แผนที่กรุงศรีอยุธยา

ฉะบับได้มาใหม่ต่อจากที่พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) ทำคำอธิบายไว้

----------------------------

อนึ่งเรือใหญ่ท้ายแกว่งชาวเมืองพิศณุโลก บรรทุกน้ำอ้อยยาสูบสรรพเครื่องฝ่ายเหนือ มาจอดขายแต่หน้าวัดกล้วยลงมาจนปากคลองกอแก้ว ๆ นั้นเรือใหญ่ปากกว้างหกศอกเจ็ดศอก มอญบรรทุกมะพร้าวห้าวไม้แสมเกลือมาจอดขาย ๑ อนึ่งศาลาเกวียนนั้นเทศกาลเดือนสามเดือนสี่ ต่างและเกวียนเมืองโคราชสีมา บรรทุกรักขิผึ้งปีกนกผ้าตะรางผ้าลายบัวสี่คืบหน้าเกบ และหนังเนื้อเอนเนื้อแผ่น มาตั้งตลาดขายที่ศาลาเกวียน ๑ บ้านวัดสมอวัดขนุนวัดขนานนั้น ชาวบ้านแขวงเมืองวิเศศไชยชาญล่องเรือ บรรทุกเข้าเปลือกมาจอดขาย และชาวบ้านนั้นตั้งโรงสีโรง โรงกระเดื่องซ้อมเข้าสีเข้าขายสำเภาแลโรงเล่า ๑ บ้านปากเข้าสาลจีนตั้งโรงต้มเล่าขาย อนึ่งเรือระแหงแขวงเมืองตาก แลเรือหางเหยี่ยวเพชบูรรย์นายม บรรทุกครั่งกำยานเหลกหางกุ้งไต้หวายชั้นน้ำมันยางยาสูบ สรรพสินค้าตามแขวงตามย่านมาจอดเรือขาย ๑ บ้านขนมตานรับเรือเภาเรือพ่วงขาย ๑ บ้านสกัดน้ำมันหุงขิผึ้งแดงขิผึ้งขาวแลเชยน้ำมันงาขาย ๑ บ้านคลองสวนพลูจีนต้มเล่าเลี้ยงหมูขายบ้านคลองเกลือ ตั้งโรงสีโรงกระเดื่องสีเข้าซ้อมเข้าขายโรงเล่าแลสำเภา ๑ บ้านยี่ปุ่นรับกงสำเภากงเรือน้อยใหญ่ไว้ขาย ๑ บ้านข้างกำแพงหัวเลี้ยวสาระภา ตั้งโรงย้อมครามขาย ๑ บ้านน้ำวนบางกะจะเรือปากไต้ปากกว้างสามวาสิบเอดศอก ลูกค้าจีนแขกทอดสมอขายน้ำตานกรวดน้ำตานทราย สาคูกำมะถันจันแดงหวายตะค้ากะแชงตานีสรรพเครื่องปากไต้ แลลูกค้าไทจีนนั่งร้านแพขายสรรพสิ่งของต่าง ๆ กัน ๑ ครั้นถึงมระสุมเทศการลูกค้าสำเภาจีน แลลูกค้ากำปั่นสุรัดอังกฤษฝรั่งโลสงแลฝรั่งหมากเกาะ มาทอดสมอกำปั่นสำเภาอยู่ท้ายคู ขนสินค้าขึ้นมาอยู่ตึกในกำแพงกรุง ฯ ตามอย่างตามภาษาขายของ ๑ หน้าถ้าปตูถ้าหอยนั้นเรือลูกค้าชาวชะเลมาจอดเรือ ขายหอยรากหอยตะพงปูชะเลแมงดา ๑ ย่านป่าจากขายเชือกกะแชงหวายชันน้ำมันยาง อนึ่งเรือจากปากเก้าศอกสิบศอกมาจอดขายจาก ๑ ย่านบ้านวัดขุนพรหมเขียนผ้าภิมแลทำโลงขาย ๑ ย่านบ้านท่ากายีนอกกำแพงกรุง ฯ แขกฟั่นเชือกเปลือกมะพร้้าว ตีสายสมอยาวเส้นหนึ่งสามสิบวาขายนายกำปั่นสุรัดอังกฤษ ๑ ย่านบ้านท้ายคูแขกจามทำเสื่อลันไตน้อยใหญ่ขาย ๑ อนึ่งเรือแขกชะวามะลายู ปากเก้าศอกสิบศอก บรรทุกหมากเกาะหวายตะค้า กะแชงตานีสรรพสินค้า มาทอดขายของอยู่ที่คลองคูจาม ๑ บ้านถ้าราบรับผะเนียงหูไว้ขาย จีนแขกฝรั่งวิลันดาซื้อไว้ใส่ครามใส่ปูน ๑ บ้านสกัดน้ำมันหลังวัดพุไทสวรรค์ตีสกัดน้ำมันงาขาย ๑ บ้านอกกำแพงชะใกร ขายเสารอดพรึงแลแพไม่ใผ่ อนึ่งเรือปากหกศอกเจ็ดศอกชาวบ้านญี่สานบ้านแหลมบางทะลุ บรรทุกกะปิน้ำปลาปูเคมกะพงคุเราปลาทูกะเบนย่างมาจอดเรือขาย ๑ บ้านปูนวัดเขียนทำปูนขาย ๑ บ้านพระกรานจับปลาหมอเกราะหามมาเร่ขาย ชาวกรุงซื้อปล่อยเทศกาลกรุดสงกรานต์ บ้านวัดลอดฉองแขกจามทอผ้าไหมผ้าด้ายขาย ๑ บ้านหน้าวัดราดพรีวัดธระมา ขายโลงแลเครื่องสำหรับศภ ๑ บ้านป้อมหัวพวนขายนกอังชันนกกะจาบดาย แลเร่ขายนกศรีชุมภูนกปากตะกั่วนกกะจาบ ให้ซื้อปล่อยเทศกาลกรุดสงกรานต์ แม่น้ำหัวแหลมหน้าวัดภูเขาทองไต้สารเจ้านางหีนลอย จีนตั้งโรงสุราแลเลี้ยงหมูขาย ๑ อนึ่งเรือใหญ่ท้ายแกว่งชาวเมืองสวรรคโลกบรรทุกสินค้าฝ่ายเหนือมาจอดตามริมแม่น้ำ แลในคลองวัดมหาธาตุตามเทศกาลหน้าน้ำ อนึ่งโรงเรือพระธินั่งซ้ายขวาโรงละลำ แต่ละโรง ๆ นั้นยาวเส้นห้าวาก็มีเส้นหนึ่งก็มี แต่ล้วนเสาเหลี่ยมหลังคามีภาไลซ้ายขวา มีฉ้อฟ้าหางหงษ์ โรงเรือขวาเรียงกันมาถึงริมวัดตีนถ้า มีโรงเรืออยู่บนบกที่ศาลากระเวน ใส่ศีศะพระครุทภาหน์ เรือพระธินั่งกำปาง โรงเรือซ้ายอยู่คู่ไม้ร้องเรียงกันมาถึงริมวัดตีนถ้า มีโรงเรืออยู่บนบกใส่ศีศะพระหงษ์ภาหน์ เรือพระธินั่งกำปางแลเรือพระครุทธ์ภาห์พระหงษ์สองลำนี้ สำหรับทรงเสด็จออกไปประภาศทรงเบดปลาฉนากฉลามกกลางชะเล อนึ่งเรือพระธินั่งกิ่งใหญ่ชื่อแก้วจักมณีขวา ๑ สุวรรณจักรัตซ้าย ๑ เรือพระธินั่งกิ่งรองทรงชื่อสุวรรณพิมานไชยขวา ๑ สมมุติพิมารไชยซ้าย ๑ เรือแก้วคอกรองขวา ๑ สาลิกาล่องลมซ้าย ๑ เรืองทองแผ่นฟ้าซ้ายขวา เรือเอกไชยซ้ายสี่ลำขวาสี่ลำ เรือศีศะนาคซ้าย ๑ ขวา ๑ ใส่สังเคดยอดจตุรมุข ทรงพระพุทธรูปไปหน้าเรือพระธินั่งกิ่ง ในโรงเรือนั้นขุดอุ่ทุกโรง มีทำนบหน้าโรงมีเสาตะม่อทุกโรง ถ้าจะเอาเรือขึ้นคานเปิดทำนบหน้าโรงเสีย แลน้ำไหลเข้าไปตามอู่ แล้วเอาคานพาดเสาตะม่อไว้ ครั้นน้ำลงแห้งท้องเรือก็ตั้งอยู่บนคานแล้วปิดทำนบไว้ แลเรือพระธินั่งศรีศักลาด เรือพระธินั่งกราบซ้ายขวา แลฝีภายห้าร้อยนี้บ้านโพเรียงบ้านพุทเลาเปนพนักงารได้ภาย ให้พระอินเทพพิเรนเทพตำหรวจใหญ่ซ้ายขวาบังคับด้วยแล โรงช้างพลายพังขึ้นรวางมีชื่อโรงช้างพลายมีผนังก่อหลังคามุงกระเบื้องมีฉ้อฟ้าหางหงษ์ ไส่โรงละตัว ตั้งขวามือแต่หัวถนนหน้าวังตราไประยะห่างคั่นถนนโรงหนึ่ง ไปจนหัวเลี้ยวถนนป่ามะพร้าวแลโรงช้างพังตั้งซ้ายมือโรงละสิบห้องสิบห้าห้องใส่ห้องละตัว ตั้งแต่หัวถนนป่าตะกั่วไปจนช่องตะภารช้างแลโรงม้าต้นซ้ายขวา ตั้งตามถนนนอกกำแพงท้องสนามหน้าจักรวัติ ตึกโรงม้าต้นขวาตั้งหัวถนนตลาดเจ้าพรมขวามือ หลังศาลพระบันะชันสิงห์ไปยาวสิบห้าห้องใส่ห้องละตัว หน้าตึกโรงม้ามีเกย แลโรงม้าแซรงห้อต่อไปอีกสามโรงจนถึงกำแพงวัดพระราม ตึกโรงม้าต้นซ้ายตั้งหัวถนนตลาดเจ้าพรามซ้ายมือ หลังศาลสุภาไชยแพ่งกระเษม โดยยาวสิบห้าห้อง ใส่ห้องละตัวหน้าตึกโรงม้ามีเกย แลโรงม้าแซรงในต่อไปอีกสองโรงถึงริมกำแพงวัดธรรมฤคราช แลโรงม้าไชยห้าห้องอยู่มุมกำแพงวัดธรรมฤคราชตรงปตูจักมหิมา โรงม้าแซรงนอกอยู่ริมถนนตะแลงแกงซ้ายโรง ๑ ขวาโรง ๑ อยู่หัวถนนป่าผ้าเขียวโรง ๑ ป่าตองโรง ๑ พระคลังในอยู่ริมกำแพงนอกวังป่าสระแก้ว ๑ พระคลังราชการอยู่ริมถนนหน้าวัดป่าฝ้าย ๑ พระคลังสินค้าอยู่ป่าตอง ๑ พระคลังใส่เบาะแลสำหรับแผ่นดินกรุง ฯ พระคลังษาระภากรในนอกอยู่ริมถนนตลาดเจ้าพรม ๑ พระคลังแสงสารพายุทธ์อยู่ริมคลองลครบาลตรงวัดศรีเชียงสองโรง พระคลังตึกใส่ลูกปืนดินผสิวอยู่น่าวัดจันทน์หลังวัดสังกะปัด ๑ ตึกพระคลังสำหรับใส่บาศช้างแลเชือกอยู่ริมวัดยาณุเสน ถึงปีมีลครโขนหนังช่องระทาสมโพชทุกปี อนึ่งมีคุกสำหรับใส่คนโทษโจรผู้ร้ายปล้นสะดมแปดคุก มีตะรางหน้าคุกสำหรับใส่ลูกเมียผู้ร้ายทุกหน้าคุกซึ่งโทษเบาเปนแต่โทษเบดเสจ์ ใส่โซ่พวงละเก้าคนสิบคนใช้ทำราชการเมือง ที่โทษหนักต่อวันพระห้าค่ำแปดค่ำสิบเอดค่ำสิบห้าค่ำ จึ่งใส่พวงคอพวงละญี่สิบสามสิบคน และเมียผู้ร้ายนั้นใส่กรวนเชือกผูกเอวต่อกันไป ผูกติดท้ายพวงคอออกมาเที่ยวขอทานกิน อนึ่งที่ตะแลงแกงนั้นมีหอกลองมีซุ้มยอดทาแดง หอกลองนั้นสามชั้นสูงเส้นสิบวา แลชั้นยอดนั้นคอยดูข้าศึกศรัตรู ชื่อมหาฤกษ์ ชั้นกลางคอยเพลิงจะไหม้ ชื่อพระมหาระงับดับเพลิง ถ้าเพลิงไหม้ฟากแม่น้ำนอกกรุง ฯ คาดกลองสามที ถ้าเพลิงไหม้เชิงกำแพงแลในกำแพงกรุง ฯ คาดกลองกว่าเพลิงจะดับ ชั้นต้นใส่กลองใหญ่สำหรับตีย่ำเที่ยงย่ำสันณิบาดเพลาตวันยอแสง พลบค่ำตามประเวณีกรุงแต่ก่อนมาชื่อพระทิวาราตรีแลกรมพระนครบาลได้รักษา ผู้รักษานั้นเลี้ยงวิลากันมิให้มุสิกะกัดกลอง ครั้นเวลาเช้าเยนเกบเบี้ยร้านตลาดหน้าคุก แต่ในจำหล่อจนหอกลองเข้าไปร้านละห้าเบี้ย สำหรับซื้อปลาย่างให้แมวกิน อนึ่งมีคุกสำหรับใส่คนโทษทำการสำเภาแลเรือรบ ขุดอู่นอกกำแพงมำทำสำเภาทรงพระราชสารคุกหนึ่ง คุกป่าจากสำหรับทำสำเภาหูทรงคุกหนึ่ง คุกวังไชยทำเรือรบคุกหนึ่ง อนึ่งครั้นต้นปีกลางปีข้าทูลลออง ฯ จะรับพระราชทานกินน้ำพระพิพัฒสัจา แลสังกรีเชิญพระคัมภีร์เข้าไปตั้งในพระวิหารหลวงณวัดพระศรีสรรเพชร์ พระพิมลธรรมกับสงฆสี่รูปสวดพระพุทธมนต์ กำนันแสงเชิญพระแสงต้นไปตั้งตามพนักงาน สนมเชิญพระเต้าน้ำทองคำสามองค์นากสามองค์เงินสามองค์ทองเหลืองสามองค์ นางเลี้งใหม่ห้าใบ แลพระมหาราชครูประโรหิตาจารย์ พระครูมหิธรอ่านคาถาพระราชโองการแช่งสาบาล พระครูพิเชดเอาผ้าขาวพันท์มือซ้ายขวา รับพระขรรค์ไชยศรีงาช้างเผือกงาดำ ทองคำรัดงาห้าเปลาะประดับพลอยถมราชาวะดี กับพระแสงกฤช ๑ กระบี่ ๑ กั้นหยั่น ๑ ดาบ ๑ ง้าว ๑ ขอ ๑ หอก ๑ พระครูพิรามผ้าขวาพันท์์มือซ้ายขวา เอางานแล้วรับพระแสงส่งพระครูพิเชดๆ เอางานแลรับพระแสงแทงลงที่พระเต้าน้ำนั้นครบสามทีทุกพระเต้าแลนางเลี้ง แล้วส่งพระแสงให้ศระศรีสาตร ๆ ถือผ้าขาวเนื้อดีผืนหนึ่ง คอยรับพระแสงเชดทุกองค์ แล้วส่งให้กำนันแสงๆเอางานแล้วรับพระแสงเชิญเข้าฝักตามพนักงานเสจ์แล้ว จึ่งเจ้าพญาแลพญาพระหลวงท้าวนางข้างใน ถวายบังคมหอพระเชตอุดร แล้วแล้วบรรดาเจ้าพญาพระหลวงขุนหมื่น มหาดเลกชาวที่ชาววังพันทนายฝ่ายทหารพลเรือน นายท้ายช้าง นายม้าจูงม้า รับพระราชทานน้ำพระพัฒพร้อมกันข้างหน้าพระลานพระวิหารหลวง ฝ่ายท้าวนางข้างในกับภรรยาเจ้าพญาหลวงขุนหมื่นทั้งปวงนั้น อยู่ในพระระเบียงท้ายจระนำหลังพระวิหารหลวง จึ่งพระสีสาตรหลวงอัทยาหลวงเทพดาจารย์ แลพราหมณ์มีชื่อสามคน เอาน้ำพระพัฒเข้าไปแจกให้รับพระราชทานแล อนึ่งเปนหลักกรุงเทพมหานครศรีอยุทธยาราชธานีใหญ่นั้น คือพระมหาประสาทสามองค์กับพระมหาธาตุวัดพระราม ๑ วัดหน้าพระธาตุ ๑ วัดราชบุณะ ๑ แลพระมหาเจดียถานวัดสวนหลวงศภสวรรค์ ๑ วัดขุนเมืองใจ ๑ กับพระพุทธปะฏิมากรวัดพระศรีสรรเพชร์ ๑ วัดมงคลบพิท ๑ แลนอกกรุงเทพ ฯ นั้น คือพระมหาเจดีย์ยถานวัดเจ้าพญาไทสูงสองเส้นหกวา ๑ วัดภูเขาทองสูงสองเส้นห้าวา ๑ กับพระประธารวัดเจ้าพะแนงเชิงของพระเจ้าสามโปเตียนช่าง ปิดกรวมเงาดวงแก้วยอด พระเจดียวัดเจ้าพญาไทป่าแก้วตกตำบลที่นี้นอกกรุงเทพมหานครแล ฯ

  1. ๑. อักษรวิธีตามฉะบับเดิม

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ