อุณหิตวิไชยลิลิต
ร่าย๏ วันทิตตวาสิรสาพุทธํ อันว่านมัสการสุเบญจางค ประดิษฐวรางควรเกษ โอนศิโรเพทอภิวาท จรดวรบาทรพิน พระมุนินทวิชิตมาร อันมโหฬารพุทธคุณ พระการุณวิสุทธจิตร เปนจอมโมลิตไตรดา สสัตธรรมะคะมุฏฏะมํ ข้าก็วันทนาพระสธรรม คุณอนันตนพโลกุต อดิเรกวรุดมวรา ถวายวันทนาคะณะสงฆ อริยวงษชิโนรส สมเด็จสุคตมุนี อุณหิฏสวิไชยนามะ อันพระคำภีคำภีรัด นามบัญญัติอุณหิต วิไชยสิทธิวิสุทธ คือมงกุฎครอบเกล้า อมรนรเท้าไตรภพ สัตตานํอายุวัฒนํ ยงงสัตวสบสรรเสรอญ ให้จำเรอญชนมา วุฒิวัทธนายืนยาว วักขามิปวะรํคัณธํ ข้าจะขอกล่าวกลกลอน คันถีวิวรบวรัง ประเสริฐท้งงธรรมรศ สัมพุทเธเนวะเทสิตํ อันว่าพระศรีสุคตบพิตร สยมพุทธอิษวเรศ ดำหรัดเทศแถลงสาร ด่งงมีวาระพระบาฬี ในคำภีรนี้วิเศศแล
โคลง๏ จบบทประนตน้อม | นมัสการ |
คันถีนิวรสาร | สืบไว้ |
จักแถลงแสดงพจมาล | โดยเลศ |
ลิขิตลิลิตไว้ | อ่านอ้าง เปนผล |
๏ สรรเสรอญเจรอญเกียรดิเกล้า | โมลิด |
เสด็จถึงดึงษาสิทธ | เสพยส้อง |
ปรารพยสุปดิด | ดาลเดือด |
แสดงคุณอุณหิตพร้อง | พร่ำให้ สืบสกนธ |
ร่าย๏ เอกัสสมึสมะเยนาโถ ตาวะตึเสสุราลัยเย ในสมัยกาลปางหนึ่ง พระผู้ที่พึ่งภพแดน นรสูรแสนสัตวโลกย พระอุทโยคเสด็จถึง ยงงดาวดึงษาสวรรค
ปาริฉัฏฏะกะมูลำหิ บัณฎุกำพละนามะเก เสด็จยงงบัณฎุกำพล นั่งเบื้องบนศิลาอาศน ดวงปาริกะชาติโดยนาม มณฑลงามด่งงฉัตรธรง เกอดสำหรับองคอำมเรศ วิหะริตตวาปิเทเสสิ อภิธรรมะกะถํวะรํ ๚
ร่าย๏ พระก็เทศนาอภิธรรม สุขุมคำภีรารัด ปรเสรอดิอรรถวิจิตร สัตตปปกะระนะนามะ เจ๊ดคำภีพิษฎารมี คือพระสังคินีเปนอาทิ พระวิภังคสาศนดับมา พระธาตุกถาแถวถัด พระบุกคลปัญญัติจัตา แล้วพระกถาวัดถุธรรม พระยมกอันดับสาร สุดพระปถานสำเร็จ เคารพยเจ๊ตพระคำภีร ธรรมสํฆิณีอาทิกํ ศิริมายาปะมุขานํ เฉพาะพระศรีริมายา เสด็จเบื้องหน้าเปนปรธาน เทพพรหมมารบรรพสัตว น่งงแน่นยัดคับคั่ง พร้อมสพรั่งฟังธรรม นิมิตรองคอันเล็กละเอียด แอบเบียดเสียดเหลือนับ มากเหลือกัปเหลือโกฎ พระให้เปนประโยชนฝูงเทพ ด้วยส้องเสพยสวนา พระธรรมาปราโมช ด่งงอำมฤตยโรดโสดสรง ถ้วนทุกองคเทพไซ้ ที่เหลือมัคผลได้ ศุขเบื้องเมืองบน ๚
โคลง๏ ปางหนึ่งจึ่งเทพไท้ | ธรงนาม |
สุปดิตฤทธเรืองราม | รุ่งเร้า |
สมบัดิพัสถานคราม | ครันครุ่น |
หลงศุขขุกจักเข้า | เขดข้าง ความตาย ๚ |
๏ เทวะปุฏโฏฏะทาเอโก ปางนั้นบั้นเทวบุตร องคหนึ่งอุดมฤทธิ ชื่อสุปดิดโดยนาม ตวะตึเสนิพพะโตโส สมบัดิครามคั่งครัน อุบัดิสวรรคดาวดึงษา สูรกรรญาบริวาร ๚
๏ ทิพพะศุขํอนุโภติ เสวยศุขสารเขษมสวัสดิ ในทิพรัตนวิมาน แล้วด้วยกาญจนวิจิตร วิวิทธิสว่างเรืองโรจ ชวลิตโชดิชัชวาลย วิทูรประพาฬกนกมาศ อทิสสวาวะตะทาเทโว เทพก็ประมาทลืมหลง บรู้ว่าองคจะอาสัญ จสิ้นชีวันมรณา บเห็นสังขาราสิ้นสุด
๏ เทวะปุฏโฏฏะทาเอโก จึงเทพบุตรหนึ่งบวร ธรงนามกรนรนารถ ชื่ออากาศจารี ปาริกขิณายุกํญัตตวา ปรีชามีประเสริฐสุด รู้ว่าเทพบุตรสุปดิด จสิ้นชีวิตรเมื่อมรณ เทพนั้นจรตระบัดดาล มาสู่สถานเทเวศ เพื่อจะแจ้งเหตุให้รู้ มาริสสัตตะเมทิเน ดูกรท่านผู้นฤทุกข เสวยรมยศุขเขษมสรร ยังเจ๊ดวันจวินาศ จสิ้นชีวาตจากสถาน จพรากพิมานสมบัติ ท่านจะพรัดสุราไลย อวิจีนิริเยชาโต จเอากำเนอดในอวิจี จเสวยทุกขมีมามูล ท่านอาดูรทนเทวศ จะวิฏฏะวาวะตะโตถานา ยงงแต่เสศผลกำม์ จนำท่านมาเกอด ในกำเนอดเจ๊ดสถาน บาปอภิบาลตกแต่ง กังโขคิชโฌกุมโมเจวะ จักเปนแร้งเปนกา เปนสุนักขาแลสุกร บสิ้นกำม์ก่อนเปนเต่า ชัจจันโทพะธิโรเจวะ จะเปนมนุษยเล่าเสียตา เปนพธิราหูหนวก บได้ดีสดวกท้งงเจ๊ดชาติ พหูทุกขํอนุโภสิ เสวยทุกข์ปรดาษมูลมาก ทรพลยากไร้ญาติ เปนทุกชาติท้งงเจ๊ด ๚
๏ อิติวัตตะวานะโสเทโว เทพกล่าวเสร็จพจนา อำลาเทวสุปดิด หายวิจิตรพิมาน ไปดลสถานที่อยู่แห่งตนแล ๚
โคลง๏ สุปดิดดาลเดือดด้วย | สวนา |
อากาศจารินทรา | บอกแจ้ง |
ชีวันจรัลจรา | ฤๅรอด |
อาดูรภูลเทวศแห้ง | เหือดไห้ โหยหน ๚ |
ร่าย๏ วจะนํตัสสะสุตตวานะ ส่วนสุปดิดเทวราช ฟงงอากาศจาริน ว่าจสุดชีวินวอดวาย เพียงจทำลายหฤไทย หวั่นหวาดไหวจุลาจล
๏ อติทุกโขมหาโสโก เกอดทุกขทนแสนโศรก ด้วยวิโยคสมบัดิ ทุกขโทรมมนัศสหัศสา จึ่งจินตระนาในใจ เอวะรูโป อุปัถถะโว อันว่าไภยอุปะทวะ มีแก่อาตมะในกาล ตระบัดเห็นปานด่งงนี้ กิงเมวะสารนํโหติ เราจักมีที่พึ่ง ด่งงฤๅจึ่งจักพ้น ซึ่งทุกขทนเดือดร้อน จักได้เร้นซ่อนซึ่งกาย ให้พ้นฉิบหายพายหน้า จักมีมาแต่ใด อัตตะโนนิมิตตํทิสสวา จึ่งวิจารณาในกายา เห็นสริราเศร้าหมอง วรรณเรืองรองวิปริต ก็เปนนิมิตรอัศจรรย ทิพบุบผามิลายันติ บุษมาลาวรรณสังวาร เหี่ยวแห้งบานโรยร่วง รย่อดวงอรชร เหื่อใต้กรที่ทับ ไหลททรึมทรับโทรมองค์ อาศนาอะปิอุณหันติ บันลังก์อลงกพิมาน ร้อนรำคานจาบัล สิราวรรณอัปรภาค ภักตรวิมลากศรีสลด ปัญจบุบผนิมิตตานิ นิมิตรปรากฎท้งงห้า เปนทำมดาเทวบุตร อันจจรัลจุติจากที่ ทิพบุบผามิลายันติ นิมิตรก็มีเหมือนกัน หนึ่งรูปพรรณเศร้าศรี หนึ่งเสโทสุมาไลยเหี่ยวแห้ง หนึ่งอาศนแสดงเดือดร้อน หนึ่งวัตถารารณมีหลั่งไหล หนึ่งหมองหม้าย นิมิตรท้งงหลายห้าอัน สำหรับขันทพึงมี แก่อาตมนี้ทุกประการ
โคลง๏ สุปดิดคิดคลั่งคลุ้ม | ทรวงสมร |
เพราะชีวันจรัลจร | จักม้วย |
ไปยงงหวังอินทวอน | วานว่า |
เชิญองคจงโปรดด้วย | เดชได้ ชนมาน ๚ |
๏ วิมานะโตโอตริตตวานะ สุปดิดคิดเดือดดาล ลงจากพิมานรัตนาศ ไปยงงปราสาทเวชัยยันต แห่งท้าววัชชีรันตราชา วันทิตตวาสาทะรํสักกํ ถวายวันทนากราบกราน นั่งยงงสถานควรอาตม กล่าวพจนาทท้าวทูล เทวะราชะตุวํเสฐโฐ ข้าแต่นเรศสูรฤทธิรุท เปนจอมมกุฎเทวินท ประเสริฐสุรินทสูรศักดิ์ จงเปนพำนักนิข้า พระองคคุ่มครองซงซ่อนเร้น ร่มเกษเอย็นเกษมสรร อิโตวะสัตตะเมทินเน ยงงเจ๊ดวันข้าพระบาท จักสิ้นชีวาตวายปราณ จากเทวถานศุขสวัสดิ อวิจีนิริเยชาโต จักอุบัดดิในนรก อวิจีหมกมุ่นไหม้ ทุกขเภทไภยแสนทวี พหูวัสสหัสสานิ ถึงพันปีมากมูล ทุกขอาดูรดาลเดือด ห่อนหายเหือดยาวยืน นิริยะโตตะโตจุโต ครบถ้วนหมื่นปีสับ จึงจุติกลับคืนมา เสวยเวทนาเจ๊ดชาติ ทุกขสามารถสหัศสา กังโขคิชโฌกุมโมจะ จักเปนกาแร้งเต่า เปนสุกรเขาเข่นฆ่า เปนสุนักขาอดอยาก ชัจจันโทพะธิโรเจวะ เปนมนุษยลำบากยิ่งนัก หูหนวกหนักตาบอด ทุกขแทบทอดตนตาย พหูทุกขํอนุโภมิ เสวยเทวศหลายเหลือแหล่ มามากแต่ละชาติไซ้
๏ นัตถิเมสระณํ ข้าบเห็นใครผู้หนึ่ง จะเปนที่พึ่งร่มเย็น จะเปนที่เร้นที่ซ่อน ใครจะช่วยพ้นมรณไภยเภท บมิได้มีเนตรในดึงษา เทวเทวคณาเสฐโฐ ข้าแต่อมราวัชรินท พระผู้เปนปิ่นเทวศ ประเสริฐพระเดชมหึมา ครอบครองสุราบริวาร ประดับศฤงฆารอมร ทูลบาทมุลิกรนรนารถ เปนภรรดาราชธิบดี สุชาดาศรีสมรมิ่ง ศุขสรรสิ่งประสงค
๏ ตวํหิเสฐโฐติโลกัสสมึ อันว่าพระองค์ผู้ประเสริฐ ล้ำเลอศเลอไตรภพ ฤทธิเลื่องลบจบสกล ติโลเกมังคลํเสฐโฐ เปนมิ่งมงคลตรีโลกย ช่วยดับโศรกสูรสาบ มล้างลอยบาปข้าพระองค์ ให้ชีพคงคืนสถิตย ขอบพิตรพระเจ้า ปกห่มร่มเกษเกล้า ข้าน้อยนิจกาล ๚
โคลง๏ โกษีสูรเทพท้าว | สวนา |
เทวันอันอ้อนอา | ราธไท้ |
ให้ดับสัพไภยยา | ยลยิ่ง |
ฤทธิองคจงจัดให้ | เหือดไห้ ฤๅมี ๚ |
๏ ตัสสตํวจนํสุตตวา สมเด็จนารถอำมรินทร ฟงงเทวิลทูลข่าว ทุกขทับท้าวถึงอาตม จะให้เทวราชช่วยร้อน ปิ่นเกล้าอมรตอบสาร
๏ นาหํเสฐโฐติโลกัสสมึ ดูกรเทวาวรวงษ อันว่าองคอาตมา ห่อนประเสริฐกว่าไตรภพ บมีฤทธิลบเลอศสกล โลเกนะมังคลํเสฐโฐ บเปนมงคลแห่งไตรแดน ประเสริฐกว่าแมนมร โลกยอาจดับโศรกสะส่าง อาจลอยมล้างบาปเบียน จะให้ชีพเสฐียรสถาพร ด่งงเทพนิกรจินดา จะสำฤทธิปราถนาท่านแล ๚
โคลง๏ เทวันครั้นตรัสแจ้ง | ศุภสาร |
ยอมยินอินทโองการ | กล่าวให้ |
ชวนกันจรัลจรถาน | พุทธภาค |
นั่งพร้อมน้อมนบไหว้ | กราบเกล้า ถวายพร |
๏ สักกัสสะวจะนํสุตตวา ส่วนสุปดิดเทเวศ ฟงงตรีเนตรตรัสตอบ ชื่นชมชอบอัชฌาไศรย ภิรมยในโสรมนัศ คะเหตตวาทิปธูปานิ จึงมีพระหัดถ์ถือปทีป ธูปเทียนรีบจรไคล กับท้าวสหัสไทยเทวราช ลงจากปราสาทรัตนา นราสะโทถิโตเยนะ บ่ายภักตราวิมลพรรณ สู่พระศรีสรรเพชญนารถ พระเสด็จอาศนที่ใด เทพจรไคลสู่สำนักนิ พระจอมจักราพาฬ ทีปธูปานิปูเชตตวา จึงถวายสการบูชา ทิพยคันธาทูลถวาย นมัศสิวายวรบาท วันทนานารถสยมพุทธ โอนมกุฎกราบเกล้า น่งงเคารพยนบเฝ้า ฝุบเฟี้ยมอภิวันท ๚
โคลง๏ มัฆวารกรานกราบเกล้า | ทูลถาม |
จอมภพสบสิ่งความ | ใคร่รู้ |
เทวบุตรอุดมนาม | สุปดิด |
กำม์หลังครั้งก่อนผู้ | เทพนี้ เปนไฉน ๚ |
๏ ตะทาเทวานะมินโทกํ ปางนั้นปิ่นอมรสูร จึงบังคมทูลพระสาศดา ด้วยคาถาเปนปถม เอโสสัตตะทิวะสำหิ ข้าแต่สยมพุทธบพิตร อันว่าสุปดิดเทวบุตร เจ๊ดวันจจุติจากที่ คติสุสัตตะสุชาโต จะตกอวิจีสาหัส แล้วจอุบัดิเจ๊ดชาติ จะทนทุกขสามารถเหลือใจ
๏ กิงปาปํกะตํปุภเภ ผลกรรมไฉนได้กระทำ จึงจะนำกำเนิด เจ๊ดชาติเกิดทุกขทน ขอพระแสดงผลแจ้งไซ้ ๚
โคลง๏ จอมธรรมสรรเพชญพร้อง | พจนา |
พญากรปัณหา | แห่งให้ |
ตรัสแสดงแจ้งเวรา | เทเวศ |
อินทราปรารพยได้ | จัดแจ้ง ใจจง ๚ |
๏ สักกัสสะวนํสุตตวา จึงพระทศพลวิสุทธิ สำพุทธอุดมสรณา ฟังอินทราทูลแถลง ตัสปัณหํพยากาสิ พระตรัสแสดงคาถา แก้ปฤษนาอำมะเรศ ด้วยเพื่อเหตุผลกรรม อันเทพนำแต่ก่อน บุภเภสักกะกิเรโสจิ ดูกรอมรโกษี เทพผู้นี้เปนมนุษย ใจบาปสุดสามาญ เปนนายพรานผู้ใหญ่ กะตํปาณาตีปาตำปิ ฆ่าสัตวในอรัญวาศ ปาณาติบาตเนืองนิจ บได้คิดลอายบาป เตนะกำมะวิปาเกนะ กรรมอันหยาบตามแต่ง ให้เปนแร้งเปนกา เสวยทุกขาอาเภท โสชาโตปุนะกุมโมจิ สมเด็จตรเนตรีท้าวทูล กรรมนุกูลไฉนเล่า จึงเปนเต่าติดตม บุภเภโสสะกะมานุเส จึ่งพระบรมโลกนารถ ตรัสแก่สูรราชเรืองเดช ว่าเทเวศผู้ไกร เมื่อเกิดในมนุษยนี้ เอาไข่ปักษีวิโยค มาบริโภคเปนนิจ เตนะกำมะวิปาเกนะ บาปตามติดอาตมา เปนกัฉะปาด้วยกรรม อันทำเองอาจิณ สุกกะโรปุนะชาโต สมเด็จสุรินทรากูล ว่าเทพแต่บูรณกรรมใด จึ่งกำเนิดในสุกร โสปิบุภเภมนุสโสปิ สมเด็จมุนีวรแสดงอรรถ ดูราวัชรินทรา อันเทวาผู้นั้น เปนมนุษยอันมีทรัพย เห็นพราหมณกับสังฆา อันยาจนาบิณฑบาตร ชายนั้นบอาจศรัทธา เห็นสมณาขึ้งโกรธ จิตรพิโรธฤษยา วัตตวาอนาทะรํวาจํ กล่าววาจามิพึงใจ แล้วก็บมิให้ทาน กรรมแห่งปานปางก่อน จึงเปนสุกรด่งงนี้ สุนะโขปุนนะโสชาโต ท้าวโกษีสารสนอง กรรมก่อนของเทวา แต่บูรรภาไฉนทำ จึ่งจำเปนสุนักขา ชาโตสักกะมานุสเส จอมจักราสรรเพชญ ญาณยลเสร็จแสดงสาร ดูกรมัฆวารวรนารถ เทวราชองคนี้ บุพกรรมมีเปนมนุษย วาจาผรุศร้ายครบ บได้เคารพยสรณา ท้งงพราหมณาอาบาจ กล่าวสารกาจทารุณ พุทธะธรรมะสังฆัสสะ บรู้จักคุณพระพุทธัศ ทั้งธรรมัศพิมง ทั้งคุณสงฆศิลสุท น้ำใจปทุษฐสาหัศ บรู้คุณพระรัตนไตร ผลกรรมให้เปนสุนัข เห็นแจ้งประจักตามเหตุ ภันเตโสพะธิโรชาโต จึ่งปิ่นเพชญปานี ทูลพระศรีสุคต ว่าอำมรศเทวบุตร จะเปนมนุษยหูหนวก ด้วยบาปบวกเปนไฉน เอโกวะทะลิทเทวะกุเล พระมารวิไชยไตรภพ แจ้งจัดจบจึ่งตรัส ดูกรท้าวสหัศไนยเนตร เทพวิเศศนี้ไซ้ เมื่ออุบัดิในมนุษยษา เปนทลิททายากพ้น บรู้ทำกุศลสืบไป อัญเญมนุสสาปิสัททาปะสันนา แม้นเห็นใครผู้อื่น เขาชมชื่นศรัทธา ฟงงเทศนาเรียงรัล เอโสทะลิทโทปะวิสะติปปิถานํ ชายผู้นั้นเข้าไป นั่งแนบใกล้ฝูงชน สุนาติธรรมมํวิยะโนสุณาติ ทำดุจตนจเสาวนา แล้วบนำภาจฟงงธรรม บาปให้กัณหนวกหนัก ชัจจันโทปะนะโสชาโต สมเด็จพระสูรศักนรินท ว่าข้าแต่มุนินชินราช กรรมบุพชาตินั้นคือ เทพทำดั่งฤๅอาเภท จึ่งให้นัยเนตรอันทการ จงพระอนันตญาณแสดงไข ปฤษนาในสารสุท เทวินทะเกโสกะโรติปุญญํ สมเด็จมกุฎไตรภพ เมื่อแสดงสบสิ่งกรรม ดูราสุชำบดีนารถ อันว่าเทวราชไกร เปนมนุษยในปางก่อน ทิสสวาปิโสพราหมาณะยาจะกานํ เห็นพราหมณจริยาจก ผู้ทลิทกขอทรัพย ทำดุจลับบแลเห็น บได้จักเจรจาด้วย เคหํปะวิถโถนิสีทิ เข้าเรือนรวยเร้นซ่อน นั่งเน่งนอนอยู่ลับ ยาจกกลับไปเปล่า บาปนั้นเล่าจึงเสียตา ด้วยเวรามาแต่หลัง จึ่งให้ทุกขังด่งงนี้ ๚
โคลง๏ อำมรินทยินพุทธพร้อง | พจนมาน |
แสดงเหตุเภทกรรมกาล | ก่อนไซ้ |
บังคมสมเด็จญาณ | ยลยิ่ง |
เชิญช่วยอวยชีพให้ | อยู่ย้งง ยืนยาว ๚ |
๏ ตะทาสักโกปิเทวินโท เทวินทรามัฆพาล ฟังศุภสารไพจิตร เสด็จมุนิศวรนารถ แจ้งแล้วราธนพระองค เทวปุตตานุภาเวนะ อัญเชิญบาทบงสาศดา ตรัสเทศนาไพเราะห เพื่อจะสมเคราะหเทวบุตร ด้วยพระธรรมอุดมเลิศ เกนะฆํปาละตุพันเต ข้าแต่พระผู้ประเสริฐเลิศฦๅ พระธรรมดั่งฤๅจรักษา เทวบุตรตาสุปดิด จะให้สถิตยสถาพรไป อุปัฌฌะติจะตํอายุง จบงงเกิดให้ชนเจรอญอภิรมย ด้วยธรรมอุดมเปนไฉน ขอพระองคได้กรุณา ๚
โคลง๏ สมพุทธวิสุทสร้อย | สาศดา |
จอมภพจบจักรา | ครอบเกล้า |
สดับรศพจอินทรา | ทูลทราบ |
ให้รงับดับโรคเร้า | ราษร้อน อันตราย ๚ |
๏ สัตถาอนุตตะโรโลเก พระปิ่นภพไตรมณฑล สุคตทศพลสยมพุทธ สรณะอุตมาจารย จบจักรวาฬบเทียมถึง สักกัสสะวะจะนํสุตตวา ฟังเจ้าไตรตรึงษนิมน ตรัสสืบอนุสนธิคาถา ด้วยพระกรุณาเปนนิจ อัดถิอุณหิสวิชะโย จึ่งเทศนาอุณหิตวิไชย อันต้งงในสรวงสวรรค อันว่าพระธรรมอันอุด ก็เปนมกุฎโลกา หาอื่นจะเปรียบปราบมิได้ สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ดูกรสหัสไนยเทวบุตร จงถือเอาอุตมธรรม เปนประโยชนสรรพสัตวไซ้ แม้นผู้ใดถือมั่น ปริวัตโชราชะทัณโท จะพ้นราชทันทท้าวไท จะปราศจากภัยปิศาจ ขวานฟ้าฟาดบต้องกาย พยัฆเฆนาเควิเสภูเส เสือแรงร้ายขบเขี้ยว พ้นงูเงี้ยวพิศมล้าง ภูตรมาญาบเบียนได้ อันว่าภัยหลายประการ ยังมิถึงบูราณกำม์ก่อน จอันตรายห่อนจักมี สัพพัสสมามรณามุตโต สรรพมลายชีวีปะจุบัน ให้ถึงอาสรรณหมีได้ เท่าเว้นไว้แต่ถึงถาน มรณกาลมาทัน จึ่งจะม้วยชีวันโดยกล ตัสเสวะอานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพมนตรคือพระธรรม ดูกรเทวบุตรอันนฤทุกข ท่านจงมีศุขทุกเมื่อ สุททะสิรํสมาทานํ อุดษาหเพื่อสมาทาน สุทธศิลสารเปนนิจ ปรพฤทธิสุจริตธรงธรรม ตัสเสวะอานุภาเวนะ ด้วยเดชะอันสุจริต เทวะสุปดิดจักมี สรรพศุขขีนิจกาล ลิขิตตํจินติตํปูชํ ผู้ได้อ่านได้เรียน ผู้ขีดเขียนลำฦกได้ ผู้จำไว้แลกล่าวธรรม บูชาสรรพเคารพย ได้นอบนบพระสธรรม ปเรสังเทสะนํสุตตวา ฟังท่านอันเทศนา ได้กล่าววาจาสำแดงธรรม ตัสสะอายุปะวัฒติ บุทคลผู้นั้นจจำเริญ อายุศมจำเรอญวัฒนา ด้วยเดชาพระธรรมนี้ จึงจักมีศุขา ๚
๏ สักกัตตวา กระทำบูชาสการมนัศ พุทธรัตนํ ซึ่งพระพุทธรัตนอดูลยา ธรรมรัตนํ ธรรมวชิราปรสีทธ สังฆะรัตนํ สงงฆนนิศชิโนรส โอสะถํอุตตมํ ก็เปนโอสถอุดมเลอศ วรํ อันประเสริฐนั้นโสต หิตตํ ให้เปนประโยชนทุกประการ เทวมนุสสานํ แก่เทวาแลมนุษยแล
พุทธเตเชนะโสดฐินา ด้วยเดชะพระพุทธจงสวัสดิ นัสสันตุปัถวา อันว่าอุปะทะวะในโลกย สัพเพทุกขะพะยาโศกา สรรพทุกขโศกโรคภัย วูปัสสะเมนตุ จงระงับไปอย่าพาล เต แก่ฝูงท่านถ้วนหน้า ๚
โคลง๏ พุทธรัตนตรัสเลิศแก้ว | เก่าการ |
ธรรมรัตนาปาน | เปรียบแพ้ |
สงงฆัศอัศฎาจารย | จอมโลกย |
สามสิ่งยิ่งรัตนแล้ | เลิศล้ำ แดนไตร ๚ |
๏ ผู้ใดได้แก้วกับ | กรคือ |
ไตรรัตนรับถือ | ถ่องแท้ |
จักกันอันตรายฤๅ | รุมรอด |
ทุกขโศกโรคเภทแพ้ | ผ่อนพ้น ภัยพาล ๚ |
๏ เภสัชชํเทวมนุสสานํ อันว่าเทพามนุษยใด แต่งยาให้เปนทาน เครื่องทุกปรการอุดม คือรศขมเผ็ดร้อน อำพิลํละวะณัญเจวะ เปรี้ยวเคมค่อนขวนขวาย ให้เขาหายพยาธิพลัน เอกัถถิติทินํวาปิ ให้ทานวันหนึ่งตาม เติมสองสามวันเสร็จ ห้าวันเจ๊ดวันมา ตราบเท้าโรคาเปลื้องปลิด ชื่อว่าให้ชีวิตรเปนทาน ชิวทานํทะทันตัสสะ ผู้ให้แก่นสารชีวิตรสัตว อายุวัฒนานัง รูปโฉมแลกำลังศุกขา ดูกรเทวาจงมี ศุขชีวีวัฒนา ชิวทานานิทัตตวานะ ด้วยเดชาให้ชีวิตร จเปนโอสถฤทธิประเสริฐ จบงงเกิดนฤโรคา สริระทุกขํนาเสติ ด้วยให้ยาเปนทาน เปนปรเสริฐสารในโลกย จะระงับโรคในกาย ดับกระวลกระวายพิรมยา ตัสสมากะระยะกัลญาณำ จงทำกุศลาสืบไป ส่ำสมให้เปนผล จได้สืบสกลเบื้องหน้า บุญญานิประโลกกัสสมิง อันบุญญาจะแต่งต้งง สรรพสัตวท้งงภพไตร ได้ศุขในปรโลกย ดับทุกขโศกศุกขสบาย อิมินาชิวทาเนนะ อันท่านท้งงหลายได้ศุกข ปราศจากทุกขร้อนรน นั้นได้ด้วยผลด่งงฤๅ คือให้ชีวิตรเปนทาน ทีฆายุกาสะทาโหนตุ จมีชนมานยาวยืน ศุกขชมชื่นนิจกาล ชิวทานํทะทันตัสสะ ด้วยให้ทานชีวิตรสัตว พระพรจัตุก็จักมี คืออายุชีวีกำลัง รูปสุนธรงงแลศุขสาร ทีฆายุกาสะทาโหนตุ อันให้ทานสิ่งอื่น บเท่าผลยืนยิ่งนี้ อันให้ชีวีทานนั้น ได้ผลอันเหลือนับ บรู้ที่จะปรับเปรียบได้ โยโสทะทาติสักกัสจํ ถ้าผู้ใดให้ผู้ธรงศิลสารอุเบกขา ผู้ธรงธรรมาสามารถ ด้วยสักกัจเคารพย สรรพทานบลบให้ชีวิตร กุศลปรสิทธประเสริฐกว่า เอวํมหิททิยาเอสา บริบูรณผลานิสงษยิ่ง ปราชญปรีชาจึ่งสรรเสริญ บุญนี้จเรอญชอบธรรม เปนมหันตมหิทธิ ด้วยบุญฤทธิโอฬา สุกโขวิปาโกบุญญานํ จให้ปราถนาสำเร็จ คิดได้เสร็จทุกอัน ผลบุญจบันดาน กฤษฎาธิการอันอุด ในชาติสุดอวสาร จให้ถึงนฤพานฉับพลัน อันเกษมสรรสำเร็จไซ้ เดชะได้ให้ชีวิตรเปนทาน คุณเห็นปานดั่งนี้แล ๚
โคลง๏ สยมพุทธอุตเมศไท้ | เทศธรรม |
ว่าชนคนใดอัน | อาจอ้าง |
ให้ทานมานชีพสรร | สบสัตว |
ยลยิ่งสิ่งอื่นส้าง | สุดแล้ว ฤๅถึง ๚ |
๏ โยโภชะนะสหัสสานิ บุทคลใดให้ทาน โภชาหารสบสรรพ ถึงถ้วนพันสำรับ อันเต็มสัพทุกปรการ บเท่าทานบิณฑบาตร อันอาจถวายครั้งเดียว ได้กุศลเยียวยิ่งกว่า พุทธุปปาโทสาลิปุตโต ในสาศนาสยมพุทธ พระสาริบุตรเปนปถม ท้งงพระบรมสาวก อันอื่นยกยอทาน แต่โบราณโดยหมาย เธอได้ถวายบิณฑบาตร ก็โปรดฝูงญาติกากร ท้งงมานดรบิดุเรศ พ้นจากเปรตวิไสย ด้วยผลได้ถวายทาน ตามมีสารคาถา อันพระตถาคตตรัสนี้ ๚
๏ วัชรินทรวรเทพไท้ | สุปดิด |
สองสดับสัพสารสิทธ | เสร็จแล้ว |
ไพเราะหเสนาะโสตรจิตร | เสิมศุข |
ปรีดาปราโมชแผ้ว | ผ่องพ้น สงสัย |
๏ สักโกธรรมมำปิสุตตวานะ ท้าวมัฆวาฬเรืองฤทธิ กับสุปดิดเทเวศ ฟงงธรรมเทศทศพล มีจิตรกระมลศรัทธา ปัศสันนาเหลื้อมใศร พิรมยในปราโมช ธนธัญญัญจะหิรัญญํ สุปดิดโสดศรัทธา ผลบุญญาอุดหนุน ให้เพิ่มพุนสมบัดิ สุวรรณรัตนแพรพรรณ มากครามครันเหลือหลาย อัตตนาปิฆะณํกัตตวา เทพจึ่งถวายไทยทาน อันโอฬารอลงกา แก่พุทธายิ่งยง กับคณสงฆปรสัษฐ อายุศมวัฒนสถาพร โสทะเวพุทธันตระกัปเป สองพุทธันดรโดยกล สืบซึ่งชนกว่าก่อน เดชะบวรพุทธคุณ ธรรมอดุลเดชา อานุภาวาสงงฆัศ จึ่งให้เจรอญสวัสดิปรากฎ เภสัชชํศิละทานัสสะ ด้วยให้โอสถเปนทาน สุทธศิลสารปรกอบกัน อานุภาพนั้นพันเอิญ จึ่งให้เจรอญชนศุกข สรรพทุกขอุบัดิทรบ ก็วินาศลบบเหลือเศศ ด้วยอาเภทผลบุญ อันอนุกุลนั้นแล ๚
โคลง๏ จบธรรมสรรเพชญพร้อง | พจนา |
เทวินอินทอำลา | ลาศเต้า |
บงงคมโสรมนัศศา | ปราโมช |
แสดงสดับทรับทราบเกล้า | กราบแล้ว ลีลา |
๏ สักโกเทวานะมินโทปิ จึ่งอมรสูรเทวราช กับนรนารถสุปดิด อำลาพระวิชิตมารา ถวายวันทนาสรับเสร็จ อินทก็เสด็จยูรยาตร สู่สุรราชพิมาน อันเปนนิเวศถานที่นั้น เทศนาปะริโยสาเน ครั้นจบธรรมเทศนา ฝูงเทวานับอนันต ซึ่งฟงงธรรมปราโมช ก็เปนปรโยชนอาตมา ลุถึงโสดาปติผล พ้นที่จคณาได้ เปนศุกขทุกขเทพไท้ ห้องฟ้าเสวยรมย ๚
โคลง๏ เสร็จรศพจนาทเจ้า | จอมภพ |
ปฤษนาพระญากรจบ | เสร็จไซ้ |
ฝูงเทพเสพยเคารพย | นองเนก |
ถึงผลดลมัดได้ | สู่ส้อง โสดา ๚ |
๏ พระคุณอุณหิตต้งง | ไตรตรึงษ |
ยงงมัคอัคธรรมถึง | เทพไท้ |
เปนปรโยชนโปรดดาวดึงษ | สูรราช |
วาศนานาคตได้ | ดับชั้น เมืองบน ๚ |
๏ อุณหิตลิลิตแกล้ง | เกลาการ |
รจนาห้าวันสาร | เสร็จไซ้ |
ฉะมีระวิวาร | แรมราศ |
มเมียอาสาทได้ | จบเรื่องบาฬี ๚ |
๏ พระพุทธอุดมด้วย | ปรีชา |
นิพนทพจนษารา | สืบไว้ |
สรรเสรอญเจรอญธรรมมา | เลิศแก้ว |
หวังสดับชนดนให้ | อยู่ย้งง ยืนยาว ๚ |
๏ พระอุณหิตวิไชย ลิลิต บริบูรรณ ๚