ประวัติย่อของพระสุนทรศีลาจารย์
นามเดิม จุ้ย สังฆนาม. อินฺทสฺสโร
----------------------------
เกิดณวัน ๑ ๑๔ฯ ๔ ค่ำ ปีมะแม จุลศักราช ๑๒๐๙ ตรงกับวันที่ ๔ เมษายน พระพุทธศักราช ๒๓๙๐ นามบิดา_นายอยู่ มารดา_นางจีบ
ชาติภูมิลำเนาเดิม ตำบลบางกะจ้าว อำเภอเมือง จังหวัดพระประแดง เมื่ออายุได้ ๙ ปีได้เริ่มเรียนอักขระสมัยในสำนักวัดกลางบางกะจ้าวจังหวัดพระประแดง จนอายุครบ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเปนสามเณร อยู่ในสำนักนิ์พระอาจารย์คงวัดจักรวรรดิ์ ฯ ไปจนอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ (นับปีได้ ๒๒ ปี) จึงได้กลับไปอุปสมบทเปนพระภิกษุที่วัดกลางบางกะจ้าวนั้นเอง พระอธิการม่วงวัดปริวาศเปนอุปัชฌายะ พระครูบุรคณาจารย์เป็นกรรมวาจาจารย์ พระญาณสังวรเปนอนุสาวนาจารย์ ครั้นเมื่อได้อุปสมบทเปนพระภิกษุแล้ว จึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดจักรวรรดิราชาวาศ ตั้งแต่นั้นมาได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรมและวิปัสสนาธุระบ้างพอสมควร แต่มิได้เข้าสอบไล่ในที่ประชุม กับได้เล่าเรียนวิชาพิเศษประเภทโหราศาสตรอิกด้วย
ครั้นต่อมาได้รับสมณะศักดิ์ในตำแหน่งถานานุกรมของพระโพธิวงศาจารย์ (เส็ง) วัดจักรวรรดิ์ ฯ นี้ตามลำดับ ตั้งแต่พระครูใบฎีกา พระครูสังฆรักษ์ พระครูวินัยธร
จนถึงปีพระพุทธศักราช ๒๔๔๓ จึงได้รับพระราชทานสัญญาบัตร์เปนพระครูสุนทรศีลาจารย์ ตำแหน่งพระครูพิเศษ รับพระราชทานนิตยภัตรเดือนละ ๖ บาท
ครั้นพระพุทธศักราช ๒๔๕๘ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร์เลื่อนสมณะศักดิ์เปนพระสุนทรศีลาจารย์ ฯ ตำแหน่งพระราชาคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาศวัดจักรวรรดิ์ ฯ ได้รับพระราชทานนิตยภัตรเดือนละ๑๒ บาทตลอดมา
เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๙ พระสุนทรศีลาจารย์ได้เริ่มอาพาธด้วยโรคชะรากระเสาะกระแสะเปนลำดับมา อาการมีแต่ทรงกับซุด บรรดาศิษยานุศิษย์ได้เปนธุระเชิญแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ มีนายพันเอกพระยาดำรงแพทยาคุณผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ของสภากาชาดสยาม มาตรวจอาการ แพทย์ตรวจแล้วลงความเห็นว่าไม่มีโรคอันใด นอกจากความชะราของร่างกายอันเนื่องแต่ความมีอายุมากนั้นเอง
ครั้นถึงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙ เวลา ๑ นาฬิกาหลังเที่ยง ก็ถึงแก่มรณะภาพ ด้วยอาการปรกติดุจนอนหลับไป หาได้มีอาการกระวนกระวายอย่างใดไม่
ศิริอายุได้ ๗๘ ปี ๑ เดือนกับ ๑๘ วัน จำนวนพรรษาในการอุปสมบทได้ ๕๘ พรรษา ในการนี้ได้รับพระราชทานหีบทองที่บรรจุศพเปนเกียรติยศ
ส่วนคุณธรรมของท่านนั้น มีปรากฎว่า ท่านเปนผู้เคร่งครัดในวินัยบัญญัติและจริยาวัตร์เปนอย่างยิ่ง แม้แต่ในคราวอาพาธจนมีอาการหนักปานฉนี้ ท่านก็หายอมล่วงวิกาลโภชนาหารแม้แต่เล็กน้อยไม่ นอกจากนี้ท่านยังเปนผู้ที่มีวุฒิเชี่ยวชาญในทางโหราศาสตร์ จนเปนที่พึ่งของบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายด้วยอิกโสตร์หนึ่ง
ส่วนน่าที่ในการบำรุงพระพุทธศาสนานั้นคือ
๑ สมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงพระกรุณาโปรดตั้งให้เปนคณะกรรมการสงฆ์ในวัดจักรวรรดิ์ราชาวาศตลอดมา
๒ รับภาระการปฏิสังขรและซ่อมแซมศาลาใหญ่ปลายสพานยาว วัดจักรวรรดิ์ ฯ อันหลวงไมตรีวานิช (เซ่งเกียด) ได้จัดสร้างถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ต่อจากเจ้าของซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้วเปนต้นมา
๓ เปนหัวน่าจัดการปฏิสังขรณ์กุฎีสงฆ์ในคณะใต้ของวัดจักรวรรดิ์ราชาวาศ
สิ้นประวัติย่อของท่านเจ้าคุณสุนทรศีลาจารย์เพียงเท่านี้