๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ในพจนศาสน์ว่า ปรินายกานาม
เดโชวโรราม วรฤทธิเรืองไชย ฯ
๏ ถึงแสนพระยาหนาน กรท่านคยดใด
โดยด้วยณราไซร้ และนิวัตสลัดหนี ฯ
​๏ คลาไคลบได้เว้า คณะเราณมนตรี
ล่าล่วงพหลลึ ฤจะคิดประการใด ฯ
๏ ฤๅว่าบขึ้นเขต นคเรศพระทรงไชย
ฤๅว่าจะแข็งไว้ กรแจ้งแถลงเรา ฯ
๏ เราไซร้ก็จักขับ พลสัประยุทธ์เอา
หักหาญประการเข้า นคราชธานี ฯ
๏ กุมสณทั้งหลาย และถวายพระจักตรี
ให้สิ้นณบุรี นคเรศประเทศลาว ฯ
๏ เสร็จสิ้นรบิลศาส์น ชนการชเวด้าว
ดลเขตณแสนท้าว ชนะทรงลิขิตไข ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ ฝ่ายเจ้าแสนหลวงแจ้งใน
ศาสน์เดโชไชย จึงถ้อยลิขิตสนองสาร ฯ
  ๏ ตูเราตอบรศพจน์มาน
ถึงท่านผู้ชาญ นายกสยามทวยไท ฯ
  ๏ เมื่อท่านยกโยธาไคล
ต้านต่อชิงไชย อังวะธิราชธานี ฯ
  ๏ เราหมายจะได้บุรี
จึงยกโยธี ไปช่วยต่อต้านชิงชัย ฯ
  ๏ หวังว่าเปนข้าท้าวไทย
สยามกุรุงไกร ที่พึ่งพำนักแห่งเผือ ฯ
  ๏ นี้ท่านบได้กลับเมื้อ
เราชาวเขตเหนือ เคยขึ้นอังวะบุรี ฯ
  ๏ เราแกลนอิศราบดี
ภูกามธานี กระทำประหารโทษตน ฯ
  ๏ แม้ว่าอังวะยกพล
ลงมาประจญ เบียดเบียนย่ำยีบีฑา ฯ
  ๏ ตัวท่านจะรับเปนภาร์
ธุระแห่งรา นั่นและจะขึ้นทวยไท ฯ
  ๏ แม้ว่าช่วยเราบได้
บขึ้นกรุงไกร สยามประเทศธานี ฯ
  ​๏ จักขึ้นอังวะบุรี
ด้วยว่าเปนที่ พำนักที่พึ่งก่อนมา ฯ
  ๏ เสร็จสิ้นรบิลสารา
ทรงให้ชนคลา สู่ที่ค่ายล้อมทัพไท ฯ
  ๏ ชนักลาวไต่เต้าเร็วไว
ดลถึงค่ายใหญ่ ยื่นให้แก่นายโยธี ฯ
  ๏ แล้วกลับนิวัติจรลี
สู่เวียงบุรี แจ้งกิจเสร็จสิ้นยุบล ฯ
  ๏ บัดนั้นทั้งสองจอมพล
เดโชฤทธิรณ พระยากำแพงศักดา ฯ
  ๏ ทราบสิ้นรบิลสารา
รู้ในปัญญา พระยาแสนหลวงแข็งเมือง ฯ
  ๏ จะยุทธ์ด้วยเราผู้เรือง
ทำให้แค้นเคือง ชนชาวประเทศนคร ฯ
  ๏ จึงเตรียมโยธานิกร
สองหมื่นราญรอน เคยต่อเคยต้านชิงชัย ฯ
  ๏ ครั้นเวลาสิ้นแสงไถง
ยกโยธาไคล เข้าใกล้ริมเชิงปราการ ฯ
  ๏ โห่ร้องกึกก้องสท้าน
เสทื้อนดินดาน ไหวหวั่นสนั่นธรณี ฯ
  ๏ เร่งขับพหลโยธิ
ปีนขึ้นน่าที่ บ้างฟันบ้างฟาดศาสตรา ฯ
  ๏ บ้างยิงหน้าไม้ปืนยา
พวกบนประการ์ บ้างต่อบ้างต้านอลวน ฯ
  ๏ บ้างแทงบ้างรับสับสน
ต่างทานต่างทน บย่นบย่อต่อกร ฯ
  ๏ บ้างพุ่งแหลนหลาวโตมร
บหยุดบหย่อน จนรุ่งตลอดราตรี ฯ
  ๏ ทวยไทบได้ธานี
เดโชฤทธี ก็ล่าพหลนิกร ฯ
  ๏ เข้าพักในค่ายหยุดหย่อน
ภุญชะเน่งนอน พักผ่อนพหลโยธา ฯ
  ๏ ครั้นแล้วก็ยกไคลคลา
ตั้งรบประดา ต่างฟันต่างฆ่านองเนือง ฯ
  ๏ โยธาทวยไทตายเปลือง
ด้วยพลชาวเมือง ประหัดประหารลาญชนม์ ฯ
  ๏ อาหารกันดานขัดสน
กำลังไพร่พล ก็ทดก็ถอยน้อยไป ฯ
  ๏ จะหักเอาเวียงบได้
พลเมืองต้านไว้ ทุกด้านน่าที่กวดขัน
  ​๏ แต่ตั้งรบราฆ่าฟัน
ล่วงได้สิบวัน บได้เชียงใหม่บุรี ฯ
  ๏ ทั้งสองนายกฤทธี
ปฤกษาคดี นายทัพนายกองพร้อมเพรียง ฯ
  ๏ แต่เราทั้งหลายตีเวียง
ชาวเมืองบเอียง บได้ประมาทชิงชัย ฯ
  ๏ ครั้นเราจะตั้งยุทธ์ไป
โยธาพลไพร่ ก็ย่อก็หย่อนอ่อนลง ฯ
  ๏ บอบซ้ำแต่ครั้งณรงค์
อังวะปลดปลง ชนม์ชีพมลายหลายพัน ฯ
  ๏ เสบียงก็น้อยถอยสั้น
ฝืดเคืองนักคร้น เห็นว่าไป่ได้บุรี ฯ
  ๏ อย่าเลยจ้กแต่งสารศรี
ถวายพระจักตรี ให้ทราบพระราชหฤทัย ฯ
  ๏ แล้วเราจึงคิดกลไก
เผาเมืองเชียงใหม่ ให้สิ้นเสียทั้งภารา ฯ
  ๏ แล้วจึงยกพลโยธา
เลิกทัพไคลคลา เหนว่าห่อนเสียท่วงที ฯ
  ๏ ถึงว่าบได้ธานี
เผาให้ป่นปี้ ให้คงแต่เปลือกเมืองมูล ฯ
  ๏ ปฤกษาเสร็จสิ้นจำนูล
ลิขิตศาสน์ทูล นเรศธิเบศท้าวไท ฯ
  ๏ เสร็จแล้วชนม้าคลาไคล
สองพระยาเกรียงไกร ก็เร่งตระเตรียมโยธา ฯ
  ๏ คชอัศวนรา
บอบทุพลพา รีบเร่งล่าล่องก่อนไคล ฯ
  ๏ ล่วงได้สามเวรแล้วไซร้
เดโชเรืองไชย ก็สั่งพหลโยธา ฯ
  ๏ ทำลูกธนูเพลิงมา
พันหนึ่งบช้า ก็เสร็จสำเร็จโดยไว ฯ
  ๏ ครั้นประถมยามล่วงไป
นายกทวยไทย ก็เคลื่อนพหลโยธา ฯ
  ๏ โอบอ้อมล้อมเปนปีกกา
เข้าตีประดา ทุกด้านน่าที่มีฉาว
  ๏ เสียงพลโยธาเกรียวกราว
ฝ่ายข้างพวกลาว คอยรับคอยรองป้องกัน ฯ
  ๏ โยธาทวยไทยแขงขัน
ยิงปืนสนั่น คะคึกคะครื้นธรณี ฯ
  ๏ ปล่อยเพลิงอังแพลมทันที
เข้าในบุรี ทุกด้านที่ล้อมพร้อมกัน ฯ
  ๏ ตกต้องหลังคาเรือนนั้น
ธุมาเปิดควัน อัคคีก็โชติเพลิงโพลง ฯ
  ๏ ไม้ไล่แตกดังผางโผง
ทุกบ้านทุกโรง โชติช่วงสว่างเวหา ฯ
  ​๏ ติดเนื่องโพลงพลามลามมา
ทั่วทั้งภารา ชาวเวียงก็ตื่นอลวน ฯ
  ๏ ต่างๆวิ่งแล่นสับสน
บ้างรื้อบ้างขน เข้าของอึงอื้อวุ่นวาย ฯ
  ๏ อุ้มลูกจูงกันแหล่หลาย
ร้องไห้ฟูมฟาย พิลาบอักอ่วนอักแอ ฯ
  ๏ ลูกเล็กเด็กน้อยเซ็งแซ่
พลัดพ่อพลัดแม่ กำสรวญครวญคร่ำร่ำหา ฯ
  ๏ ฝ่ายพวกน่าที่ปราการ์
รบรับต้านหน้า ต่างแกล้วต่างกล้าแข็งแรง ฯ
  ๏ กลอกกลับสัปประยุทธ์เข้มแขง
แลเห็นเพลิงแดง สว่างทั่วทั้งภารา ฯ
  ๏ ต่างๆเสียใจนักหนา
บ้างลงปราการ์ จะไปเคหาแห่งตน ฯ
  ๏ บ้างละน่าที่ลลานลน
นายกองต้อนพล บให้ไปคลาดคลาไคล ฯ
  ๏ เข้าของเสียหายยกไว้
อย่าให้เวียงไชย เสียแก่อริณไพรี ฯ
  ๏ ช่วยกันต้อนพลโยธี
รบอยู่น่าที่ คอยรับคอยรองป้องกัน ฯ
  ๏ ฝ่ายพวกพลไทยไม่พรั่น
ต่อยุทธ์พัลวัน กลุ้มรุมปีนขึ้นปราการ์ ฯ
  ๏ ชาวเมืองแทงตกลงมา
บเข้ากายา ตั้งหน้ารอญรันฟันฟอน ฯ
  ๏ เหนื่อยหอบบอบช้ำเต็มอ่อน
บได้นคร นายกให้ถอยพลคลา ฯ
  ๏ เข้าค่ายผ่อนพักกายา
ล่วงสองยามมา ก็ยกโยธาคลาไคล ฯ
  ๏ ตามมารควิถีแนวไพร
รุ่งแสงอุไทย ก็ลุเมืองเถินบุรี ฯ
  ๏ หยุดหย่อนผ่อนพักโยธี
ลิขิตสารศรี ใบบอกถวายท้าวไทย ฯ
  ๏ จึงให้ชวม้าคลาไคล
ไต่เต้าเร็วไว โดยตามวิถีมรรคา ฯ
  ๏ แล้วจึงรีบยกโยธา
ลุถึงภารา นามกำแพงเพ็ชร์บุรี ฯ
  ๏ พร้อมทัพพวกพลโยธี
คอยท้องตรามี นเรศธิเบศท้าวไทย ฯ

๏ สุรางคณางค์ ๚

  ๒๘ กัษนั้นเวียงลาว
ประเทศไทยท้าว แสนหลวงเชียงใหม่
ทวยไทยเผาเมือง ขุ่นเคืองวุ่นไป
ทั่วทั้งเวียงไชย ประเทศธานี ฯ
  ๏ ต่างๆไห้ร่ำ
อุระฟกช้ำ ปิ่มจะเปนผี
เข้าของทั้งหลาย ฉิบหายมูลมี
ยินแต่โสกี อึงมีร่ำไร ฯ
  ๏ เมื่อทัพไทยล่า
บได้นำพา ยกติดตามไป
ด้วยว่าสลวน สับสนดับไฟ
ง่วงเหงาเศร้าใจ บไต่ตามมา ฯ
  ๏ ฝ่ายชนพาชี
เร่งรีบจรลี ไต่เต้ามรรคา
ลุถึงนคร รีบร้อนไคลคลา
ส่งเวรสารา ยื่นให้ทันใด ฯ
  ๏ ฝ่ายท่านเสนี
แจ้งในคดี ขึ้นเฝ้าทรงไชย
กราบทูลรบิล จนสิ้นความใน
ให้แจ้งพระไทย สิ้นทุกประการ ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ฝ่ายองค์ธิเบศวิศณุกฤษณ์ วรฤทธิ์มหาสาร
ทราบสิ้นยุบลพลทหาร พยุห์ทัพณรงค์รณ ฯ
๏ จึงมีพระราชวรประสิทธิ์ นุประกิจประการกล
โปรดให้นิวัตพลพหล นคราชกุรุงไกร ฯ
๏ จึงสั่งบดีสุรมหา นรราชทันใด
ให้เร่งลิขิตวจนุไข ศุภศาสน์สนองศาสน์ ฯ
๏ มนตรีสดับมธุรรศ วรพจน์วโรงการ
รับราชประภาษบรมผ่าน ณภิภพธานี ฯ
๏ รจน์ศุภศาสนวรา นุประการะถ้วนถี่
โดยในประภาษนฤบดี ธิบดินทร์ธบัญชา ฯ
๏ เสร็จสิ้นรบิลวจนศัพท์ ชนรับชเวคลา
ไต่เต้าวิถีจรบช้า จรดลณทัพพลัน ฯ
๏ ยื่นให้กะนายกพหล อนุสนธิ์พระทรงธรรม์
โปรดให้พหลพยุหขัน- ธนิวัตพระบุรี ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ บัดนั้นนายกโยธี
รับเอาศาส์นศรี ธิเบศนเรศจอมไตร ฯ
  ๏ จึงผินผันภักตร์น้อมไป
บังคมท้าวไทย บรมบาทธิราชจักตรี ฯ
  ๏ แล้วฉีกผนึกศาสน์ศรี
พจน์วากย์วาจี ตามในราชศาสน์สารา ฯ
  ๏ ศาสน์องค์อิศราชราชา
ถึงท่านโกษา นายกอธิบดี ฯ
  ​๏ จงท่านนิวัตโยธี
โดยในศาสน์ศรี เผือโปรดให้ท่านรีบมา ฯ
  ๏ ด้วยเปนเทศกาลฝนฟ้า
พหลโยธา ทุพลภาพป่วยตาย ฯ
  ๏ อดยากอาหารมากมาย
สูเจ้าทั้งหลาย รีบเร่งคอยคุมโยธา ฯ
  ๏ เลิกทัพกลับเข้าภารา
โดยเผือบัญชา ให้เสร็จสิ้นทุกประการ ฯ
  ๏ ครั้นสิ้นรบิลในสาร
นายกผู้ชาญ ชื่นชมโสมนัศปรีดา ฯ
  ๏ เร่งรีบควบคุมโยธา
เสร็จแล้วบช้า ก็เลิกพหลโยธี ฯ
  ๏ ไต่เต้าโดยมารควิถี
ล่วงลุธานี ชวนกันขึ้นเฝ้าท้าวไทย ฯ
  ๏ ทูลแถลงแจ้งเล่ห์กลใน
การยุทธ์ชิงชัย ให้ทรงทราบทุกประการ ฯ
  ๏ แล้วถวายคชแสะสาร
ชนชเลยม่าน วัตถุทั้งหลายนาๆ ฯ
  ๏ ทรงฟังเปรมกระมลปรา
โมทย์ในวิญญา พระภักตร์เธอเพ็ญผ่องใส ฯ
  ๏ สรรเสริญโกษาเกรียงไกร
สมควรเปนใหญ่ นายกปราบหมู่ไพรี ฯ
  ๏ พระราชทานศฤงฆารมากมี
ทั่วทั้งโยธี นายทัพนายกองครบครัน ฯ
  ๏ ครั้นเสร็จพระเสดจผายผัน
สู่มณเฑียรพลัน สถิตย์ที่สถานไท ฯ
  ๏ เสวกนิวัตคลาไคล
สถานตนๆไป สู่ที่สถิตย์ก่อนกาล ฯ

๏ สุรางคณางค์ ๚

  ๒๘ กัษนั้นฝ่ายเจ้าเมือง
นครสวรรค์แจ้งเรื่อง ข่าวคชสาร
ลิขิตใบบอก กองนอกทวยหาญ
ได้คชาชาญ เผือกผู้สำคัญ ฯ
  ​๏ สูงสี่สอกเศษ
งามล้ำไอยเรศ อรเอี่ยมผิวพรรณ
สรรพางค์พร้อมูล บริบูรณ์สิ่งสรรพ์
คล้องได้เขตขันธ์ สวรรค์บุรี ฯ
  ๏ ขอท่านเสนา
นำเอาสารา ทำนูลจักตรี
โดยลิขิตใน บอกไว้ถ้วนถี่
ให้ทราบธุลี บงกชท้าวไทย ฯ
  ๏ ลิขิตบอกแล้ว
ให้ชนคลาดแคล้ว ลงนาวาไคล
ชนมารคมรรคา โดยชลาไลย
บันลุกรุงไกร นครธานี ฯ
  ๏ จึงนำใบบอก
ทรงเวรข้างนอก ยื่นให้มนตรี
ท่านจงทำนูล ตามมูลคดี
โดยในบอกนี้ สิ้นทุกประการ ฯ
  ๏ ฝ่ายท่านเสนี
ทราบในคดี ขึ้นเฝ้าภูบาล
ถวายบอกคชา ส่งมาบนาน
ขอพระภูบาล จงทราบกิจจา ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ปางองค์พระจักกฤษ ะณฤทธิราชา
ทราบเหตุณคชา ธเสวตวิเศษศรี ฯ
๏ ทรงโสมนัศชื่น สรรื่นธปรีดี
จึงองค์พระจักตรี มธุรศบัญชา ฯ
๏ สั่งแก่ณมนตรี ธิบดีกระษัตรา
จัดแห่กระบวนคลา ชลมารควิถีธาร ฯ
๏ พร้อมด้วยณเสนี ธิบดีและทวยหาญ
กรมพวกคชาชาญ จรรับเสวตร์ดล ฯ
๏ มนตรีธสั่งการ ชวชาญก็เร่งพล
จัดแห่กระบวนซล พยุห์สรรพโยธี ฯ
๏ พร้อมพรั่งนิกายกร ธก็ผ่อนนุนาวี
โดยแนวนทีลี ชลมารคมรรคา ฯ
๏ ดลถึงนครเขต ลุประเทศคชาคลา
นำสูณพ่วงพา หนะที่สถิตย์ธาร ฯ
๏ ส่ำแห่ โห้ร้อง สุรก้องชลาลาน
เคลื่อนพ่วงคชาชาญ จรจากประเทศไคล ฯ
๏ พิณพาทย์และดนตรี ก็สะนี่สนั่นไป
คฤกคร่ำชลาไลย ก็อุโฆษคะครื้นเครง ฯ
๏ สังข์แตรก็แซ่ซ้อง เสนาะก้องประโคมเพลง
ปี่สุก็บันเลง สุระเรื่อยฉะเฉื่อยหวาน ฯ
​๏ ชาวเมืองก็เนืองแน่น ชวแล่นละลนลาน
ทอดทัศนาสาร ดลท่าชลาไลย ฯ
๏ ชมโพธิสมภาร นฤบาลธิเบศไทย
นาๆนครใด บมิเทียบจะเปรียบปาน ฯ
๏ แซ่ศัพทสำเนียง สุระเสียงฉะฉาวฉาน
ในท้องนทีธาร ลุนครกุรุงไกร ฯ
๏ ทอดเทียบประทับที่ จรลีณทันใด
ส่ำแห่ก็นำไคล จรเร่งพิธีการ ฯ

๏ สัททุลวิกกีฬิตฉันท ๚

๑๙ กันนั้นพราหมณ์ปุโรหิตาจริยจารย์ อ่านมนต์พิธีสาร พิเศษ ฯ
๏ โสรจสรงคชวิลัยและล้ำอภิเสวตร์ แล้วอวยพิไสยเวท ประเสริฐ ฯ
๏ ขอให้สุขสวัสดิ์พิพัฒน์อุดมเลิศ ทุกข์ภัยบห่อนเกิด พะพาล ฯ
๏ ให้พ่อเนาวเจริญวสันตชนมาน โรคาบมาราญ ขจัด ฯ
๏ จงมีจิตต์วรแผ้วสโมสรมนัศ ตามคำนุศาสน์วัจน์ สั่งสอน ฯ
๏ ขอเชิญเทพยทุกคณาคณนิกร อำรุงณกุญชร คชา ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ ครั้นเสร็จสรงแล้วบช้า
สมโภชไอยรา สังข์แตรแซ่เสียงบันเลง ฯ
  ๏ พิณพาทย์ฆ้องกลองครื้นเครง
โขนหุ่นงิ้วเพลง อีกทั้งละครมอญลำ ฯ
  ๏ โมงครุ่มเทพทองร้องลำ
หนังจับระบำ เครื่องเล่นต่างต่างนานา ฯ
  ๏ สมโภชเสวตร์คชา
ครบเจ็ดทิวา ประทับสู่ที่โรงใน ฯ
  ​๏ จึงจอมธิเบศกรุงไกร
ประสาทนามให้ แก่คชเสวตร์สมยา ฯ
  ๏ ให้นามตามเนื่องแนวมา
ชื่อเจ้าพระยา บรมคเชนทรฉัตร์ทันต์ ฯ
  ๏ พร้อมเครื่องอาภรณ์สุวรรณ
อลังการมหันต์ ขจิตรรัตนมณี ฯ
  ๏ สำหรับประดับกายี
พระยาดำรี เสวตร์คชสารบวร ฯ
  ๏ ประทานขุนหมื่นนิกร
บำรุงกุญชร คร่าวเลี้ยงผดุงรักษา ฯ
  ๏ ตั้งให้ผู้คล้องไอยรา
ขุนหมื่นอาษา กองนอกบอกช้างสำคัญ ฯ
  ๏ เงินตราเสื้อผ้ารางวัล
แต่ผู้คล้องนั้น ให้ครบถ้วนทั่วทุกนาย ฯ
  ๏ ตราภูมิคุ้มห้ามทั้งหลาย
ประทานมากมาย โปรดให้นิวัตแห่งตน ฯ
  ๏ ทำมาหากินขวายขวน
เลี้ยงบุตรสกนธ์ โดยที่สถิตย์ก่อนมา ฯ
  ๏ ฝ่ายผู้บำรุงรักษา
เจ้าพระยาคชา ค่อยฝึกค่อยสอนผ่อนปรน ฯ
  ๏ ให้รู้ภาษานรชน
โดยสั่งยุบล กิจรบอบที่ชอบนานา ฯ
  ๏ แม้ใครต้องราชอาญา
พระจอมนรา ธิเบศนเรศท้าวไทย ฯ
  ๏ บมีผู้หนึ่งผู้ใด
ทูลขอจอมไตร ให้พ้นซึ่งราชอาญา ฯ
  ๏ จึงรจน์ลิขิตสารา
บนเจ้าพระยา บรมคเชนทร์ฉัตร์ทันต์ ฯ
  ๏ ว่าให้วัตถุสิ่งนั้น
รับเอาสารพลัน คอยถวายจอมเจ้าจักตรี ฯ
  ๏ ฝ่ายองค์พระทรงธรณี
เสดจเยื้อนดำรี ถึงพระยาเสวตร์คชา ฯ
  ๏ จึงเจ้าพระยาไอยรา
งวงจับสารตรา จบแล้วถวายท้าวไทย ฯ
  ๏ พระองค์ทรงรับเร็วไว
วรวากย์คำใน ศาสน์ศรีแจ้งสิ้นเสร็จสรรพ์ ฯ
  ๏ จึงพระราชทานโทษผู้นั้น
ให้แก่ฉัตร์ทันต์ เจ้าพระยาเสวตร์คชสาร ฯ
  ๏ นักโทษออกได้บนาน
จึงให้บนบาน วัตถุทั้งหลายโดยพลัน ฯ
  ๏ แก่เจ้าพระยาสารนั้น
เสร็จสิ้นครบครัน โดยในลิขิตบนบาน ฯ
  ๏ จำเดิมแต่นั้นบนาน
แม้ข้าราชการ ผู้ใดต้องโทษอาญา ฯ
  ๏ จึงรจน์ลิขิตสารา
บนแก่คชา ตามว่าก่อนกี้เบื้องบรรพ์ ฯ
  ๏ ไอยราก็ทำเช่นนั้น
ถวายพระทรงธรรม์ เธอก็โปรดประทานทุกคราว ฯ
  ๏ พระกฤษฎานุภาพยืนยาว
แผ่ผ่านทั่วด้าว ต่างต่างประเทศนานา ฯ
  ๏ ด้วยท้าวมีพระคชา
พลายพังเปนพา หนะธิเบศจอมไตร ฯ
  ๏ นวลลอองเสวตร์ผ่องศรีใส
นานากรุงใด จะเปรียบจะเทียมห่อนมี ฯ
  ๏ ทุกหมู่อริณไพรี
บได้ย่ำยี ด้วยแกลนพระเดชเดชา ฯ
  ๏ กัษนั้นธิบดีโกษา
อุบัติโรคา กระทำพิบัติเบียดเบียน ฯ
  ๏ จักให้ชีวิตจากเจียน
อันตังคลื่นเหียน วาโยกระทบสุมนา ฯ
  ๏ สับส่ายกระหายเวทนา
รุมรึงโรคา บหวั่นบไหวสกนธ์ ฯ
  ๏ จึงจอมนเรศมณฑล
ทรงทราบนุสนธิ์ ดำรัสให้แพทย์เยียวยา ฯ
  ๏ รักษาเจ้าพระยาโกษา
บคลายโรคา โรคนั้นกำเริบหนักลง ฯ
  ๏ กระทำชีพิตปลดปลง
บได้คืนคง ชีวาพินาศลายลาญ ฯ
  ๏ นักงานทำนลภูบาล
โกษาผู้ชาญ ถึงแก่อาสัญลาญชนม์ ฯ
  ๏ ท้าวทราบแดดาลกระมล
ฤทัยทุกข์ทน ชลเนตร์คร่าวเนตร์ซ้ายขวา ฯ
  ๏ บอาจอดกลั้นชลนา
กรรแสงโหยหา อักอ่วนพิลาบสงสาร ฯ
  ๏ ด้วยว่าโกษาผู้ชาญ
เปนบุตร์นงคราญ พระนมธิราชราชา ฯ
  ๏ ได้ร่วมพระถันธารา
กับองค์ผ่านหล้า จอมภพธิราชกรุงไกร ฯ
  ​๏ เธอจึงดับโศกสร่างใน
พระหฤทัย ให้ทุกข์บันเทาเสื่อมหาย ฯ
  ๏ จึงมีพจนารถภิปราย
สั่งเสนานาย เร่งรัดจัดแจงตระการ ฯ
  ๏ ทำเมรุมาศตระการ
บรรเจิดอุฬาร ศพเจ้าพระยาโกษา ฯ
  ๏ เสนารับราชบัญชา
เร่งรีบไคลคลา กระทำเมรุมาศเร็วไว ฯ
  ๏ กะเกณฑ์เครื่องตั้งตรอดไตร
ดอกไม้กลไฟ การเล่นเต้นรำมากมูล ฯ
  ๏ จึงทูลสมเดจนเรนทร์สูร
เสร็จแล้วบริบูรณ์ โดยพระบัญชาจอมไตร ฯ
  ๏ ป่างองค์ธิเบศเรืองไชย ฯ
จึงเสด็จคลาไคล สู่เมรุมาศโดยพลัน ฯ
  ๏ ถวายไทยทานสงฆ์นั้น
เสร็จทั้งสามวัน ก็พระราชทานอัคคี ฯ
  ๏ รุ่งโรจน์โชตนาแสงศรี
เสร็จแล้วภูมี เสด็จกลับนิเวศวังสถาน ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ กัษนั้นนรินทรกษัตริย์ วรขัติยไชยชาญ
เนาว์เหนือพระรัตนพิมาน วรอาศนรำไพ ฯ
๏ พร้อมเสวกาคณทหาร ก็ขนานสพรั่งไป
เฝ้าบาทพระจอมวรไผท สุรถ้อยสดับสาร ฯ
๏ จึงเปล่งพระสุรสิหนาท ธประภาษวโรงการ
ปฤกษาพระยาคณหาร วรเสวกากร ฯ
๏ แสนหลวงพระยานครนี้ ทรภีณแต่ก่อน
ลวงเล่ห์คยดกลและหลอน กรหลอกและลวงเรา ฯ
๏ ลิ้นล่ายประจบกรประแจง และก็แข่งนครเอา
โดยเลศและลอบจรนุเข้า ปะทะยุทธ์พหลพล ฯ
/*75 */๏ ตูคิดจะยกพหลรุท กรยุทธ์ณรงค์รณ
บำราบพระยานครยล อริราชมลายลาญ ฯ
๏ ปวงสูจะเห็นผิวไฉน กรไขณคำขาน ฯ
ให้แจ้งประจักษ์กระมลญาณ กรชางฤทัยรา ฯ
๏ ฟังพจนารถบรมวงศ์ อภิพงศ์ธบัญชา
ส่ำเสวกาคณพระยา ธประณตประนมทูล ฯ
๏ พรรคข้อยก็ยลดุจพระองค์ หริพงศ์นเรนทร์สูร
ควรที่จะก่อยุทธนประยูร รยะยาตร์ณรงค์รณ ฯ
๏ ทรงฟังภเณจรจะนูล มหิสูรนราชน
ตรัสสั่งบดีสุรพหล มหิพลธเกรียงไกร ฯ
๏ สูเร่งตระเตรียมพลทหาร อภิสารทหารไชย
สักสี่ณหุตณพลไทย ทวีสัตดำรี ฯ
๏ อิกจัตตุรัฐถิหยชาติ อุสุนาดธนูตรี
พร้อมสรรพยุทธ์อสิจุรี กรเสร็จตระเตรียมการ ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ แล้วสุนทรารศ วรพจนบรรหาร
ให้หาภเณปาน ธประนตประนังคัล ฯ
๏ ท้าวเธอประทานนาม กรตามณพงศ์พันธุ์
แทนเชษฐอาสัญ กรนั้นณก่อนกาล ฯ
๏ แล้วมีบรมราช ธประภาษสนองสาร
ดูก่อนภเณปาน ธิบดีณโกษา ฯ
๏ ขุนเหล็กอเชฐท่าน ​ธก็ชาญนุปรีชา
นายกพหลพา หนะปราบริปูแกลน ฯ
๏ เผือนี้จะให้ท่าน บรินายิกาแทน
ยกพลณด้าวแดน นคเรศประเทศลาว ฯ
๏ ตีเอาณเชียงใหม่ กรได้ฤแกลนอ่าว
กุมเอาณแสนท้าว นุประสงค์ถวายรา ฯ
๏ ทำได้บห่อนได้ จะไฉนยุบลมา
ให้แจ้งฤทัยปรา กฎแท้กระแสใน ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ บัดนั้นโกษาชาญไชย
บังคมทูลไท นเรศธิเบศภูบาล ฯ
  ๏ ข้าบาทขอลองเศิกชาญ
ขอพระราชทาน อาญาสิทธิ์ทรงธรรม์ ฯ
  ๏ เหมือนพระราชโองการนั้น
ลองเศิกมหันต์ ได้แล้วจะรับอาษา ฯ
  ๏ บำราบอริภารา
เชียงใหม่กุมมา น้อมเกล้าถวายท้าวไทย ฯ
  ๏ ป่างองค์กฤษณราชฤทธิไกร
ทรงโสมนัศใน วรวัจโกษาทำนูล ฯ
  ๏ สรรเสริญปัญญามากมูล
องค์นเรนสูร พระราชทานตาวแสงทรง ฯ
  ๏ ให้แก่โกษาผู้ยง
โดยในประสงค์ อาญาสิทธิ์บรรหาร ฯ
  ๏ โปรดให้รับพระโองการ
เหมือนองค์ภูบาล จอมภพนเรศท้าวไทย ฯ
  ๏ เธอจึงอำนวยพรชัย
ท่านจงคลาไคล ลองเศิกโดยเล่ห์กลการ ฯ
  ๏ เมื่อนั้นโกษาผู้ชาญ
ได้พระราชทาน อาญาสิทธิ์ตาวจอมไตร ฯ
  ๏ น้อมเศียรบังคมคลาไคล
สู่สาลาไล สถิตย์ประทับสั่งการ ฯ
  ๏ ดูราเสวกทหาร
เร่งเร็วบนาน เกณฑ์พรรค์พหลโยธา ฯ
  ๏ สามพันไต่เต้ามรรคา
ตั้งค่ายประดา แทบที่พเนียดจงพลัน ฯ
  ๏ โดยฉวางสามเส้นสำคัญ
โดยที่แวงนั้น ให้ได้สามเส้นสิบวา ฯ
  ๏ แล้วสูตัดเวฬุมา
ตั้งค่ายปีกกา เอาปลายเวฬุปักตรง ฯ
  ๏ อีกทั้งสนามเพลาะแวดวง
รายเรียงขวากลง เสร็จรุ่งสามนาฬิกา ฯ
  ๏ แม้เราไปเลียบทัศนา
ผู้ใดยังช้า บทำให้เสร็จทันการ ฯ
  ๏ ตูจักลงโทษประหาร
ผู้นั้นมลาญ ชีวิตให้ม้วยบันไลย ฯ
  ๏ มนตรีทั้งหลายฟังใน
พจนคำไข โกษาบดีบัญชา ฯ
  ๏ ต่างต่างแกลนเดชอาญา
เร่งรีบไคลคลา กะเกณฑ์ทุกหมวดทุกนาย ฯ
  ๏ ได้พลสามพันโดยหมาย
ต่างตนผันผาย ตัดลำเวฬุนั้นมา ฯ
  ๏ ชนหนึ่งโทท่อนไคลคลา
ดลเขตบช้า ก็ปันน่าที่โดยไว ฯ
  ๏ ต่างต่างปักค่ายเรียดไป
ปลายปักลงใน แถวที่ภาคย์พื้นสุธา ฯ
  ๏ บ้างขุดมูลดินขึ้นมา
แวดวงปราการ์ โรยขวากโรยหนามตามกัน ฯ
  ๏ เร่งทำในราตรีนั้น
พฤสุริยัน ก็เสร็จสิ่งสรรพทันใด ฯ
  ๏ กัษนั้นขุนหมื่นหนึ่งไซร้
ยลค่ายห่างไป จึงกลับเอาต้นปักลง ฯ
  ๏ แซกเข้าเสาหนึ่งโดยจง
ใจตนประสงค์ จะไห้ชิดสนิทด้วยดี ฯ
  ๏ ผู้นั้นจึงกล่าววาที
เขาทำดังนี้ แต่ครั้งเบาราณก่อนมา ฯ
  ๏ ซึ่งปลายปักลงสุธา
ไม่เคยทัศนา แต่ก่อนบห่อนเคยมี ฯ
  ๏ แล้วเสร็จพร้อมสิ้นน่าที่
พวกพลโยธี ก็พักอยู่ที่แหล่งตน ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ครั้นรุ่งทิวากร อรชรณอำพล
ส่งแสงณเวหล สุริย์ใสอุทัยศรี ฯ
​๏ โกษาวราฤทธิ์ สุมหิทธิเมธี
สั่งพรรคเสนี จรเร่งตระเตรียมการ ฯ
๏ ให้พร้อมกระบวนพา หนะขัติยไพศาล
เครื่องราชบดีภาร บริโภคณสิ่งสรรพ์ ฯ
๏ ทันนาฬิกาสาม กรตามแลให้ทัน
แล้วตูจะจรจัล ชลมารคมรรคา ฯ
๏ เสร็จสั่งคดีการ ชนงานก็คลาดคลา
เตรียมพลกระบวนพา หนะเสร็จณสิ่งการ ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ บัดนั้นโกษาผู้ชาญ
พร้อมพรรคบริวาร ก็สู่พระที่นั่งนาวา ฯ
  ๏ เวไชยันต์มหา
พิมานรจนา อำพลด้วยแก้วอำไพ ฯ
  ๏ พร้อมด้วยเครื่องสูงไสว
เสวตร์ฉัตร์ชัย พัดโบกจ่ามรบังกัน ฯ
  ๏ บังแทรกบังแซงสุริยัน
กลดกลิ่งชิงกรร อภิรุมชุมสายแสงศรี ฯ
  ๏ มเหาฬารเลิศรุจี
พร้อมด้วยเสนี เสวกทั้งหลายรายเรียง ฯ
  ๏ นาวาชนิดคู่เคียง
น่าหลังพร้อมเพรียง แม้นเหมือนสมเด็จจอมไตร ฯ
  ๏ ครั้นได้ศุภฤกษโดยใน
ให้ลั่นฆ้องชัย ประโคมแตรสังข์ดนตรี ฯ
  ๏ โหรทึกกึกก้องเภรี
โครมครืนนัทธี เพียงจะพินาศทำลาย ฯ
  ๏ แล้วเคลื่อนพยุหขยาย
กระบวนพลพาย แห่แหนแน่นตามชลที ฯ
  ๏ ตราบเท่าล่วงลุเทียบที่
โกษาบดี ขึ้นจากนาวาจรจัล ฯ
  ๏ สู่ที่พลับพลามหันต์
สถิตย์ที่อาศน์พลัน เดียรดาษด้วยมุขมนตรี ฯ
  ​๏ แวดล้อมซ้ายขวามากมี
แล้วจึงจรลี ขึ้นสู่สถิตย์สารทรง ฯ
  ๏ พร้อมด้วยเครื่องสูงทวนธง
ไพโรจน์รหง พิรียพหลโยธา ฯ
  ๏ แห่แหนขนัดแน่นหนา
เคลื่อนพลยาตรา ยลค่ายโดยแนววิถี ฯ
  ๏ จึงหันไม้ลำหนึ่งมี
ต้นลงธรณี น่าที่ผู้ใดตัวมา ฯ
  ๏ ขุนหมื่นผู้นั้นไคลคลา
ดลแล้วบช้า กียุบก็ยอบหมอบกาย ฯ
  ๏ โกษาจึงพจนภิปราย
ดูกรทนาย สูปักเวฬุต้นลง ฯ
  ๏ จริงฤๅบอกเราโดยตรง
อย่าหลอกลวงหลง สูกล่าวแต่สัจจริงไป ฯ
  ๏ ขุนหมื่นจึงรับคำไข
ตูข้าทำไว้ แม่นแท้อย่างนั้นสัจจา ฯ
  ๏ จึงเจ้าพระยาโกษา
พจน์วากย์วาจา ลเมิดโองการแห่งเรา ฯ
  ๏ โทษถึงตัดฉะเพาะเกล้า
สูทั้งหลายเอา ตัวไปประหารชีวี ฯ
  ๏ นักงานคุมพาจรลี
ตัดเกล้าเกษี ชีวิตทำลายลาญชนม์ ฯ
  ๏ ศีร์ษะเสียบไว้ที่บน
ปลายไม้แห่งตน ทำอย่างให้เปนสำคัญ ฯ
  ๏ โกษากระทำครั้งนั้น
ให้ชนขยั่น เข็ดคร้ามอำนาจอาญา ฯ
  ๏ แล้วจึงลงสู่นาวา
กลับเข้าภารา ขึ้นเฝ้าไทยท้าวกรุงศรี ฯ
  ๏ ทูลแถลงแจ้งเหตุภูมี
ให้ทราบคดี ที่ไปลองเศิกทุกประการ ฯ
  ๏ แล้วทูลอาษาภูบาล
บำราบบำราน เชียงใหม่ถวายท้าวไทย ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ ป่างว่าสุเทพนาถ สุรราชเรืองไชย
ฟังพจนารถไข ธิบดีธทำนูล ฯ
๏ ทรงโสมนัศชื่น อุระรื่นฤดีพูล
ภักตรานเรนทร์สูร ดุจจันทรแจ่มศรี ฯ
​๏ เธอจึงประกาศนาม วรตามณมนตรี ฯ
โกษาสุเมธี บรินายะกำหาญ ฯ
๏ แล้วเธอก็ทรงจัด ยุกระบัตวิชิตชาญ
เกียกกายสุรินทร์ผลาญ ปจนึกปราไชย ฯ
๏ เดโชวโรฤท- ธิมหิศรเกรียงไกร
กองน่าพหลไคล อริปราบริปูแกลน ฯ
๏ สงครามกระบวนหลัง พลตั้งขนัดแน่น
สารกล้าและม้าแพน พลพร้อมนิกายกร ฯ
๏ ครั้นได้พิไชยฤกษ์ ธก็เลิกพหลจร
ครึกครื้นมเหธร ผิวแยกทลายลง ฯ
๏ ไต่เต้าณเถื่อนชัฎ ซรกัดชอื้อดง
ฝูงสัตว์ณพุ่มพง คครึกครื้นก็ตื่นหนี ฯ
๏ ครั้นย่ำก็แรมร้อน ธก็ผ่อนณโยธี
พรรคพร้อมณเสนี บริโภคสบายบาน ฯ
๏ รุ่งเช้าก็เคลื่อนพล จรดลณไพรสาณฑ์ ฯ
โดยมารคกันดาน ก็ลุเถินณบุรี ฯ
๏ นายกก็จัดสรรพ์ พลขันธ์และโยธี
หมวดกองณโดยที่ ณกระบวนณรงค์รณ ฯ
๏ แล้วเสร็จก็รีบรุท พลยุทธโดยดล
ถึงเขตณเวียงบน นคเรศประเทศลาว ฯ
๏ นายกก็ตั้งค่าย ระยะรายระเบียดยาว
ล้อมเขตณแสนท้าว ธก็มั่นประทับพล ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ บัดนั้นแสนท้าวเมืองบน
แจ้งข่าวเหตุผล ว่าทัพกรุงไทยยกมา ฯ
  ๏ ตั้งค่ายรายล้อมภารา
จึงรจน์สารตรา ใบบอกเชียงใหม่บุรี ฯ
  ๏ ให้ชนชวพาชี
ไต้เต้าจรลี รีบเร่งไปตามมรรคา ฯ
  ๏ แล้วแต่งค่ายคูภารา
หอรบปราการ์ น่าไม้ปืนยามากมี ฯ
  ๏ รายรอบไพร่พลโยธี
ทุกด้านน่าที่ คอยป้องคอยกันเวียงไชย ฯ
  ๏ เสร็จสรรพพร้อมกันมั่นไว้
ระวังทัพไทย จะเข้าแหกหักภารา ฯ
  ๏ กัษนั้นนายกโกษา
จึงมีบัญชา นายทัพนายกองด้วยพลัน ฯ
  ๏ สูจงเร่งรัดจัดสรรพ์
โยธามหันต์ เข้าตีเข้าหักบุรี ฯ
  ๏ ให้ได้เวลาวันนี้
จะได้จรลี ยกตีรีบรุทขึ้นไป ฯ
  ๏ จนถึงกระทั่งเชียงใหม่
สูอย่านอนใจ ตามคำแห่งเราบัญชา ฯ
  ๏ บัดนั้นนายกองโยธา
รับคำโกษา ต่างต่างตระเตรียมโยธี ฯ
  ๏ พร้อมเครื่องอาวุธมากมี
ปืนไฟทวนตรี ววับววาบปลาบแสง ฯ
  ๏ โยธาเริงร่าเข้มแข็ง
อาจหาญเรี่ยวแรง บอ่าวบคร้ามไพรี ฯ
  ๏ ได้ฤกษ์ให้เลิกโยธี
คฤกครื้นธรณี เพียงจะพินาศแหลกลง ฯ
  ๏ โอบอ้อมปราการแวดวง
ปล่อยปืนจารงค์ มณฑกนกสับทันที ฯ
  ๏ ตึงตังดังสนั่นโกลี
พรรคพวกโยธี ต่างตนแล่นไล่ชิงชัย ฯ
  ๏ ฟันฟาดศาสตราว่องไว
บ้างพุ่งขึ้นไป บนที่ปราการธานี ฯ
  ๏ ฝ่ายพวกชาวเวียงน่าที่
ต้อนพลโยธี รบรับประยุทธ์พัลวัน ฯ
  ​๏ บ้างพุ่งแหลนหลาวเกาทัน
บ้างรับบ้างฟัน บ้างหั้นบ้างห้ำร่ำไป ฯ
  ๏ ทวยไทยรับรองว่องไว
ต่างยุทธ์ชิงไชย พิฆาตเข่นฆ่าราวี ฯ
  ๏ ชาวเมืองบทนป่นปี้
ตายกลาดธรณี บอาจบหาญต้านทาน ฯ
  ๏ แต่ตั้งรบรับไทยหาญ
สามเวรวันวาร ไพร่พลก็ถอยน้อยลง ฯ
  ๏ บอาจจะยุทธ์ณรงค์
กลัวชีพปลดปลง ต่างต่างก็อพยพหนี ฯ
  ๏ บ้างแล่นเข้าหาโยธี
ชาวเชียงบุรี ก็หนีซุกซอนซ่อนไป ฯ
  ๏ เสียเมืองแก่พวกทวยไทย
โยธาพลไกร ก็ได้สิ่งของครามครัน ฯ
  ๏ คชาอัศวอนันต์
อาวุธสิ่งสรรพ์ หลายอย่างต่างต่างนานา ฯ
  ๏ หญิงชายเชลยนำมา
ทรงท่านโกษา นายกทุกสิ่งเสร็จสรรพ์ ฯ
  ๏ โกษาสั่งนายกองพลัน
ให้ยกโรมรัน บ้านเล็กเมืองน้อยรายเรียง ฯ
  ๏ ริบเอาเข้าของเสบียง
โภชนของเลี้ยง ได้เปนกำลังโยธา ฯ
  ๏ นายกองได้ฟังบัญชา
ต่างยกไคลคลา บ้านตีเมืองเนื่องไป ฯ
  ๏ บ้านเล็กเมืองน้อยไกลใกล้
แตกทนบได้ บ้างหนีบ้างหายวายชนม์ ฯ
  ๏ เข้าของทิ้งไว้เกลื่อนกล่น
ทวยไทยเก็บขน บ้างมัดบ้างคุมตัวมา ฯ
  ๏ สรรพยุทธ์อาวุธนานา
คชอัศวา ได้มาเหล่หลายมูลมี ฯ
  ๏ รีบรุทธ์ยงยุทธ์โยธี
ลุเขตร์บูรี นครลำพูนบัดดล ฯ
  ๏ นายกจึงให้พรรคพล
ตั้งค่ายวงวล เข้าโอบห้อมล้อมธานี ฯ
  ๏ ตั้งมั่นผ่อนผันโยธี
หายเหนื่อยอินทรีย์ จึงจะหักหาญชิงไชย ฯ
  ๏ นายกทำศึกเร็วไว
อำนาจเกรียงไกร แต่ครั้งลองศึกภารา ฯ
  ๏ นายทัพนายกองโยธา
จึงแกลนอาญา อำนาจเด็ดขาดโดยใน ฯ
  ๏ ฝ่ายเจ้าลำพูนเวียงไชย
ตระหนกฤทัย จิตต์ว้าประหม่าหวั่นขวัญ ฯ
  ๏ จึงเกณฑ์ไพร่พลทั้งนั้น
ให้ขึ้นป้องกัน รักษาน่าที่ปราการ ฯ
  ๏ รีบร้นสับสนอลมาน
ต่างต่างลนลาน เร่งรัดจัดกันวุ่นไป ฯ
  ๏ พร้อมสิ้นเสร็จสรรพฉับไว
อาวุธชิงไชย ถือมาถ้วนทั่วตัวคน ฯ
  ๏ วิ่งขึ้นปราการสับสน
ต่างคอยประจน รับรองป้องกันไพรี ฯ
  ๏ ถ้วนทั่วทุกด้านน่าที่
พรรคพร้อมโยธี คอยต่อคอยต้านชิงไชย ฯ
  ๏ บัดนั้นโกษาฤทธิไกร
ครั้นเถลิงไถง อำพรกระจ่างแจ่มศรี ฯ
  ๏ จึงสั่งนายกองโยธี
เร่งเร็วบัดนี้ สูจงตระเตรียมพลไกร ฯ
  ๏ ยกเข้าตีเอาเวียงไชย
ลำพูนเร็วไว อย่าละปล่อยไว้เนิ่นนาน ฯ
  ๏ ตรวจจัดพหลพลทหาร
หักเข้าปราการ ต้านน่ายงยุทธชิงไชย ฯ
  ๏ บัดนั้นนายกองยินใน
พจนคำไข โกษานายกบัญชา ฯ
  ๏ ต่างแล่นตรวจจัดโยธา
แซกแซงซ้ายขวา เปนหมวดเปนกองว่องไว ฯ
  ๏ หอกดาบโล่ดั้งปืนไฟ
พริบพร้อมพลไกร เยียดยัดขนัดแน่นดินดร ฯ
  ๏ ได้ฤกษ์เลิกพลนิกร
สเทื้อนสท้อน สุธาเพียงเขยื้อนเคลื่อนไหว ฯ
  ๏ เสียงพลโห่ร้องเอาไชย
สนั่นลั่นไป กึกก้องทั่วท้องธรณี ฯ
  ๏ รีบรุทพลยุทธโยธี
ประชิดบุรี หุ้มห้อมเข้าล้อมภารา ฯ
  ๏ ทวยไทยชาญไชยศักดา
อาจหาญแกล้วกล้า เคยปราบบำราบไพรี ฯ
  ๏ ต่างต่างเข้ายุทธราวี
หักเอาน่าที่ บ้างฟันบ้างฟาดศาสตรา ฯ
  ๏ บ้างยิงน่าไม้ปืนยา
หักหาญต้านน่า ประดากันเข้ายืนยัน ฯ
  ๏ ฝ่ายพวกน่าที่ผ่อนผัน
รับรองป้องกัน หักหันผันรับราวี
  ​๏ ปล่อยปืนครึกครื้นปัฐพี
ด้านต่อไพรี ต่างแกล้วต่างกล้ายันยง ฯ
  ๏ ทวยไทยห้ำหั่นบั่นลง
ชีวิตปลดปลง ตายกลาดดื่นดาษปราการ์ ฯ
  ๏ บ้างตายบ้างต้อนเข้ามา
พลไทยเข่นฆ่า นักลาวเมือบม้วยเมืองไป ฯ
  ๏ แต่ตั้งรบรับทัพไทย
เจ็ดวันรับไว้ ไพร่พลก็น้อยเบาบาง ฯ
  ๏ บ้างเจ็บบ้างป่วยครวญคราง
น่าที่ระวาง ต่างหลบต่างลี้หนีไป ฯ
  ๏ ทวยไทยได้ทีชิงไชย
ต่างปีนขึ้นได้ บนที่ปราการ์ธานี ฯ
  ๏ ต่างเข้าไล่พลโยธี
เฉาะฉะเกษี ชาวเวียงก็แตกครื้นเครง ฯ
  ๏ เผ่นโผนโจนทับกันเอง
สับสนอลเวง แตกตื่นทั่วทั้งภารา ฯ
  ๏ ซุกซนด้นหนีเข้าป่า
บ้างหนีเข้าหา กองทัพพวกพลทวยไทย ฯ
  ๏ เจ้าเมืองลำพูนเวียงไชย
อพยพแล่นไป นครเชียงใหม่บุรี ฯ
  ๏ ทวยไทยตีได้ธานี
สิ่งของมูลมี คชอัศวนานา ฯ
  ๏ สรรพยุทธอาวุธปืนยา
รวบรวมเอามา ส่งท่านนายกโยธี ฯ
  ๏ บ้างเข้าอยู่ในบุรี
เลี้ยงกันอึงมี่ สนั่นทั่วทั้งภารา ฯ
  ๏ นายกให้พรรคโยธา
ตั้งค่ายประดา น่าเมืองลำพูนเวียงไชย ฯ
  ๏ หยุดหย่อนผ่อนปรนพลไกร
แล้วจะยกไป ตีเอาเชียงใหม่บุรี ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างเจ้าณเชียงนครลาว สุตข่าวณวาที
เสียดวงณเขตนครศรี ปรปักษทวยไทย ฯ
๏ ทุกข์โทมนัศกมลจิตต์ ผิวพิศประหารใน
ทรวงร้อนสท้อนอุรฤทัย อุสุเพียงประหารผลาญ ฯ
​๏ แข็งยืนฤทัยกรประภาษ วรนารถโองการ
ตรัสสั่งณเสวกทหาร กรเร่งตระเตรียมพล ฯ
๏ ออกไปประยุทธปะทะทัพ อริรับณตำบล
ตามเขตและแดนปฐสถล ณวิถีริปูคลา ฯ
๏ แสนท้าวพระยาสุตสดับ วรรับณบัญชา
เร่งรัดตระเตรียมพลพลา กรยุทธณรงค์รณ ฯ
๏ พรรคพร้อมพหลพลนิกาย ก็ขยายจเรดล
ตั้งค่ายประดาระยะสถล ณวิถีณมรรคา ฯ
๏ คอยรับณทัพนิกรไทย ปะทะไว้มิให้คลา
ล่วงเขตและแดนนครมา กรยุทธณเวียงไชย ฯ
๏ เสร็จแล้วก็ให้นิกรพล ชวชนแสะช่วงใช้
คอยเหตุแลการวจนะใน กิจแจ้งแถลงสาศ์น ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ กัษนั้นณโกษา ปรินายกาชาญ
สั่งเสวกาการ จรจัดขนัดพล ฯ
๏ เร่งรีบกระบวนรุท กรยุทธ์ณรงค์รณ
ให้พร้อมณบัดดล กรทันณบัญชา ฯ
๏ บัดนั้นภณายพล จรดลณโยธา
ตรวจจัดพหลพา หนะสรรพโยธี ฯ
​๏ พรรคพร้อมนิกายกร ธก็จรกระบวนลี
ล่วงจากณบุรี นคเรศประเทศไคล ฯ
๏ ดลเขตณท้องทุ่ง จรมุ่งขเม่นไป
ยลค่ายณแต่ไกล ระยะว่างณทางจร ฯ
๏ พรอกกันและนั่นว้า พลพาห์สลับหลอน
ล้วนพวกนิกายกร ปะทะทัพก็ปักธง ฯ
๏ ทวยไทยบได้พรั่น กรหันกระบวนตรง
เข้าล้อมตล่อมวง ปะทะโอบตลอดหลัง ฯ
๏ นายกก็สั่งพล จรดลณค่ายตั้ง
ต้านน่าประดาดัง กรยุทธชิงไชย ฯ
๏ ตีเอาณทุกค่าย ระยะรายทหารไว้
รับรบประจบให้ กรแหลกและแตกฉาน ฯ
๏ ฝ่ายพวกพหลไทย สุตไขณข้อขาน
ต่างต่างละลนลาน จรแยกกระบวนคลา ฯ
๏ พลช้างก็ขับช้าง จรย่างยะเย่ามา
พลม้าก็ขับม้า จรคลาจเรไคล ฯ
๏ พลง้าวก็แกว่งง้าว กรง่าขยับไว้
พลตาวก็กวัดไกว และอะร่ามก็ตามแซง ฯ
๏ พลดั้งและดั้งดาบ และมะลังมะเลืองแสง
พลหอกก็หอกแยง จรแข่งขนัดกัน ฯ
​๏ พลทวนก็สวนแทรก จรแยกกระบวนผัน
พลปืนก็ยืนยัน ปะสะตันก็ตรอกลง ฯ
๏ ต่างต่างก็มุ่งมาท จะพิฆาตริปูปลง
ปลดชีพผุยผง บมิเหลือจะเมื้อเวียง ฯ
๏ พรรคพลก็ดลถึง อุสุปึงประดังเปรี้ยง
ครื้นครั่นสนั่นเสียง ธุมะกลบตระหลบไป ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ ฝ่ายพวกแสนท้าวเชียงใหม่
ยลทัพทวยไทย ยกไล่รบรุกบุกบัน ฯ
  ๏ เร่งรีบขับพลประจัน
รบรับพัลวัน ยืนยันเข้าต่อต้านตี ฯ
  ๏ ปล่อยปืนครึกครื้นธรณี
ต่างกล้าราวี เข้าตีเข้ากลุ้มตลุมบอน ฯ
  ๏ ตายกลาดเดือนดาษดินดอน
ทรากศพซับซ้อน ต่างต้อนต่างตีประดา ฯ
  ๏ ทวยไทยว่องไวแกล้วกล้า
ฟันฟาดศาสตรา พิฆาตเข่นฆ่าราวี ฯ
  ๏ พลช้างขับช้างจรลี
ไล่แทงโยธี นักลาวเมือบม้วยบันไลย ฯ
  ๏ พลม้าขับม้าว่องไว
พุ่งหอกซัดไป ประหารฆ่าศึกลายลาญ ฯ
  ๏ พลง้าวแกว่งง้าวห้าวหาญ
ไล่รุกรอนลาญ ฟันฟาดฉับฉาดสิ้นชนม์ ฯ
  ๏ พลดาบดาบดั้งรุกรณ
ป้องปัดฟันบน มะลางชีวิตวายปราณ ฯ
  ๏ พลหอกกลอกกลับต้านทาน
แทงพุ่งประหาร ไส้พุงทะลักรั่วไหล ฯ
  ๏ พลปืนยืนยิ่งว่องไว
ลั่นออกทีไร นักลาวก็ม้วยลาญชนม์ ฯ
  ๏ ทัพลาวบได้ทานทน
แตกยับปี้ป่น ตายกลางดาษดื่นธรณี ฯ
  ๏ แตกไปทุกค่ายน่าที่
บ้างหลบล้างหนี ครีกครื้นตื่นกันวิ่งไป ฯ
  ​๏ บ้างหนีเข้าป่าพงไพร
บ้างแล่นเข้าใน นครเชียงใหม่บุรี ฯ
  ๏ บ้างแล่นเข้าหาโยธี
ซุกซนด้นหนี เที่ยวทุกเที่ยวซ่อนแอบแฝง ฯ
  ๏ โยธาทวยไทยไล่แทง
เลือดสาดดาษแดง ซึมซาบอาบพื้นปัฐพี ฯ
  ๏ อาวุธสรรพยุทธ์โยธี
ตกกลาดธรณี ทวยไทยเก็บได้มากมาย ฯ
  ๏ คชอัศวทั้งหลาย
ตื่นแตกวุ่นวาย พลไทยไล่ขับจับมา ฯ
  ๏ วัตถุสิ่งของนานา
รวบรวมไคลคลา ส่งท่านแม่ทัพทันที ฯ
  ๏ จีงท่านโกษาธิบดี
ให้ยกจรลี รีบเร่งไต่เต้าตามไป ฯ
  ๏ ดลเขตบุรีเชียงใหม่
ตั้งค่ายเร็วใว หุ่มห้อมเข้าล้อมภารา ฯ
  ๏ แล้วจึงให้ขุดดินมา
ก่อเปนปราการ์ โอบอ้อมล้อมถึงปราการ ฯ
  ๏ โดยเบื้องทักษิณทิศถาน
น่าเมืองบนาน เสร็จแล้วก็มั่มโยธี ฯ
  ๏ ฝ่ายพวกนักลาวแตกหนี
ต่างต่างจรลี ครึกครื้นตื่นเข้าภารา ฯ
  ๏ วิ่งแซงแข่งกันขึ้นหน้า
แกลนพวกโยธา ไล่เข่นไล่ฆ่าราวี ฯ
  ๏ หับทวารเขื่อนลั่นทันที
ส่งเสียงอึงมี่ ชาวเวียงพลอยตื่นตกใจ ฯ
  ๏ ครื้นครั่นสนั่นหวั่นไหว
บ้างวิ่งขึ้นไป รักษาน่าที่ปราการ ฯ
  ๏ บ้างแล่นเข้าในสถาน
ทูลเจ้าหลวงหนาน บัดนี้เสียทัพอัปรา ฯ
  ๏ ทัพไทยไล่ติดตามมา
ตั้งล้อมภารา จงทราบบาทาท้าวไทย ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ บัดนั้นณหลวงลาว อุระผ่าวตรดกใจ
อ้ำอึ้งตะลึงไป บมิได้จะนั้นจา ฯ
๏ อั้นอยู่ณครู่หนึ่ง สติจึงอุบัติปรา
กฎแก่ณวิญญา ธก็ตรัสสนองไป ฯ
​๏ ดูก่อนณสูเจ้า จรเต้าณเร็วไว
ปราการทวารใน กรไว้ณมั่นคง ฯ
๏ ป้อมใหญ่ระไววัง อุสุตั้งกระบอกตรง
ยิ่งค่ายทลายลง อริต่อมลาญปาน ฯ
๏ แล้วสูตระเตรียมพล จรดลและต่อต้าน
รบรับประจันบาน ปรปักษ์ปราไชย ฯ

๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ กัษนั้นนักลาวแจ้งใน
พจนข้อไข แสนหลวงเชียงใหม่บัญชา ฯ
  ๏ ต่างต่างมลนลานมา
จัดพลโยธา รักษาน่าที่ปราการ ฯ
  ๏ ป้อมใหญ่ป้อมน้อยทุกด้าน
ตรวจจัดทหาร รายรอบทั่วขอบภารา ฯ
  ๏ พร้อมเครื่องสรรพยุทธ์นานา
เสร็จแล้วบช้า ก็จัดพหลนิกร ฯ
  ๏ พร้อมพรรคโยธาสลอน
บ้างถือโตมร ธนูน่าไม้ปืนยา ฯ
  ๏ หอกดาบแหลนหลาวผาลา
พร้อมเครื่องศาสตรา ถ้วนทั่วทุกตัวโยธี ฯ
  ๏ ได้ฤกษเลิกพลจรลี
ออกจากบุรี ตรงไปยังที่รณรงค์ ฯ
  ๏ เบื้องนั้นนายกเกรียงยง
ทัศนาทวนธง ระดะระดาษเดียรดา ฯ
  ๏ พลลาวเกลื่อนกล่นยกมา
ออกจากภารา ตั้งหน้าจะยุทธ์ชิงไชย ฯ
  ๏ จึงสั่งนายกองทันใด
จัดพลทวยไทย เข้ารบเข้ารับราวี ฯ
  ๏ ต้านหน้าประดาต่อตี
แล่นให้ป่นปี้ ให้เหลวให้แหลกลาญปาน ฯ
  ๏ นายกองได้ฟังลนลาน
ต่างจัดทหาร พร้อมเครื่องสรรพยุทธ์โยธา ฯ
  ​๏ ยกออกจากค่ายประดา
ต่างต่างเริงร่า บอ่าวบคร้ามไพรี ฯ
  ๏ ดลทัพขับพลโยธี
เข้าไล่ต่อตี ประเชิญหน้าดาประดัง ฯ
  ๏ ปล่อยปืนครื้นครื้นตึงตัง
โอบอ้อมล้อมหลัง เข้ากลุ้มเข้ารุมชิงไชย ฯ
  ๏ นักลาวรบรับทัพไทย
รวดเร็วว่องไว ต่างไล่ต่างรันฟันฟอน ฯ
  ๏ ต่างกล้าต่อกล้าราญรอน
ตายกลาดดินดอน สองข้างต่างม้วยลาญปาน ฯ
  ๏ พลไทยชิงชัยท้าวหาญ
ต่อตีต้านทาน ได้ทีประหารลาญชนม์ ฯ
  ๏ พลลาวบได้ทานทน
ฝีมือไทยรณ รงค์รับขับเขี้ยวกันไป ฯ
  ๏ หลู้แหลกแตกยับทัพไทย
ต้านอยู่บได้ ก็ตื่นก็แตกอลวน ฯ
  ๏ วิ่งหนีซ้อนซับสับสน
ซุกซอนซ่อนตน ปลวลตื่นเข้าภารา ฯ
  ๏ หับทวารเขื่อนลั่นแน่นหนา
พวกบนปราการ้ คอยต่อคอยต้านทัพไทย ฯ
  ๏ ฝ่ายพวกโยธาเกรียงไกร
รบรุกบุกไล่ กระทั่งถึงเชิงประการ ฯ
  ๏ นักลาววิ่งหนีลนลาน
ลั่นเขื่อนทวาร สนิทปิดมั่นตรึงตรา ฯ
  ๏ จึงถอยพรรคพลโยธา
กลับหลังไคลคลา เก็บเครื่องศาสตรามากมี ฯ
  ๏ เที่ยวกุมไอยราพาชี
ชนลาวแตกหนี ส่งท่านนายกสิ่งสรรพ์ ฯ
  ๏ นายกจึงให้รางวัล
แก่พวกพลขันธ์ ถ้วนทั่วตัวไพร่แลนาย ฯ
  ๏ กินอยู่หลับนอนผ่อนกาย
มั่นอยู่ในค่าย ตลอดรุ่งทิวาราตรี ฯ
  ๏ รุ่งเช้าลาวยกโยธิ
ออกต่อต้านตี สัประยุทธ์กับพรรคทวยไทย ฯ
  ๏ ทวยไทยเข้มแข็งชาญไชย
ตีลาวเชียงใหม่ แตกพ่ายทุกครั้งทุกครา ฯ
  ๏ พรรคลาวเข็ดขยาดระอา
บได้ออกมา ยงยุทธ์ด้วยพวกทวยไทย ฯ
  ๏ ตั้งมั่นอยู่ในเวียงไชย
แกลนเดชเกรียงไกร บอาจออกต้านต่อตี ฯ
  ๏ เบื้องนั้นโกษาธิบดี
ขยดเห็นท่วงที แม่นแท้แน่ในฤทัย ฯ
  ๏ ตีเอาเชียงใหม่คงได้
ถวายพระจอมไตร บดินทรธิราชธานี ฯ
  ๏ จึงรจน์ใบบอกศาสน์ศรี
ใช้ชนพาชี ตีวีสติเต้าตามผลู ฯ
  ๏ ถวายองค์กฤษณราชภู
ธรเธอทราบรู้ ตระหนักประจักษ์หฤทัย ฯ
  ๏ กัษนั้นชนชวชาญไชย
ไต่เต้าคลาไคล ก็รีบตรบัติโดยดล ฯ
  ๏ เข้าในนิเวศจุมพล
ส่งศาสน์ยุบล ให้แก่มหาเสนี ฯ
  ๏ จึงท่านมหามนตรี
รับเอาศาสน์ศรี ขึ้นเฝ้าจอมเจ้ามณฑล ฯ
  ๏ ทูลแถลงแจ้งกิจยุบล
โดยในศาสน์สนธิ์ ทรงทราบสิ้นทุกประการ ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ป่างองค์พระกฤษณบดินทร์ ธรนินทร์พิภพผ่าน
แจ้งในกระแสยุบลสาร วรภักตร์ธผ่องใส ฯ
๏ ทรงโสมนัสมนะเกษม ศุขเปรมฤทัยใน
จึงแย้มพระโอษฐ์มธุรไข สิหนาทธโองการ ฯ
๏ ตรัสสั่งณเสวกมหา ธิบดีณทวยหาญ
ฉนะหุตพหลพล ฯ จงจัดขนัดพลแสะสาร
๏ ปัญจาสตาพลคชา จรคลาจเรดล
ปัญจาสตาหยพหล จรดลจเรไคล ฯ
๏ คอยรับณรานครเถิน ณวิถีพนมไพร
พร้อมพลพหลพยุหไว้ กรเสร็จเสดจดล ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ รับราชชโยงการ ธรบาลธิเบศรชน ฯ
เร่งจัดกระบวนพล อภิชาติ์และพาชี ฯ
๏ พร้อมสัตริยาวุทธ์ อุสุยุทธ์ธนูตรี
เสร็จสรรพโยธี ธก็เคลื่อนพหลจร ฯ
๏ ไต่เต้ามรัญคา วนนาณดงดอน
แนวเนินณสิงขร ก็ลุเถินณบุรี ฯ
๏ คอยรับพระจอมพงศ์ หริองค์พระจักตรี ฯ
โดยนัยพระภูมี วจนาถธบรรหาร ฯ

๏ วสันตดิลกฉันท ๚

๑๔ ครั้นถึงพิไชยวรเศิก มหุฤกษตระบัติกาล
จอมนาถนรายน์อิศรผ่าน วรลพบุรีรมย์ ฯ
๏ สรวมเครื่องอลังกรณอา- ภรณรัตนโยดม
ภูสิตกระษัติยนิยม กรยุทธนาทรง ฯ
๏ กุมเกี่ยวคธาธรพระขรรค์ วรอันประยุทธยง
สรรพเสร็จเสดจจรก็ลง ณขจิตรนาวี ฯ
๏ รำไพพฤๅวรกระช่าง ชวลิตมณีศรี
ถ่องแถวเสวตวรขจี อภิรุมและชุมสาย ฯ
๏ พัดโบกและบังสุริยส่อง ธุชะรองสุวรรณพราย
บังแทรกและจ่ามรก็หลาย ระยะนับสลับเรียง ฯ
​๏ กันชิงและกลดบวรสรรพ นุประดับขนานเคียง
สังข์แตรก็แซ่เสนาะนุเสียง ดุริยางคดนตรี ฯ
๏ ได้ฤกษพระโหรธกรลั่น ณสุวรรณเภรี
เรือดั้งและกันชลวิถี ก็อธึกคคึกดัง ฯ
๏ เรือท้าวพระยาคณขนัด นุประวัติประพาสผัง
คู่คู่ก็พายชรประนัง จรนำและตามคลา ฯ
๏ โยวโยวพหลนิกรสรรพ ระยะรับบโทนมา
ยับยับพพายสลิละพา กลฝอยพิรุณโปรย ฯ
๏ จ้วงจ้วงคคลาจรก็แข่ง ก็บแซงบอิดโรย ฯ
เทื้อมเทื้อมก็พายชลนุโดย กรห่มนิราคลา ฯ
๏ นาวาพระพุทธรติใส่ กรไชยธาดา
นำเรือพระภูธรวรา พยุห์ทัพกระบวนดล ฯ
๏ รอนแรมณสินธุรธวา ธประทับก็หยุดพล
เมืองเถินสถิตยพหล ระยะที่ประทับพลา ฯ
๏ ครั้นรุ่งทิวากรจะเดิน พลเกรีนก็เตรียมมา
คอยองค์พระจักกกฤษณธรา ธรทรงคชาพัง ฯ
๏ นามกินนราคชวิหค จรยกระบวนตรัง
ไพรโตรนุโพนจรก็หวัง คณพลก็เขี่ยวดล ฯ
๏ ถึงที่ก็หยุดพยุหพัก บริรักษ์พระจอมพล
ทั่วเขตประเทศวนสน ธประทับณะพลับพลา
​๏ ตรัสสั่งเกษียนกรประทับ วรราชลัญจา
แจ้งความเสดจจรนุคลา จะประยุทธเคร่ากาล ฯ
๏ กว่าเราจะดลพยุหบาท อริราชประรอนราญ
มั่นรักษเตรียมพลแสะสาร ผิวต่อก็โดยเรา ฯ

๏ อินทรวิเชียรฉันท ๚

๑๑ โกษาพระยาฟัง วรสั่งพระจอมเมา
ลีภพนรายณ์เผ่า สุรพงศเดชา ฯ
๏ จึงสั่งตระเตรียมที่ ธสถิตยพลับพลา
พร้อมเสวกาคลา จรเฝ้าพระทรงธรรม์ ฯ
๏ เสร็จที่ประทับรับ วรสรรพสิ่งสรรพ์
ทูลเชิญเสดจพลัน จรสู่ประเทศเชียง ฯ
๏ ครั้นได้อุดมฤกษ นรเกรีกก็รายเรียง
ครื้นครั่นสนั่นเสียง เสนาะโสตนุเกรียวกราว ฯ
๏ เดินดลอรัญเวศ ก็ลุเขตนครลาว
นายไพร่นุไต่เต้า คตตามคณาชน ฯ
๏ จอมนาถสถิตย์ใน วนไพรก็พร้อมพล
แน่นนับนุสับสน

บริรักษพระจักตรี ฯ

๏ ดำรัสจะผ่อนพัก คณชนและเสนี
กุญชรผละพาชี พลพีนจเรไคล ฯ

​๏ ฉบงง ๚

  ๑๖ บัดนั้นแสนหลวงเชียงใหม่
ความแกลนทัพไทย ดังมัจจุคอยผลาญ ฯ
  ๏ แสนทุกข์โทมนัสแดดาล
เคียดเคืองราคาญ ฤทัยประดาษอาดูร ฯ
  ๏ กรรปนกตกไร้ขาดสูญ
อนาถเกื้อกูล ผู้ใดจะช่วยดับเข็ญ ฯ
  ๏ คงมีวิบัติเกิดเปน
เที่ยงแท้ลำเคญ ได้ยากลำบากบนาน ฯ
  ๏ ครั้นจะแต่งพลต่อต้าน
ทวยไทยประหาร ชีวิตพินาศตักษัย ฯ
  ๏ คยดหนีบพ้นทัพไทย
ด้วยตั้งล้อมไว้ หลายเซ็งหลายชั้นตรึงตรา ฯ
  ๏ ครั้นจะออกอ่อนน้อมกายา
ยอมถวายภารา ก็แสยงชีวิตลาญชนม์ ฯ
  ๏ ด้วยตูลิ้นล่ายหลายหน
กรโทษใส่ตน ดั่งนี้ก็กรรมก่อนกาล ฯ
  ๏ เธอยิ่งแสนโศกลุงลาน
ดุจอสุนีประหาร ชีวิตให้ม้วยตักษัย ฯ
  ๏ สิ้นคิดกลเลศภายใน
อ้นอั้นฤทัย ก็มั่นอยู่ในภารา ฯ
  ๏ เสี่ยงเอากุศลวาสนา
อุดหนุนมีมา เพื่อว่าจะพ้นโพยภัย ฯ
  ๏ จึงรจน์ลิขิตเร็วไว
ใบบอกขึ้นไป ยังกรุงอังวะบุรี ฯ
  ๏ ขอพลมาช่วยราวี
รีบร้อนจรลี ลงมาช่วยเผือเร็วไว ฯ
  ๏ บัดนี้กองทัพทวยไทย
ตั้งล้อมเวียงไชย รบเอาเชียงใหม่ธานี ฯ
  ๏ แม้นช้าจะเสียท่วงที
เห็นท่าบุรี จะเสียแก่พวกทวยไทย ฯ
  ๏ เสร็จสรรพพับผนึกทันใด
ส่งให้มาใช้ รีบเร่งไต่เต้าจรลี ฯ
  ๏ แล้วยินสำเนียงอึงมี่
กึกก้องธรณี สท้อนสะเทื้อนหวั่นไหว ฯ
  ๏ จึงให้นักลาวเร็วไว
ไต่เต้าขึ้นไป บนเจดีย์ใหญ่ทันที ฯ
  ​๏ จึงเห็นรี้พลโยธี
เยียดยัดปัฐพี ยกมาประทับรายเรียง ฯ
  ๏ โดยทิศอาคเณแดนเวียง
แหล่หลายค่ายเคียง ประมาณหลายหมื่นโยธา ฯ
  ๏ ยลแล้วไต่เต้าไคลคลา
ทูลแจ้งกิจจา แก่เจ้าแสนหลวงเวียงไชย ฯ
  ๏ แสนหลวงตระดกฤทัย
ยิ่งแสยงทัพไทย ภักตราสลดหมดศรี ฯ
  ๏ ความกลัวเหลือแกลนแสนทวี
แข็งขืนฤดี ตรัสสั่งนักลาวทันใด ฯ
  ๏ สูเร่งป้องกันเมืองไว้
เอาไม้ซุงใหญ่ ผูกแขวนโดยใบเสมา ฯ
  ๏ ให้รอบทั่วทั้งปราการ์
แม้ริปูคลา จะได้ฉินเชือกปล่อยไป ฯ
  ๏ ให้ทับฆ่าศึกบรรลัย
ลาญชีพตักษัย บให้เข้าใกล้ปราการ ฯ
  ๏ คั่วทรายคอยไว้ประหาร
เตลเดือดพลุ่งพล่าน คอยซัดคอยราดสาดไป ฯ
  ๏ อย่าให้ข้าศึกเข้าใกล้
ทำการชิงไชย ป่ายปีนขึ้นบนปราการ ฯ
  ๏ สูงจงเร่งเร็วบนาน
โดยตูบรรหาร ให้เสร็จพร้อมสิ้นทันใด ฯ
  ๏ นักลาวทั้งหลายแจ้งนัย
บัญชาเชียงใหม่ ก็รีบตระบัดโดยดล ฯ
  ๏ เกณฑ์พลลากไม้ซุงขน
ขึ้นปราการบน ก็ผูกก็เหนี่ยวตรึงตรา ฯ
  ๏ เครื่องสัดเครื่องสาดนานา
สรรพยุทธศาสตรา กระทำเสร็จสิ้นสิ่งสรรพ์ ฯ
  ๏ รักษาน่าที่กวดขัน
กลางคืนกลางวัน บได้ประมาทการงาน ฯ
  ๏ คอยฟังแต่ข่าวสื่อสาร
อังวะเวียงม่าน จะมาบมาฉันใด ฯ
  ๏ ฝ่ายชนม้าใช้รีบไคล
ไต่เต้าเร็วไว ก็ลุอังวะธานี ฯ
  ๏ เข้าในนิเวศน์บุรี
หาม่านมนตรี ก็ส่งลิขิตให้พลัน ฯ
  ๏ มนตรีรับเอาศาสน์นั้น
อ่านแจ้งสำคัญ คดีถี่ถ้วนมีมา ฯ
  ๏ สยดสยองพองเกล้าเกษา
แสยงเดชฤทธา บอาจยกพลไคล ฯ
  ๏ ไต่เต้าไปช่วยเวียงไชย
แสนหลวงเชียงใหม่ ก็นิ่งอยู่ในธานี

 

  1. ๑. เพ็ญ (ตกไว้ด้วยดินสอ)

  2. ๒. ส่ง ?

  3. ๓. ธิบดีและเสนา (ลายดินสอดำ)

  4. ๔. เกลื่อน ?

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ