดเต้า ตามหลัง
งูพิษคือพาลพลังค์ ติดต้อย
ตามหลังสบสมหวัง พัสดุ เว้นฤๅ
พาลบ่เว้นชีพน้อย หนึ่งทั้งทรัพย์สิน ฯ

๑๕๙ เปิดฝาเรือนอวดคนอื่น

๏ ภรรยาเคืองคึ่งแค้น สามี
รื้อเรื่องความอัปรีย์ เล่าได้
ปากเปิดโทษตนดี แผ่ทั่ว
เหมือนเปิดฝาเรือนให้ เพื่อนบ้านดูของ ฯ

๑๖๐ สาวไส้ให้กากิน

๏ อุตริเก็บเรื่องร้าว ฉานชน
เสียดส่อก่อความปน ปดได้
ตัวก็เปล่าจากผล จากประ โยชน์นา
ดุจเสาะสาวไส้ ส่งให้กากิน ฯ

๑๖๑ ปั้นรูปเจ้าชก

๏ คนคิดวิปลาศแท้ โทษมูล
นายพระคุณบุญปูน ปกเกล้า
ปั้นเป็นรูปจำรูญ ฤๅวาด ไว้เฮย
ชกต่อยตีค่ำเช้า ชั่วชี้ฉิบหาย ฯ

๑๖๒ ปั้นรูปเจ้าไหว้

๏ คนคิดชอบกอบเกื้อ การสนอง
เจ้าพระคุณบุญครอง ครอบเกล้า
ปั้นเป็นรูปเรืองรอง ฤๅวาด ไว้นา
ไหว้สักการค่ำเช้า ชอบเจ้าจำเริญ ฯ

๑๖๓ ตีวัวกระทบคราด

๏ ตีวัวกระทบคราดเปื้อน ลามปาม
บ่มิควรลวนลาม โกรธหง้าน
โกรธคนที่เรือนตาม ตีถูก แล้วพ่อ
ตีปชดชาวบ้าน บ่นบ้าบัดศรี ฯ

๑๖๔ โกรธหมาดำร่ำหมาแดง

๏ โกรธสุนัขดำร่ำแผ้น สุนัขแดง
คือว่านายหลงแถลง โทษข้า
ข้าคนที่รักแรง ทำผิด ลงฤๅ
โกรธไม่เฆี่ยนเปลี่ยนถ้า เฆี่ยนข้าบ่ผิดแทน ฯ

๑๖๕ นมยานฟัดอก

๏ นมยานยาวเยียดย้อย ทับอก
พวงกระเพื่อมเพียงพก ฟาดท้อง
จับดึงกระแทกทก ห่อนหลุด ขาดนา
ลูกรักกลับชังต้อง เช่นเต้าโตงเตง ฯ

๑๖๖ ขว้างงูไม่พ้นคอ

๏ จะซัดสรรพสิ่งเปลื้อง ปลดไป
จากอาตมสิ่งใด เด็ดด้วน
พ้นความไม่มีภัย ผิไม่ พ้นเฮย
เหมือนขว้างงูมันม้วน ไม่พ้นพันคอ ฯ

๑๖๗ นกไร้ไม้โหด

๏ ไม้ใหญ่ใบหล่นสิ้น บังแสง
นกบ่มาพักแผลง พลอดได้
เฉกชนเสื่อมโรยแรง บุญเก่า สนองนา
ชนบ่มาให้ใช้ เพราะเชื้อบุญศูนย์ ฯ

๑๖๘ ต้องถอนเสาเรือน

๏ ไม้ใหญ่ใบหล่นโล้น ลงกระจาย
ยังไม่ทันจักตาย แต่จ้อง
คนเห็นก็ขวนขวาย ฟันต่าง ฟืนเฮย
ผู้ใหญ่ยศตกต้อง ทุกข์รื้อถอนเรือน ฯ

๑๖๙ เรือใหญ่คับคลอง

๏ เรือใหญ่แคมคับทั้ง ฝั่งคลอง
คัดวาดหวังดั่งปอง สุดถ้า
ผู้ยศใหญ่กรรมสนอง สมบัติ วิบัติแฮ
เที่ยวถ่อพายแจวค้า ขัดเลี้ยงชีพไฉน ฯ

๑๗๐ จรเข้ขวางคลอง

๏ จรเข้ตัวใหญ่ขึ้น ขวางคลอง
แผลงฤทธิคนอง หนักแล้ว
คงมอดเพราะมือของ คนมุ่ง ผลาญแฮ
ขวางที่ท่านกลั่นแกล้ว บ่แคล้วฉิบหาย ฯ

๑๗๑ เต่าโตคับหนอง

๏ คับอกโอ้เต่าเยื้อง ยักกาย
โตคับหนองน้ำขยาย ยากแท้
คนมียศใหญ่กลาย กลับเสื่อม ทรัพย์นา
โตแต่ยศทรัพย์แปล้ สุดปล้ำอาตมา ฯ

๑๗๒ ลิงตกต้นไม้

๏ ลิงไวจับกิ่งไม้ ผุหัก
ตกเจ็บกายสบัก บอบช้ำ
ชนฉลาดแหลมหลัก หลงผิด ไปแฮ
ดีเท่าดีเหลือล้ำ พลาดแล้วลงโครม ฯ

๑๗๓ ย้อมแมวขาย

๏ จับแมวมาลูบล้าง สอดสี
ขายส่งแสนอัปรีย์ ชั่วช้า
เป็นคนคิดเอาดี โดยร่อน ร่อนเฮย
ขายอื่นบ่คิดค้า คิดย้อมแมวขาย ฯ

๑๗๔ พึ่งเข้าสุกวัด

๏ คิดคิดอนาถโอ้ อายแทน
เป็นบุรุษแสนแกน ก่อไร้
มาเป็นศัตรูแหน เข้าสุก วัดนา
ขนแต่เกียจคร้านไว้ อวบอ้วนเติบโต ฯ

๑๗๕ ชักใบให้เรือเสีย

๏ ชู้เขาจะกอดเข้า พัลวัน
มาสอดกลางขวางกัน กีดหน้า
ทานท่านจะให้ปัน กลับชัก เชือนแฮ
ชนชาติตระหนี่บ้า ชักให้เรือเสีย ฯ

๑๗๖ ตำเข้าด้วยครกกะเบือ

๏ ทำกินพอแต่ท้อง ทนอาย
ไม่แผ่เผื่อมิตรสหาย พี่น้อง
เขาคงแช่งด่าดาย ดั่งบุรุษ คร้านแฮ
ตำซึ่งเข้าเปลือกก้อง กับด้วยครกกเบือ ฯ

๑๗๗ สินธพคบลา

๏ สินธพเฉกเช่นเชื้อ อัสดร
ยินมลากหมู่ลาจร จวบผ้าย
เสียยศเสื่อมเกียรดิถอน เสนธพ ชาติเฮย
คือว่าคนคบหง้าย บ่เกื้อกุลวงศ์ ฯ

๑๗๘ ราชสีห์คบโค

๏ สีหราชชาติอุกเหี้ยม เดโช
พัวพะปะฝูงโค คู่เค้า
ใครยลบ่ยลโส ภณแผก พรรคแฮ
เอกชาติผู้ดีเคล้า คลุกกลั้วจัณฑาล ฯ

๑๗๙ ไฟลุกใส่ฝุ่นฝอย

๏ เพลิงพลุ่งรุ่งเร้าโชติ ชัชวาล
อยากเยื่อฝอยอย่าทาน ชุ่มเชื้อ
คนมักชักโกรธพาล หาเหตุ
อย่ายั่วยุเย้าเกื้อ ก่อให้ไฟฮือ ฯ

๑๘๐ ถ่อแพไล่เสือ

๏ ถ่อ ยาวโยนคู่ค้ำ คัดขืน
แพ พบเสือแฝงฝืน ฝั่งคว้าง
ไล่ เสือล่องลอยยืน ยันทิ่ม แทงแฮ
เสือ ป่ายแพคนกด้าง โดดน้ำหนีเสือ ฯ

๑๘๑ สุนัขจนกรอก

๏ ทำโทษสรรพสัตว์ทั้ง ทรชน
มันมักกลับสู้ตน ชอกช้ำ
เหมือนสุนัขหนีคน จนกรอก
หันกลับหน้าสู้ซ้ำ กัดสิ้นสุดแรง ฯ

๑๘๒ ผู้ดีว่าขี้ข้าพลอย

๏ ผู้ดีพูดเช่นนั้น พอดี
ขี้ค่าพลอยพาที แทรกซ้อน
เฉกชนโฉดไป่มี มารยาท
สอดพูดสอดเสียดข้อน แคะไค้ผู้ดี ฯ

๑๘๓ เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้นั่งกระดูกแขวนคอ

๏ เนื้อบ่ได้ล่วงท้อง ทำเนา
หนังบ่ได้นั่งเอา กระดูกห้อย
แขวนคอเที่ยวเดินเดา ดาบศ ชุบเฮย
เกิดคู่เคียงแช่มช้อย ชวดได้สมัคสมาน ฯ

๑๘๔ ถ่อเรือหาความ

๏ ถ่อ เทียบวิริยกล้า หาญพยุง
เรือ ร่างกายย้ายพุง เที่ยวได้
หา สิ่งที่ผดุง ดวงจิตต์ แสวงแฮ
ความ ทุกข์โศกโรคไซ้ ห่อนสิ้นสงสาร ฯ

๑๘๕ อีกาตอมรุ้ง

๏ อี กาแกแซ่ส้อง สืบหา
กา เพื่อนเตือนกันมา มุ่งสู้
ตอม ตามเฉี่ยวโถมถา ผวาจิก รุ้งเฮย
รุ้ง หลีกหนีดุจผู้ ฉลาดลี้หนีพาล ฯ

๑๘๖ เขียนเสือให้วัวกลัว

๏ เขียนเสือเสือกส่งให้ วัวกลัว
วัวเพ่งเสือเส้นมัว บ่สดุ้ง
เฉกชนโอ่อวดตัว โตขู่ เขาแฮ
เขาทราบโอ้อวดฟุ้ง เฟื่องรู้ฤๅเกรง ฯ

๑๘๗ จับปลาในปลัก

๏ จับปลาในปลักปล้ำ ปลาหาย
โลภจะเอามากมาย หมดสิ้น
จับกรจับตะกาย ปลาปรูด ไปนา
โลภนักมักเดือดดิ้น ลาภสิ้นศูนย์ผล ฯ

๑๘๘ ขุดบ่อล่อน้ำให้ปลาหลง

๏ ขุดบ่อลวงล่อให้ ปลาหลง
เข้าอยู่กับจับปลง ชีพปลิ้น
พาลคิดเล่ห์กลผจง ทำล่อ ไว้แฮ
ใครลุ่มหลงเข้าดิ้น แด่วด้วยกลลวง ฯ

๑๘๙ เหยียบตมเปื้อนตีน

๏ เหยียบตมเคลอะคละเคล้า บาทา
ตมดุจอกุศลสา หัสต้อง
หมั่นชำระบาปหนา หนักแบ่ง เบาเฮย
ล้างบาปเป็นบุญป้อง ปิดห้องหับอบาย ฯ

๑๙๐ มือไม่พายเอาตีนราน้ำ

๏ มือมีไม่ถ่อทั้ง ไม่พาย
เท้ารอราน้ำกระจาย ชักช้า
เขากอบกิจขวาย ขวนอยู่ ไฉนนา
กล่าวขัดขวางทางถ้า ถ่อยแท้อย่าทำ ฯ

๑๙๑ ชักตพานแหงนเถ่อ

๏ ชัก ทรัพย์ส่งป้อนสื่อ ปองสาว
ตะพาน รับกลับชักฉาว ชั่วช้า
แหงน เปล่าเจ่าใจหนาว จ่อนั่ง
เถ่อ เทียบกุลาหลงคว้า ปักเป้าขาดลอย ฯ

๑๙๒ ตกกะไดพลอยโจน

๏ ตกบันไดโดดแกล้ง โจนหนี
ตกตะพานทำที อาบน้ำ
ทาสหนีนับหลายปี ตามไม่ ปะแฮ
บอกว่าปลดปล่อยซ้ำ แซ่งแก้กันฉิน ฯ

๑๙๓ ผู้ดีตื่นดก

๏ ผู้ ไรแรกแต่ดั้ง เดิมมา
ดี เพราะบุญบุรพา ก่อเกื้อ
ตื่น พย่ำเผยอสา หัสเหตุ
ดก ดุจหมากพร้าวเรื้อ กลับได้ดินพวน ฯ

๑๙๔ ปลูกเรือนใกล้วัด

๏ ปลูก ฝังเสาเหย้าอยู่ ยลงาม
เรือน หนุ่มสาวคั่งคาม ค่ำเช้า
ใกล้ หน้าต่างสงฆ์สาม เณรหนุ่ม นึกนา
วัด สังวรส่ายเศร้า ส่วนบ้านมัวหมอง ฯ

๑๙๕ มีเมียต่างบ้าน

๏ มี ภิริยาอย่าไว้ ไกลสถาน
เมีย มักทุราจาร จิตต์เคล้า
ต่าง คนต่างรำคาญ คิดอยาก ไปเฮย
บ้าน ห่างทางถีบเท้า รีบเคล้าคลายหาย ฯ

๑๙๖ วัวสันหลังขาด

๏ คิดวัวหลังขาดเหน้า นานแผล
หวาดสกุณกาแก แกะคุ้ย
เดินใดระวังแล เหลือบลอบ ลี้นา
เฉกชาติคนร้ายบุ้ย บอกร้ายในตัว ฯ

๑๙๗ ฆ่าควายเสียดายพริก

๏ ฆ่ากระบือแล้วคิด เสียดาย
ซึ่งพริกขิงทั้งหลาย หลากแท้
หวนจิตต์คิดกลับกลาย เป็นอื่น
คนจักติเตียนแส้ ชั่วสิ้นศูนย์ชนม์ ฯ

๑๙๘ โคแก่ชอบหญ้าอ่อน

๏ โคเฒ่าเขาหักเหี้ยน หายคม
พานพบหญ้าอ่อนงม ง่านเคี้ยว
ชายแก่พบสาวสม สบจิตต์ เขานา
ฟูมแฟะรสมันเขี้ยว ใฝ่ฝั้นเฝือเหลือ ฯ

๑๙๙ ได้ใหม่ลืมเก่า

๏ ได้ สิ่งพัสดุต้อง ติดใจ
ใหม่ ก็ใหม่เอี่ยมใส สะอ้าน
ลืม ของที่เคยใน อกอาบ เอิบนา
เก่า ว่าเก่าแก่จ้าน จึ่งต้องเลยลืม ฯ

๒๐๐ พายเรือในหนอง

๏ ลงเรือคัดวาดพุ้ย พายปะเลง
วนอยู่ในหนองเอง อับอั้น
ถึงใดบ่ถึงเอง จักค่ำ เปล่านา
เฉกคิดวนเวียนสั้น เปลี่ยนปล้ำใจเอง ฯ

๒๐๑ ว่ายน้ำหาจรเข้

๏ เห็นชัดจรเข้ฟ่อง ฟูชล
สู้ว่ายแหวกวังวน แวดเคล้า
จวนกิจจิตต์จำจน จักเลี่ยง หลีกนา
ร้ายเท่าร้ายขืนเข้า แค่นได้คดีดล ฯ

๒๐๒ เอาห่วงคล้องคอ

๏ ไม่มีห่วงบ่วงแร้ว ดำฤษณา
เอาห่วงสวมคิวา วุ่นดิ้น
ลูกเมียและโภคา สามสิ่ง ห่วงแฮ
ห่วงไม่มีหมดสิ้น ภพเพี้ยงนฤพาน ฯ

๒๐๓ อุ้มหมูทั้งมุ้ง

๏ อุ้ม หมูมักห่อมุ้ง นุงนัง
หมู หมกมุ้งมิดยัง ไม่แย้ม
ทั้ง ผู้โอบอุ้มฟัง ไม่ทราบ ชัดนา
มุ้ง ดุจความอ้อมแอ้ม ดุจอ้างสว่างไฉน ฯ

๒๐๔ ขี่ช้างวางขอ

๏ ทาสภริยาทั่วทั้ง หญิงชาย
บหมั่นว่ากล่าวกลาย กลับดื้อ
เช่นขี่คชพังพลาย บจับ ขอนา
อาละวาดหนักแรงรื้อ ฤทธิ์ร้ายเหลือขอ ฯ

๒๐๕ เหาะเกินลงกา

๏ เหาะ รเห็จลิ่วล้ำ ลงกา
เกิน กลับไปกลับมา ไป่รู้
ลง ถามนักสิทธา จึ่งทราบ ทางเฮย
กา รอะไรถามผู้ แน่แท้ทางดี ฯ

๒๐๖ ตาบอดสอดตาเห็น

๏ ตาบอดสอดเรื่องรู้ ราวกเห็น
หาแต่เรื่องเคืองเข็ญ ขอดพร้อง
บาปบอดวิบากเป็น บาปปาก อีกนา
ยังบ่เจียมตาต้อง สอดรู้เอาอะไร ฯ

๒๐๗ ความรู้ในสมุด

๏ เพ่งเพียรเรียนทั่วถ้วน วิชชา
จดใส่สมุดมา หมกไว้
ไม่มีจิตต์เจตนา นึกบ่น บ้างเฮย
คราวฉุกเฉินเชี่ยวใช้ ชวดได้ดังหวัง ฯ

๒๐๘ ตัณหาบ้าผู้หญิง

๏ ตัณหาห่อหุ้มจิตต์ โฉดเขลา
หลงรักคนเดียวเดา งุ่นหง้าน
สตรีที่ฉลาดเขา คิดล่อ หลอกแฮ
ใช้โงกงานการบ้าน บอกบ้าผู้หญิง ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ